มาแล้วกับ iPad ตัวล่าสุด ของ Apple นะครับ นั่นก็คือ iPad 2018 ซึ่งเป็น Gen 6 ครับ ตัวนี้ เป็น iPad ขนาด 9.7 นิ้ว ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่สามารถใช้ Apple Pencil โดยราคานั้นเบากว่า iPad Mini อีกครับ จะเป็นยังไงลองไปดูกันครับ
ก่อนอื่นเลย เจ้า iPad 2018 ตัวนี้มีมาถึง 3 สีครับ โดยมีสีทอง ที่เพิ่มมาจากรุ่นก่อนๆ ส่วน อีก 2 สี จะเป็นสีเงินและสีเทา แบบที่เราเคยเห็นๆ กันมาในรุ่นก่อนครับ
ราคาของเจ้าตัวนี้ ก็เปิดตัวที่ราคาเบามากๆครับ ตัว Wifi 32GB นั้น อยู่ที่ 11,500 บาท ( หรือ 10,800 บาทสำหรับนักศึกษา ) เท่านั้นเองครับ ถูกกว่า iPad Mini ที่เริ่มที่ 14,900 บาทครับ
อุปกรณ์ต่างๆ ภายในกลุ่ม ก็จะมีตามมาตรฐานของ Apple ครับ ก็คือ
– ตัว iPad
– สาย Lightning
– Adapter
สเปค ของ iPad 2018 ครับ โดยคร่าวๆแล้วเจ้า iPad 2018 ก็จะใช้เป็น
– ชิพ Apple A10 Fusion ซึ่งเป็นตัวเดียวกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ครับ
– จอ IPS 2048 x 1536 ขนาด 9.7 นิ้ว
– มาพร้อมพอร์ต Lightning และ 3.5mm
– น้ำหนักประมาณ 470 กรัมครับ
หลังจากที่ได้จับเจ้าตัวนี้มา ก็ต้องบอกเลยว่าวัสดุ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ ผิวสัมผัสเหมือน รุ่นพี่ตัวก่อนๆ หน้า ที่ให้ผิวสัมผัสที่ค่อนข้างดี จับค่อนข้างสะดวกครับ ไม่ทิ้งรอยนิ้วมือ
ส่วนความหนาของเครื่องก็ทำได้ดีครับ ในรูปจะเป็นการเทียบกับ iPhone7Plus ครับ ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว จะมีขนาดที่ไม่ต่างกันเลยครับ ( ในภาพตัว iPhone7Plus จะติดฟิล์มกันรอยเอาไว้ครับ )
ด้านล่าง ของ iPad 2018 นี้ก็จะเหมือนตัวรุ่นพี่ครับ มีช่อง Lightning และ ช่องลำโพงครับผม
ส่วนด้านขวาของเครื่องก็จะมี ช่องปรับเสียง และ ช่องใส่ซิมครับ สำหรับตัว Wifi + Cellular
เจ้าตัว iPad 2018 นี้ก็ยังมีช่องหูฟัง 3.5mm ครับ ยังสามารถใช้หูฟังแบบไม่ต้องใช้ Adapter ได้ครับ
จากการใช้งาน ดูหนัง หรือว่า ดู วิดีโอต่างๆ ก็ถือว่าใช้งานได้ดีเลยครับ จอภาพนั้นสีสด สู้แสงได้ดีครับ เพียงแต่ว่า ลำโพงนั้นไม่ใช่ Stereo ครับ จะมีลำโพงเฉพาะด้านล่างเท่านั้น ทำให้รู้สึกเสียอารมณ์ไปบ้างเวลาดูหนังครับ
กล้องของตัวนี้ ก็ไม่เลวเลยครับ เป็นกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เหมาะกับการใช้งานทั่วๆไป เพื่อทำงาน โดยไม่เน้นภาพที่ได้มากนัก
ฟีเจอร์หลักของตัวนี้ที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือ ความสามารถของมันที่จะใช้ร่วมกับ Apple Pencil ได้ครับ ตัวนี้สามารถใช้งานกับ Apple Pencil ได้ดีเลยครับ จากที่ลองเปรียบเทียบกับ iPad Pro แล้ว ให้ความรู้สึกแทบจะไม่ต่างกัน มีเพียงแต่ว่าเจ้า iPad 2018 อาจจะตอบสนองได้ช้ากว่านิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับรำคาญหรือเห็นผลได้ชัดครับ
ค่า Benchmark ของตัวนี้ก็ทำได้ดีเลยครับ ถ้าเทียบกับ iPad แล้ว เป็นรองเพียง iPad Pro 10.5 และ iPad Pro 12.9 เท่านั้นครับ ส่วน iPad Pro 9.7 นั้น ด้อยกว่าตัว 2018 ครับ
แบตเตอร์รี่ ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานมากๆครับ ส่วนตัวแล้ว จะให้เปิดเพื่อเป็นจอที่ 2 หรือ เอาไว้สำหรับเปิด Youtube บ้าง หรือ Netflix บ้างเวลาทำงานครับ สามารถอยู่ได้ทั้งวันครับ
สรุปแล้ว iPad 2018 เป็นตัวที่น่าสนใจมากๆเลยครับ สำหรับคนที่กำลังมองหา Tablet ซักตัว เพื่อใช้ทำงานหรือพกแทน Notebook ตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะ สำหรับคนที่ชอบขีดๆเขียนๆ อยู่แล้ว Apple Pencil ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยครับ ด้วยราคานี้ ฟังก์ชั่นเท่านี้ บอกได้ว่า คุ้มครับ