อุ้มเคยบอกเจ้าของเครื่อง Note ท่านนึงว่า กลัว Note 9 เปิดตัวออกมาแล้วหน้าตาเหมือนๆเดิม คงน่าเบื่อน่าดู เจ้าของเครื่องท่านนั้น ตอบอุ้มมาสั้นๆประโยคเดียวค่ะว่า “ขอแค่ปากกาเจ๋งขึ้นก็พอ” เลยนึกขึ้นได้ว่า ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจฉันใด …  ปากกาคือหัวใจของ Galaxy Note ฉันนั้น (ว่าไปโน่น 555)

S Pen สีเหลือง

กลายเป็นภาพจำของ Note 9 ไปซะแล้วนะคะ สำหรับปากกา S Pen สีเหลือง ตอนแรกอุ้มคิดว่ามันดูอมทองๆรึเปล่า พอแกะออกมา เหลืองแบบเหลืองเลย และตรงหัวของมันจะเป็นสีน้ำเงิน ส่วนตัวอุ้มชอบมากเลย สีสวยโดดเด่นกว่าสีดำแบบเดิมๆ ซึ่งจริงๆเครื่องแต่ละสี จะมีปากกาคนละสีกันนะคะ

 

ก่อนจะออกทะเลไปไกล ความเจ๋งของ ปากกา-ยสิทธิ์ที่อุ้มว่า คงจะเป็นเรื่องการเชื่อมต่อบลูทูธระหว่างปากกากับตัว Note 9 ได้ ผ่านเทคโนโลยี Bluetooth Low-Energy (BLE) ซึ่งใช้พลังงานต่ำมาก โดยเราจะชาร์จปากกาได้โดยการเสียบกลับเข้ารูไป ชาร์จเพียง 40 วินาที ปากกาจะใช้งานต่อได้อีก 30 นาที หรือกดปุ่มที่ปากกาได้ 200 ครั้ง

มันต่อบลูทูธได้ จะดียังไง คอนเซปคือการกลายร่างปากกา S Pen เป็นรีโมทคอนโทรล สามารถกดเพื่อถ่ายรูปได้ เปลี่ยนกล้องหลังกล้องหน้าได้ รวมไปถึงการกดอัดเสียง หยุดเพลงต่างๆนาๆ ไว้มาเล่าอีกครั้งในรีวิวฉบับเต็มนะคะ

แต่ถ้าหากปากกาแบตหมดกลางทาง เราก็ยังคงใช้ปากกา S Pen กลายร่างเป็นปากกา S Pen อันเดิม ที่ขีดเขียนบนหน้าจอได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลนะคะ

ความน่ารักของปากกา S Pen ตัวใหม่คือ สีปากกาเวลาเราเขียน Screen Off Memo จะเป็นสีเดียวกับตัวปากกาเลยค่ะ ถ้าอยากได้สีอื่น ก็ต้องไปถอยแท่งใหม่กัน ต่อไปคงมีวางขายปากกาเหมือน Pentel ไรงี้ 555

 

กล้องฉลาดขึ้น

AI มาสักทีในนามของ Scene Optimization โดยตัวกล้องจะทำการวิเคราะห์วัตถุหรือฉากได้ถึง 20 รูปแบบ เวลามันจับได้ว่าเป็นอะไร ก็จะมีการปรับสี คอนทราสให้อัตโนมัติ

โดยกล้องหลัง มากับกล้องคู่ความละเอียด 12MP ตัวนึงมี Dual Aperture F1.5/2.4 และอีกตัว F2.4 คือดึงของสเปคของ S9 มาใส่นั่นเอง แต่ไม่รู้ว่า Module เดียวกันรึเปล่า

กล้องตัวนี้ยังมี Flaw Detection หากมีความผิดพลาดของภาพเช่น หน้าเบลอ มีคนกระพริบตา จะแจ้งเตือนขึ้นมาให้ถ่ายใหม่อีกครั้ง (เผือกนะเราเนี่ย 555)

 

Note 9 สีน้ำเงิน

กลายเป็นอีก Signature นึงของ Note 9 ไปซะแล้วค่ะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสวยจริงๆ เวลาบอดี้สีน้ำเงิน เข้าคู่กับปากกา S Pen สีเหลือง โดยถ้าถามว่าแตกต่างกับ Note 8 ยังไงบ้าง ลองลิสต์มาคร่าวๆดังนี้

  • หน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 6.4 นิ้ว
  • ขอบบนเล็กลง
  • หนาขึ้นหน่อย สั้นลงนิด แต่จับแล้วรู้สึกบางขึ้น
  • หนักขึ้นหน่อยๆ
  • แบตก้อนใหญ่ขึ้นมากถึง 4,000 mAh

โดยชิปประมวลผล จะเปลี่ยนมาใช้ Exynos 9810 และมากับระบบระบายความร้อนสำหรับคนที่ชอบเล่นเกม รวมทั้งลำโพงจะกลายเป็นสเตอริโอพัฒนาโดย AKG และรองรับเทคโนโลยี Dolby Atmos อีกด้วย

ถ้าจะติ ก็คงเป็นเรื่องของการออกแบบด้านหลัง ที่แอบแปลกๆไปหน่อยแถวๆกล้องหลังและที่สแกนลายนิ้วมือ นอกนั้นก็ดูสวยงามดี มากับความจุให้เลือก แบบ 128GB  หรือ 512GB แรม 6/8 GB ตามลำดับ

 

SUMMARY

จริงๆแล้วคงยังสรุปอะไรตอนนี้ไม่ได้ค่ะ เพราะใช้เวลากับมันน้อยเกินไป ถ้าถามว่าว๊าวมั้ย คงเป็นการว๊าวที่ลูกเล่นที่ใส่มาให้ เอาเป็นว่า ใครที่เป็นสาย Note อยู่แล้ว ก็ไม่น่าพลาดค่ะ กับปากกาที่เขียนได้เหมือนเขียนบนกระดาษมากยิ่งขึ้น แถมยังใช้งานเป็นรีโมทได้อีกด้วย

โดยประเทศไทย จะเป็น Tier แรกที่เปิดจองและวางจำหน่ายค่ะ สามารถสั่ง Pre-booking ได้ ตั้งแต่วันที่ 10-21สิงหาคมนี้ ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

  • ซัมซุงแบรนด์ช็อป ร้านค้าที่ร่วมรายการ เลือกรับของกำนัลมูลค่า 6,000 บาท และรับ S Pen Limited Edition สี Lavender Purple มูลค่า 850 บาท ฟรี พร้อมสิทธิรับประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี ในกรณี ตก แตก ร้าว
  • ร้านค้าออนไลน์ เฉพาะลาซาด้า และช็อปปี้ รับสิทธิ์อัพเกรด เพิ่มความจุเป็น 512 GB จาก 128 GB ได้ในราคาปกติ และรับประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี ในกรณี ตก แตก ร้าว
  • ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ รับส่วนลดกว่า 12,000 บาท โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของผู้ให้บริการแต่ละราย

โดยคนที่สั่งจองล่วงหน้า จะได้รับสินค้าระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม 2561 และจะขายในไทย 3 สี ได้แก่ สีโอเชี่ยนบลู (Ocean Blue) มากับ S Pen สีเหลือง  สีเมทัลลิก คอปเปอร์ (Metallic Copper) และสีมิดไนท์ แบล็ค (Midnight Black) ในราคา 33,900 บาท วันนี้อุ้มขอฝากเท่านี้ ไว้จะมาเพิ่มเติมถ้านึกออก ไปนอนก่อนนะคะ กู๊ดไนท์    

 

Comments

comments