สำหรับอุ้มแล้ว การเปิดตัวตระกูล P Series ของ Huawei มักจะสร้างความตื่นเต้นในเรื่องของกล้องให้เราได้เสมอเลยนะคะ และ P20 Pro ก็เป็น Huawei เครื่องแรกที่ทำให้อุ้มหันมามอง Huawei แบบจริงจัง และใช้งานเป็นเครื่องหลักอยู่นาน

 

ในปีนี้เอง คงต้องบอกว่าคาดหวังไม่แพ้หลายๆคน ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีของกล้อง จนไปถึงดีไซน์ของตัวเครื่อง วันนี้อุ้มขอเอาเจ้า P30 Pro ตัวจริง ส่งตรงจากฝรั่งเศสมาให้ชมกันนะคะ ว่าจะมีดี อย่างที่คาดคิดไว้ขนาดไหน

 

BREAK ALL THE RULES


LEICA QUAD CAMERA

การมาของ LEICA QUAD CAMERA ใน Huawei P30 Pro มาเพื่อรับตำแหน่งมงลง กับคะแนน DxOMark สูงสุดในตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้ที่ 112 คะแนน แซงหน้าแก๊งค์ 109 อย่าง Mate 20 Pro | P20 Pro | Galaxy S10+ รวมทั้งน้องแท้ๆของตัวเองอย่างเจ้า P30 ไปได้เช่นเดียวกัน

โดยกล้องทั้ง 4 ตัว ประกอบไปด้วยความสามารถดังนี้

1.กล้องหลัก ความละเอียด 40MP f/1.6 มี OIS

2.กล้อง Ultrawide ความละเอียด 20MP f/2.2

3.กล้อง Tele ความละเอียด 8MP มี OIS

4.กล้อง Huawei ToF (Time-of-Flight camera)

และไฮไลต์สำคัญของการมาในครั้งนี้คือ Huawei P30 & P30 Pro จะใช้ Sensor จาก Leica ตัวใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และทำให้คุณภาพภาพที่ว่าดีแล้วบน P20 Pro ดีขึ้นกว่าเดิมอีก โดย P30 Pro จะสามารถดันค่า ISO ได้ถึง 409,600 (เดิมได้ที่ 102,400) ทำให้ประสบการณ์การถ่ายภาพในเวลากลางคืน ไม่ใช่แค่สามารถมองเห็นได้ แต่จะต้องเห็นได้ แล้วสวยอีกด้วย

 

SUPER ZOOM

ข่าวลือที่ลือกันมามากมาย คงไม่พ้นเรื่องการซูมของ P30 Pro ซึ่งก็ตามข่าวหลุดนั่นละค่า 555 ตัวนี้จะสามารถซูมได้ทั้งหมด 3 รูปแบบคือ

Optical Zoom ได้ 5 เท่า (เดิม 3 เท่าใน P20 Pro)

Hybrid Zoom ได้ 10 เท่า (เดิม 5 เท่าใน P20 Pro)

Digital Zoom ได้ 50 เท่า  (เดิม 10 เท่าใน P20 Pro)

ซึ่งอุ้มได้ทดสอบเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกก็คิดเหมือนทุกคนค่ะ ว่าจะซูมไปทำไมเยอะแยะ แต่พอซูมได้จริงก็สะดวกมากขึ้น และเดี๋ยวมันจะมีประโยชน์กับบางสิ่งในการถ่ายวิดีโอต่อไป ลองดูตัวอย่างภาพเลยนะคะ

ระยะ ultrawide

ระยะปกติ

ระยะซูม 5 เท่า

ระยะซูม 10 เท่า

ระยะซูม 50 เท่า

 

HUAWEI ToF 

เลนส์ใหม่ตัวนี้ เป็นสิ่งที่อุ้มรอคอยเลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ใจเราก็อยากให้เบลอเยอะๆ แต่ถ่ายมาทีไร เพื่อนๆก็แซวว่ามันหลอกตาใช่มั้ยคะ ตัว ToF บน P30 Pro เลยมาเพื่อแก้ปัญหานี้ค่ะ เพราะมันจะช่วยทำให้เกิด Multi Level Bokeh Effects

ระยะชัดลึก ชัดตื้นที่เราเคยได้ยินกัน จากเมื่อก่อนมีคนยืนอยู่ แล้วมีต้นไม้เรียงกันสามต้นด้านหลัง ถ้าเราเอาตาของเราโฟกัสที่คน ต้นไม้ต้นที่ไกลสุด ก็ควรจะเบลอที่สุดใช่มั้ยคะ แต่เทคโนโลยีในมือถือก่อนหน้านี้ จะดีไซน์ให้วัตถุที่อยู่นอกโฟกัสทั้งหมด เบลอเท่ากัน ซึ่งมันจะไม่สมจริงเท่าการใช้เลนส์จากกล้องดิจิตอลถ่าย

พอ Huawei ยกเทคโนโลยีนี้มาเริ่มใช้ อุ้มคิดว่ามันช่วยยกระดับกล้องมือถือไปอีกขั้น แต่ภาพจะเป็นยังไง อยากให้ติดตามกันต่อไปนะคะ เดี๋ยวจะเทสมาฝากกันอีกเยอะๆ

 

AIS STABILIZATION

กันสั่นตัวเก่งของ Huawei ที่พิสูจน์ความเจ๋งกับ Night Mode แบบไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องมาแล้วใน P20 Pro ตอนนี้ถูกอัพเกรดขึ้นมาอีกขั้น ให้กันสั่นได้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเค้าพัฒนา AIS Long Exposure Shot จนสามารถถ่ายน้ำตกสวยๆ โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องอีกเช่นเดียวกัน (Super Silky Smooth Water Effects)

 

Super Selfie Photography

ดีใจมากกก ที่ Huawei มาโฟกัสในเรื่องนี้ เพราะความช้ำชอกที่ผ่านมากับกล้องหน้า Huawei ที่หลายๆคนถึงกับปวดหัว ใน P30 Series เค้าได้อัพเกรดจากกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซลใน P20 Series ขึ้นมาเป็นความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

และยังใส่รายละเอียด รวมทั้งความคมชัดกลับมา พร้อมโหมด Super HDR Selfies สาวๆ น่าจะอุ่นใจมากขึ้นนะคะ 555

 

VIDEOGRAPHY

ยังไม่จบแค่นี้ อุตส่าห์อัพเกรดกล้องมาทั้งที ช่วยถ่ายวิดีโอดีๆได้ม๊ายยย อุ้มขอสรุปเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับวิดีโอ ที่ทาง Huawei ใส่มาบน P30 Pro ดังนี้เลยค่ะ

1.อัพเกรดเรื่องกันสั่น Video Stabilization Upgrade โดยใช้ Huawei AIS+OIS ช่วยกัน

2.พัฒนาการถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืน หรือในที่มืดให้สวยงาม

3.ถ่ายวิดีโอแบบ Long Range Telephoto Video หรือซูม 10 เท่านั่นเอง

***4.Multi-view Recording อันนี้ไฮไลต์มากๆๆๆ ปลื้มใจ หลักการคือ เราจะสามารถอัดวิดีโอที่ 2 ระยะพร้อมๆกัน [Zoom & Ultrawide] ถ้านึกไม่ออกว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร ลองนึกว่าเอาไปถ่ายคอนเสิร์ตเกาหลี อยากซูมแต่เมน แต่ก็อยากเก็บภาพรวม หรือเอาไปถ่ายการแสดงจบอนุบาลของลูกน้อย ซูมแค่ลูกเรา แต่ยังได้บรรยากาศทั้งเวที มันดีนะเว้ยยยอันนี้

***5.Best One Click AI Video Editing Experience อันนี้พี่ก็ปลื้ม เพราะเหมาะสำหรับคนชอบถ่ายวิดีโอ แต่ขี้เกียจตัด คราวนี้จะถ่ายยาวแค่ไหนก็ถ่ายไป เมื่อเรากดปุ่ม One Click AI Video มันจะทำการตัดต่อให้เรา โดยใส่เพลงประกอบ | Film Effect | Slow Motion Effect และอื่นๆ ให้เข้ากับบรรยากาศ

ถามว่าว้าวมั้ย บอกตรงๆตอนฟังคือว้าวมาก โดยเฉพาะการใช้ AI มาช่วยทำให้การถ่ายรูปของเราดีมากยิ่งขึ้น เทียบง่ายๆ เมื่อก่อนที่เป็นยุคกล้องฟิล์ม อันนั้นนี่ใช้ฝีมือล้วนๆเลย ต่อมาเป็นยุคกล้องดิจิตอล ก็เป็นยุคของฝีมือ + เทคโนโลยีที่เพิ่มเข้ามา แต่ถ้าเราจะมีกล้องมือถือเจ๋งๆ สักตัวนึง AI จะต้องช่วยแก้ Pain Point ในการถ่ายรูปได้ เช่นการถ่ายภาพในที่มืด หรือการถ่ายภาพแบบย้อนแสง วันนี้อาจจะยังไม่มีเวลาเทสเรื่องกล้องเยอะ ฝากตามใน IG: iaumreview นะคะ จะทยอยอัพภาพจาก P30 Pro ระหว่างอยู่ที่นี่นะคะ

 

WHEN NATURE MEET INDUSTRIAL

บอกตั้งแต่เริ่มเล่าเลย ว่าอุ้มชอบมือถือทรง P Series มากกว่า Mate Series กว่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนะคะ เลยมีจิตใจเอนเอียงเรื่องความสวยงามให้กับ P30 Pro มากกว่า Mate 20 Pro เล็กน้อย 555 แต่ความเก๋ไก๋ของ P30 Series ที่ตรงกับคำว่า WHEN NATURE MEET INDUSTRIAL กลับไม่ใช่ดีไซน์ แต่เป็นสีสันต่างหาก

ทั้งสี Black อันนี้เฉยๆ | Amber Sunrise อันนี้สวยแบบร้อนแรง | Breathing Crystal อันนี้สวยแบบไฮโซ | Aurora อันนี้สวยแบบชวนฝัน | เดี๋ยวจะหาว่าเว่อร์ อยากให้มาเห็นสีจริงๆของมันค่ะ ส่วนตัวอุ้มเอง ถูกใจ Breathing Crystal ที่ไล่สีมาดูไฮคลาสมากๆ แต่พอเห็น Aurora แล้ว ก็อยากได้แทน 555

โดย P30 Pro จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.47 นิ้ว ส่วน P30 จะมากับจอขนาด 6.1 นิ้ว เป็นจอแบบ Ultra Small Notch Full Screen (((ก็หยดน้ำนั่นละ))) สามารถสแกนนิ้วได้ผ่านหน้าจอ เป็น Optical In-Screen Fingerprint นะคะ

อีกข้อที่ควรทราบคือ P30 Pro จะไม่มีรูลำโพงด้านบนแล้ว แต่จะใช้เป็น Acoustic Display Technology แทน เพื่อลดปัญหาของขนาดหน้าที่ไม่เท่ากัน คราวนี้หน้าเล็กหรือหน้าใหญ่ ถ้าทาบช่วงบนๆของจอ ก็จะได้ยินเหมือนกันหมดค่ะ ตรงนี้ลองให้แล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ว่าลำโพงก็เลยการเป็นโมโนไปซะงั้นแง่วๆ

ส่วนใครจะเอาไปเล่นน้ำสงกรานต์ ก็สามารถเอาตัว P30 Pro ไปเล่นได้นะคะ เพราะรองรับการกันน้ำแบบ IP68 ส่วนตัวเล็ก P30 จะกันที่ IP53 แลกกับการมีรูเสียบหูฟัง 3.5mm มาให้เหมือนเดิม ส่วนแบตเตอรี่ ตัว P30 Pro จะใส่มาให้ที่ 4,200 mAh และ P30 แบตจะอยู่ที่ 3,400 mAh อยู่ได้นานขึ้นกว่าเดิม

 

BOTTOM LINE

นี่ถือเป็นการ First Touch ที่ยาวเหยียดมากๆ แต่จริงๆ ยังขาดไปอีกหลายเรื่องนะคะ เช่นการทำงานของมัน เจ้าตัวนี้จะใช้ชิปเซ็ต Kirin 980 มีรอม มีแรมมาให้เลือกหลากหลายแบบ รวมทั้งการชาร์จเร็ว 40W ใน P30 Pro และการระบายความร้อนแบบเดียวกับ Mate 20X (Vapour Chamber และ Graphene Film) ก็ยังใส่มาให้ครบถ้วน

หลายคนชอบส่งมาถามอุ้มว่า ถ้าอยากได้ Huawei ตัวท้อป ต้องซื้อ P Series หรือ Mate Series ขอเล่าง่ายๆ ว่า P Series จะออกทุกต้นปี และเป็นผู้นำด้านกล้องและดีไซน์ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวกับกล้อง ส่วน Mate Series จะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีโดยรวมของทาง Huawei เป็นหลัก

และในปีนี้ ทาง Huawei จะเปิดตัว P30 Series ในไทยอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ก่อนอุ้มกลับไปอี๊กกก ยังไงเรื่องราคาและรายละเอียดอื่นๆ ฝากติดตามกันที่เพจ IAUMReview หรือทาง IAUMReview YouTube Channel ด้วยนะคะ

ตอนนี้อุ้มขอตัวไปลองทดสอบกล้องของ P30 Pro อย่างจริงจัง แล้วจะเอาภาพมาให้ชมกันเร็วๆนี้ สวัสดีค่า

 

Comments

comments