มือถือตระกูล Y Series ของ Huawei มักเขย่าตลาดด้วยสเปคที่จัดเต็ม ในราคาที่ใครก็เป็นเจ้าของได้
ซึ่งมือถือ HUAWEI Y9 Prime 2019 เป็นรุ่นแรกของ Huawei ที่มาพร้อมกล้องหน้าแบบ Pop-Up มาพร้อมจอใหญ่ไร้ติ่ง ไร้ขอบจอ กล้องหลัง 3 ตัว กับสเปคที่จัดเต็ม เทียบชั้นมือถือราคาแตะหมื่น กับราคาเปิดตัวสุดว๊าว 7,990 บาท เปิดจองวันที่ 25 – 30 มิถุนายน วางจำหน่ายวันที่ 5 กรกฎาคม 2562
อุปกรณ์ในกล่องจะมี อแดปเตอร์ หูฟัง สายชาร์จ USB Type-C เคสใส เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
จุดเด่นหลักคือ กล้องหน้าป๊อบอัพ กล้องหลัง 3 ตัว มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
สเปคของ HUAWEI Y9 Prime 2019 มาพร้อมชิป Kirin 710F RAM 4GB ROM 128GB (เพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 512GB)
รองรับการใช้งาน 2 ซิม โดยมีถาดใส่ซิมด้านบนของตัวเครื่อง แต่จะต้องเลือกระหว่างใส่ ซิมที่ 2 กับ MicroSD กล้องหน้าแบบป๊อปอัพ ความละเอียด 16MP f2.2 พร้อมเทคโนโลยี AI เซลฟี่สวย
โดยมีจำหน่าย 3 สี คือ Midnight Black, Sapphire Blue และ Emerald Green
แบตเตอรี่ให้มา 4000mAh โดยพอร์ตชาร์จเป็น USB Type-C นั่นเองค่า
โดยกล้องหน้าจะมี AI Selfie รองรับการปรับแต่งภาพแบบเรียลไทม์ได้ 8 ฉาก และปรับความเข้มของสีบนภาพได้อย่างสมจริง
เมื่อสลับโหมดกล้องหน้า กล้องที่ซ่อนอยู่ด้านบนตัวเครื่องจะ pop-up ขึ้นมาอัตโนมัติภายใน 1 วินาที
ส่วนใครที่กังวลว่ากล้องจะทนไหม ทาง Huawei ทดสอบมาแล้ว ว่าทนต่อแรงกดได้ถึง 15 กิโลกรัม และผ่านการทดสอบความแข็งแกร่ง 100,000 ครั้ง ขึ้นไป มั่นใจได้เลยว่า เปิดกล้องหน้าบ่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวลอะไร แถมเครื่องหลน ตกพื้น ก็ยังหดกล้องหลบกลับเข้าไปได้
เลนส์กล้องหลัง มีกระจกเสริมที่ติดตั้งภายในกล้อง เป็นเลนส์ 6P ปรับแต่งแสงให้มีความละเอียดและคมชัด ได้คุณภาพของภาพที่ดีกว่ามือถือที่ใช้เลนส์ 5P รุ่นอื่นๆ
กล้องหลัง AI 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 16MP f1.8 ทำหน้าที่เก็บรายละเอียดภาพ กล้องอีกตัว 2MP f2.4 ใช้คำนวณระยะความห่างของจุดต่างๆ ในภาพ นอกจากนี้ยังมีกล้องเลนส์ Ultra Wide ขนาด 8MP f2.4 ทำงานบน EMUI 9 รันบน Android 9
การถ่ายภาพและวีดีโอบน Huawei Y9 Prime 2019 สามารถถ่ายในโหมด 1x และ Wide ได้ทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ ความละเอียดในการถ่ายภาพนิ่งสูงสุด 16MP [4:3] แต่ถ้าอยากจะถ่ายภาพเป็น 19:3:9 จะเป็นความละเอียด 10MP ในขณะที่การถ่ายภาพ 1:1 จะอยู่บนความละเอียด 12MP
ส่วนการถ่ายวีดีโอ สูงสด Full HD 1080p บนอัตราส่วน 19:2:9 (ไม่ใช่ขนาดมาตรฐาน แต่เต็มหน้าจอมือถือ) และ Full HD 1080p 60fps 1920*1080 นอกจากนี้มีโหมด Pro, Slow-mo (รองรับการถ่ายวีดีโอ slo-mo ที่ 480fps), Panorama, AR Lens, Light Painting, HDR, Time-lapse, Filter, Stickers
โหมดถ่ายภาพ มี AR ให้เปิด – ปิด ซึ่งสามารถดูตัวอย่างภาพถ่ายท้ายบทความค่า
โหมด Aperture และ Portrait ถ่ายฉากหลังเบลอได้
หน้าจอ HUAWEI Ultra FullView Display ขนาด 6.59 นิ้ว โดยเรียกว่า Zero Notch จอไร้ขอบ ไร้ติ่ง
รองรับการสัมผัสหน้าจอหลายจุดพร้อมกัน (Multi-Touch) สูงสุด 10 จุด
แม้จะไม่มีติ่งบนหน้าจอแล้ว แต่แอปไหนที่รองรับการแสดงผลแบบ Full Screen ก็สามารถกำหนดได้ และสามารถแสดงชื่อเครือข่ายและความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลได้
ปรับขนาดตัวอักษร และมี Eye Comfort ที่ช่วยถนอมสายตา เป็นสีตุ่นๆ อมเหลือง
การเชื่อมต่อ
ตัวเครื่องมีการรับสัญญาณ All-Antenna ทำให้รับสัญญาณมือถือได้ชัดเจน ส่งผลให้การรับส่งข้อมูลเสถียรขึ้น
รองรับการใช้งาน 4G 2 ซิม สามารถใช้ Dual 4G รองรับ VoLTE และ Wi-Fi Calling โทรผ่าน Wi-Fi ได้ แม้ในตึกสูงที่สัญญาณมือถือไม่ชัดเจน หรือสถานที่อับสัญญาณมือถือ
เซ็นเซอร์สแกนนิ้วด้านหลังตัวเครื่อง
รองรับการสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อกหน้าจอ, ปลดล็อกก่อนเปิดแอปที่เรากำหนด ซึ่งนำมาใช้กับการล็อกการเข้าแอปธนาคารได้ด้วย
ใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ กดค้างสั่งถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ รับสาย หยุดเสียงปลุก สไลด์เพื่อแสดงแถบแจ้งเตือน เลื่อนดูรูปภาพบนเครื่องได้
ใครมีข้อมูลสำคัญที่อยากเก็บไว้ในที่ปลอดภัย Safe ช่วยให้คุณเก็บข้อมูลสำคัญได้
ส่วนใครที่อยากจะให้แสดงตัวเลขจำนวนการแจ้งเตือน หรือ Icon Badges กำหนดได้ เช่น Facebook
App-Twin ใช้งาน 2 บัญชีในเครื่องเดียวกัน ทั้ง Facebook LINE โดยไม่ต้องสลับบัญชี โดยจะมีเลข 2 ระบุ ตรงมุมขวาล่างของไอคอนแอป
Split-Screen ใช้ 2 แอปในจอเดียวกัน แบ่งหน้าจอ ใช้ 2 แอปพร้อมกันได้
คนเล่นเกม เปิด Game Acceleration ปรับประสิทธิภาพของเกมให้เต็มที่ และปิดการแจ้งเตือนที่รบกวนการเล่นเกม แอบบอกว่าจอจอใหญ่ ไม่มีติ่ง แล้วเล่นเกมได้เต็มตาจริงๆ ค่า
Battery Usage แสดงการใช้แบตเตอรี่ สถานะแบตเตอรี่ รูปแบบการแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่
Digital Balance ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งาน ว่าเราใช้แอปอะไรเยอะ จำกัดเวลาใช้งานแอปได้ เช่น กำหนดให้ดู YouTube ได้เต็มที่แค่ 3 ชั่วโมง
Gesture พอหยิบมือถือขึ้นมา เสียงริงโทนเบาลง เสียงปลุกเบาลง หรือ Wake ปลุกหน้าจอให้ติดสว่าง ใช้ 3 นิ้วเพื่อ Capture หน้าจอ และสามารถกำหนด Navigation Dock เป็นตุ่มๆ ใช้แทน 3 ปุ่มควบคุม Navigation ปกติได้
Ride Mode
ในโหมดนี้ จะปิด Bluetooth และหูฟัง ไม่ให้เรารับสาย (ถ้าจะโทรก็มีปุ่มให้เราโทรออกได้) โดยจะมีเสียงตอบรับ หรือข้อความ เช่น ตอนนี้กำลังขับรถอยู่ ไม่สะดวกคุย เดี๋ยวโทรกลับ ซึ่งทำให้เรามีสมาธิจดจ่อในการขับรถ
ตัวอย่างภาพถ่าย
เริ่มจาก Night Mode ถ่ายวิวตลาดรถไฟ ถือกล้องนิ่งๆ ค้างไว้ โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องเลย ภาพออกมาสว่าง แต่ก็พบว่ามีนอยส์อยู่เหมือนกัน แนะนำให้หาที่มั่น เสา ระเบียง วางมือถือ เพื่อให้ลดการสั่นไหวให้น้อยที่สุด
เลนส์ Ultra-Wide ทำให้ได้ภาพมุมกว้าง เก็บได้ครบ
ถ้าแสงดีๆ จะได้ภาพสวย
การเบลอ หลังละลาย ขึ้นอยู่กับวัตถุและระยะฉากหลังด้วย
โทสต์ไข่เค็ม คงจะจำโทนสีกันได้ “สีไข่เค็ม” บวกกับแสงไฟของร้าน
มุมกว้าง ทำให้เราเก็บได้เกือบครบวิว
สรุป
มือถือในงบ 8,000 บาท แข่งขันกันรุนแรง ซึ่งหากเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในตลาดแล้ว ถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มมากในราคาระดับนี้ ทั้งสเปคดี จอใหญ่ กล้องหน้าป๊อปอัพ 3 กล้องหลัง ถ่ายเลนส์ Wide ได้ มีฟีเจอร์ให้ครบครัน ทั้งใช้งาน 2 บัญชีในเครื่องเดียว สแกนนิ้วปลดล็อกหน้าจอ ปลดล็อกแอป ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ ถ่ายกลางคืนสวย ครบครันในเครื่องเดียว คุ้มที่สุดในรุ่นที่มีขายอยู่ตอนนี้เลย
และใครที่อยากเปลี่ยนเครื่องมาใช้ HUAWEI Y9 Prime 2019 อยากย้ายข้อมูล รายชื่อผู้ติดต่อ (เบอร์โทร) รูปภาพ วีดีโอ สามารถใช้ Huawei Phone Clone ย้ายข้อมูลได้ง่ายมากๆ อ่านขั้นตอนการย้ายเครื่อง