Roshen Maghan ได้ทวิตข้อความผ่าน twitter @roshenmaghhan ว่าเคยทำงานบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ แล้วทุกเช้ามีประชุมงานของบริษัท เพื่อนร่วมงานมักจะพูดภาษาจีนแมนดาริน ซึ่งเขาฟังไม่ออก แรกๆ เขาก็เตือนเพื่อนให้ใช้ภาษาอังกฤษ แต่เพื่อนๆ ก็มักจะเผลอ ลืม ใช้ภาษาจีนกลางบ่อยครั้ง จากเหตุการณ์นี้ เขาก็เลยคิดจะทำเครื่องแปลภาษาแบบเรียลไทม์ เขานึกถึง Google Pixel Buds ทันที
ใครจะไปคิดว่า เขาจะสร้างเครื่องแปลภาษาส่วนตัว Roshen มองหาช่องทาง ว่าพอจะซื้อ Google Pixel Buds ไหวไหม ก็พบว่า ราคาเกินเอื้อมกระเป๋าสตางค์โปรแกรมเมอร์หนุ่มอย่างเขา (US$195)
ในความคิดของเขามองว่า Google Pixel นั้นออกแบบมาเพื่อใช้งานแบบ hands-free ในการแปลภาษาสนทนา แต่นั่นคุณก็ใช้ google translate ได้ แต่การใช้งานจริงไม่สะดวกเลย เพราะเสียงมาจากลำโพง
เขาเลยพยายามศึกษาส่วนประกอบของ Google Pixel Buds ซึ่งมีรายละเอียดอยู่บนเว็บไซต์ FCC (Federal Communications Commission) ของ US
นอกเหนือจากส่วนประกอบหลักของหูฟังไร้สาย เรื่องซอฟต์แวร์ก็จะต้องตอบโจทย์ด้วย ซึ่งเขาก็เลยฉีกกรอบของการทำงานเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายที่สุด และเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ ( Android, IOS, Desktop) เขาก็เลยเลือกทำบน web-based และสามารถใช้งานได้กับหูฟังทั้งมีสายและไร้สาย ตราบใดที่มีไมโครโฟน ซึ่งใช้หูฟังสมอลทอล์ค (ภาพซ้าย)
จากนั้นเขาก็ซื้อ API key จากเว็บไซต์ของนักพัฒนา ในที่สุดเขาก็ได้ API key ในราคาเพียงแค่ $0.13 เพื่อใช้แปลภาษาได้นับร้อยภาษา เขาคิดว่า น่าจะเขียนโค้ดเพื่อแปลข้อความเป็นภาษาที่เขาต้องการ โดยใช้ API key
Roshen พยายามศึกษา AI เพื่อเรียนรู้การแปล แต่มีเงื่อนไขเยอะ ซึ่งอันที่จริงแล้ว Google Translate มี API ที่ง่ายกว่า เร็วกว่า และถูกกว่า
โดย API เป็นสะพานเชื่อมเพื่อสื่อสารกันระหว่างซอฟต์แวร์ 2 ตัว ดังนั้นเขาก็เลยใช้ API ในการทดสอบกับหูฟัง ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ
ตอนนี้เขาก็แปลภาษาได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือแปลภาษาจากคำพูด เสียงพูด โดยฟังจากหูฟัง และในที่สุด เขาก็ทำสำเร็จ พอมีเสียงพูด เขาใช้ ResponsiveVoice API ทุกเสียงที่ได้ยิน จะถูกแปลภาษา ฟังผ่านหูฟังได้แบบเรียลไทม์ทำได้เหมือน google pixel
ไปอ่านและกดดูคลิปเต็มๆ ได้ที่ ทวิตของเขา (ฉบับเต็ม)