เป็นครั้งแรกที่อุ้มได้สัมผัสมือถือเรือธงของ Vivo ในตระกูล NEX ซึ่งปกติมือถือตระกูลนี้จะไม่เข้าไทย วันนี้เราได้จับเครื่องจริง Vivo NEX3 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Waterfall FullView™ Display หน้าจอสุดขอบ เต็มๆ ตาของจริง
ความพิเศษของหน้าจอ Vivo NEX3 คือไม่มีปุ่ม ไม่มีรอยแหว่ง ไม่มีรอยบาก กล้องก็เป็นแบบ Pop-Up ปุ่มข้างก็หายไป ทำให้หน้าจอมีมุมมองที่กว้างมากขึ้น โดยจอโค้ง 90 องศา โอบล้อมด้านข้างของตัวเครื่อง
จอด้านข้างโค้งลงมาครึ่งนึงของตัวเครื่อง ถ้าเทียบกับ Note 10+ ที่โค้งแต่ไม่เห็นขอบด้านข้าง
ดูวีดีโอรีวิว
จอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.89 นิ้ว ดีไซน์แบบ unibody มีพื้นที่หน้าจอสูงถึง 99.6% ไร้ปุ่มกดด้านข้าง โดยด้านขวา ไม่ใช่ปุ่ม แต่เป็น ปุ่มสัมผัส Touch Sense เซ็นเซอร์ใช้นิ้วสัมผัสเหมือนปุ่มจริงๆ เป็นปุ่ม Power เพิ่ม – ลดเสียง เรียกได้ว่าเป็น Unibody อย่างแท้จริง คือไม่มีปุ่ม และยังปรับความแรงของการกดปุ่มทัชได้อีกด้วย แต่ปุ่มแบบนี้ต้องใช้เวลาเรียนรู้ให้เคยชินนิดนึง
เราคุ้นเคยกับการสแกนนิ้วบนหน้าจอมาระยะนึงแล้ว วันนี้พบกับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นใหม่ ที่ปลดล็อกได้รวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น พร้อมรูปแบบเอฟเฟกต์การปลดล็อกหลากหลายแบบ
ในขณะที่ลำโพงสนทนาด้านบน ยังเป็นลำโพงจริง ไม่ได้ใช้การสะท้อนจากหน้าจอ
ด้านหลัง สีใหม่ Glowing Night สะท้อนแสงสวย
เลนส์กล้องทั้ง 3 ดีไซน์แบบ Lunar Ring Camera System
ครอบคลุมทุกระยะโฟกัส Macro, Wide-Angle และ Telephoto กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล เลนส์ Wide-Angle 13 ล้านพิกเซล และเลนส์ Telephoto 13 ล้านพิกเซล ซึ่งประกอบด้วย เลนส์ Macro (2.5 เซ็นติเมตร) เลนส์ Wide-Angle และ Focal length 2 เท่า แม้จะซูมภาพใกล้แค่ไหน ภาพก็ยังคมชัดระดับ Super HD
การถ่ายวีดีโอ ถ้ากำหนดค่า fps กล้องหลัง ไว้ที่ 60fps แล้ว กล้องหน้า ก็จะสามารถถ่ายวีดีโอได้สูงสุด 1080p @60fps (ค่าเริ่มต้นคือ Auto 25-30fps) กล้องหลัง ถ่ายวีดีโอได้สูงสุด 4K @60fps
ส่วนการถ่ายภาพบุคคล มี Hyper-HDR เพื่อภาพถ่ายบุคคลโดยเฉพาะ สามารถวิเคราะห์ปรับแสงบนใบหน้าให้สว่างเท่ากับส่วนที่สว่างที่สุดของสภาพแวดล้อมพื้นหลัง ได้สูงถึง 7.65eV ทำให้ใบหน้าไม่มืด แล้วฉากหลังสว่างจ้าอย่างที่เคยเห็นกัน
Jovi AI ฉลาดมาก ถ่ายอะไร compostion ยังไง ก็เอาอยู่
กล้องหน้า Elevating Front Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซ่อนอยู่ด้านในของหน้าจอ เปิดแฟลชได้ เป็นหน้าจอ Full view Display อย่างแท้จริง
พอกดเข้าโหมดกล้องหน้า กล้องหน้าจะป๊อบอัพขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เราสามารถเลือกปิดเสียงเลื่อนกล้องหน้าได้ด้วย
ส่วนโหมดมืออาชีพ สามารถปรับแต่งไฟล์ภาพ RAW โดยบันทึกบนความละเอียด 64MP + RAW
ชิบเสียง
สำหรับการเล่นเกม ดูหนัง แล้วอยากได้ระบบเสียงที่สมจริง ชิปเสียง AK4377A เป็นระบบเสียง Hi-Fi เฉพาะตัวของ Vivo
ระบบเสียง Hi-Fi
รองรับเฉพาะบางแอป เช่น แอปฟังเพลง ดูวีดีโอในเครื่อง YouTube และ Google Play Music
ปรับ Sound Effects การได้ยินตามช่วงอายุ
ใช้ชิปเซ็ตเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 855 Plus และ RAM 8 GB ROM 128 GB พร้อมหน่วยความจำแบบ UFS3.0 ที่มาตรฐานสูงกว่า UFS2.1 ถึง 79% ทำให้สามารถติดตั้งแอพพลิเคชัน อ่านเขียนหน่วยความจำได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าเล่นเกมหนักๆ มีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System พื้นที่กระจายความร้อนขนาดใหญ่ มีประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อนที่ยอดเยี่ยม ช่วยระบายความร้อนของ CPU หรือแบตเตอรี่ ให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่น
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ 4500mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge ขนาด 22.5W ผ่านพอร์ต USB Typc-C
ดู Netflix
รองรับ Widevine DRM ความปลอดภัยระดับ L1
คุณสมบัติที่น่าสนใจ
Notification
ด้านข้างของจอ แสดงผลเป็นแสงไฟได้ เรียกว่า Side Ambient Light หากมีสายเรียกเข้า ขอบด้านข้างของตัวเครื่องจะมีแสงไฟปรากฏขึ้น หรือขณะเปิดเพลง เอฟเฟกต์แสงก็จะกระพริบไปตามเสียงเพลงเหมือนการเต้นระบำ เป็นลูกเล่นที่แปลกใหม่ดีนะคะ
ใช้ไฟแฟลชกล้องหลัง เป็นไฟแจ้งเตือน (Flash Light Notifications)
ใช้ Facebook 2 บัญชีในเครื่องเดียวกันได้ โดยไม่ต้องสลับบัญชีไปมา
แบ่งหน้าจอ ใช้ 2 แอปพร้อมกันได้ โดยลาก 3 นิ้วในทิศทางลงบนหน้าจอ
เช่น ดู YouTube พร้อมเข้าเว็บไปหาข้อมูล ปัดนิ้ว เพื่อบันทึกภาพหน้าจอด้วย S-Capture ใช้ 3 นิ้ว ปัดขึ้นด้านบนของหน้าจอ พร้อมบันทึกวีดีโอหน้าจอได้ด้วย
มีโหมดห้ามรบกวน ขณะเล่นเกม Ultra Game Mode ปิดการแจ้งเตือน กำหนดการโทรเข้า เช่น ถ้ามีคนโทรมาหา ให้รับสายได้ แต่ยังเล่นเกมไป คุยไปได้อยู่ โดยไม่รบกวนการเล่นเกมของเรา
ตอนเล่นเกม RoV เฟรมเรตอยู่ที่ 60fps นิ่งๆ
ปุ่ม Easy Touch ตุ่มๆ สีขาวบนหน้าจอ เป็น Short-Cut ให้เราเรียกคำสั่งได้สะดวกขึ้น และเรียกแอปที่ใช้บ่อยๆ ได้ง่ายขึ้นมากๆถ้าใครชอบคุย VDO Call สามารถปรับให้แอปเหล่านี้ Facebook Messenger, LINE, WhatsApp สนทนาแบบเห็นหน้า โดยกล้องจะเป็นโหมด Face Beauty
จอของ Vivo NEX3 สีสดมาก สวยมาก และมีคุณสมบัติ Low Brightness Anti-Fliker ใช้ในที่แสงน้อย ก็ไม่ปวดตา เพราะจอไม่กระพริบ
Dark Mode
รองรับการปรับเป็นโหมดกลางคืน หรือ Dark Mode
รองรับการเสียบ USB Flash Drive แบบ OTG หรือต่อเม้าส์ คีย์บอร์ดแบบ USB ได้ โดยจะต้องมาเปิดตรงนี้ก่อน
NEX3 กับราคาเปิดตัว 24,999 บาท มากับความครบครันในรุ่นเรือธง ซึ่งอุ้มถือว่าซื้อเทคโนโลยี ได้กล้องหน้า Pop-Up พร้อมไฟแฟลช ส่วนตัวเครื่องเนี่ย ถือมือเดียว อุ้มมองว่าตัวเครื่องใหญ่ไปหน่อย แต่สวยจริง จอก็ใหญ่จริง และได้ชิป Qualcomm Snapdragon 855 Plus ตัวแรงก็คุ้มแล้ว ใครที่สนใจ อย่าลืมไปจองกันได้ที่ Vivo ทุกสาขา เพราะมาแรงและคุ้มจริงๆค่ะ วันนี้อุ้มฝากไว้เท่านี้ ขอบคุณมากค่า