วันนี้อุ้มมีเพื่อนใหม่ในตระกูล Reno มาฝากกัน ถ้าใครมีงบหมื่นปลาย แนะนำ OPPO Reno2 ถ่ายภาพชัดทุกระยะ หรือถ้ามีงบหมื่นต้น แนะนำ OPPO Reno2 F ถ่ายภาพสวยทุกมุมมอง โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับ 4 กล้องหลัง กับดีไซน์สวยเกินราคาในตระกูล Reno บอกเลยว่า 2 รุ่นนี้ไม่ได้มาแทนรุ่นเดิม แต่เข้ามาช่วยเติมเต็มให้ตระกูล Reno น่าสนใจมากยิ่งขึ้น มีทางเลือกครบทุกช่วงราคา
ใครที่เน้นใช้งานแบบไหน มีงบในใจเท่าไหร วันนี้เราจะทำความรู้จักกับ OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F กันแบบใกล้ชิดกันนะคะ
Reno2 ชัดทุกระยะ
ใครที่กำลังมองหามือถือถ่ายรูปสวย ถ่ายวีดีโอนิ่ง ไมค์ดีมาก แนะนำ OPPO Reno2 มาพร้อม 4 กล้องหลัง IMX 48MP กล้อง Wide Angle 8MP กล้อง Telephoto 13MP และกล้อง Monochrome 2MP ส่วนกล้องหน้าดีไซน์ซ่อนกล้องแบบ Shark Fin ครีปฉลาม 16MP พร้อมแสง soft light
กล้องถ่ายภาพและวีดีโอ
กล้องหลัง
ถ่ายภาพ อัตราส่วน 4:3, 1:1, Full Screen, 48MP (4:3)
ถ่ายวีดีโอ สูงสุด 4K / 1080p @30fps และ @60fps / 720p @30fps และ @60fps
กล้องหน้า
ถ่ายภาพ อัตราส่วน 4:3, 1:1, Full Screen
ถ่ายวีดีโอ สูงสุด 1080p @30fps / 720p @30fps
ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง รองรับการถ่าย Slow-Motion 720p และ 1080p
การถ่ายวิดีโอนิ่งสุดๆ ด้วย Ultra Steady Video ระบบกันสั่นทั้ง OIS และ EIS ทำให้สามารถถ่ายคลิปวิดีโอที่มีความนิ่ง ไม่สั่นไหว ถ่ายวีดีโอออกมาได้ดีมากๆ เพราะใช้ OIS + EIS และใช้เลนส์ Super Wide Angle แล้ว crop ด้านข้างออก ทำให้ภาพวีดีโอสั่นไหวน้อยที่สุด
และอีก 1 ฟีเจอร์ที่อุ้มชอบมากๆ คือการถ่ายวีดีโอแบบหน้าชัด – หลังเบลอ หรือ Bokeh Effect Video ทำให้เบลอก่อนถ่ายได้ ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง โดยเบลอได้เพียง 1 คนในวีดีโอเท่านั้น (จากคลิปสังเกตว่าคนข้างหลังจะเบลอ)
ใครที่ชอบถ่าย Vlog พูดหน้ากล้อง น่าจะเคยเจอปัญหาเสียงในวีดีโอที่ไม่ชัด ก็เลยต้องหาไมค์มาต่อ (อ้อ รุ่นนี้ต่อไมค์ 3.5 ม.ม. ได้ตามปกติ) โดยสามารถลดเสียงรบกวนในการถ่ายวิดีโอ เพราะมีไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัว ตัดเสียงรบกวน และเน้นเสียงคนพูดให้ฟังได้ชัดเจนขึ้น มีระบบ Audio Focus สามารถกรองเสียงรบกวนที่มาจากทิศทางอื่นออกได้และเสียงแบบรอบทิศทาง 360 องศา รวมไปถึง Audio Zoom เพิ่มเสียงของวัตถุ เมื่อซูมเข้าไปได้ (ลองฟังเสียงในวีดีโอได้เลยค่ะ)
ระบบเสียง Audio Effects เลือกปรับเสียงรอบทิศทาง 360 องศา หรือ Sound Focus ที่โฟกัสเสียงพูดของคนถ่ายกล้อง หรือตอนซูมก็ซูมเสียงให้ชัดขึ้น รวมไปถึงฟีเจอร์ Reduce Wind Noise หรือตัดเสียงลม ซึ่งการถ่ายกลางแจ้งนี่เสียงลมที่เข้าไมค์เป็นอุปสรรคในการถ่ายวีดีโอมากๆ
ถ่ายภาพมุมกว้าง
สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย Ultra Dark Mode 2.0 อุ้มประทับใจเพราะว่า AI ฉลาดขึ้นจริงๆ กล้องจะวิเคราะห์ให้เราว่า หากระดับแสงต่ำกว่า 5lux AI ของกล้องจะเพิ่มความสว่างของภาพ โดยไม่ก่อให้เกิด noise
ถ้านึกถึงชื่อ Reno ก็จะนึกถึงการซูม รองรับการซูมแบบ hybrid ได้ 5 เท่า และสามารถซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 20 เท่า รวมแล้ว ความยาวโฟกัสเทียบเท่าที่ 16 มม. 26 มม. และ 83 มม. ซึ่งแม้จะซูมไกล แต่คงไว้ซึ่งความคมชัด สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ของภาพได้อย่างสวยงาม
ยังไม่หมด OPPO Reno2 ถ่ายภาพได้ชัดครบทุกระยะจริงๆ
Ultra Macro Mode สามารถถ่ายภาพในระยะใกล้ถึง 2.5 เซ็นติเมตร เห็นขนตายีราฟอย่างชัดเจน
กล้องหน้า 16MP แบบ Pivot Rising Camera เลื่อนขึ้นลงแบบอัตโนมัติ และมีแสง Soft light
ช่วยให้ถ่ายภาพย้อนแสงที่คมชัดเป็นพิเศษ
และด้วยความที่มีกล้องหน้าแบบยกขึ้น ทำให้ไม่มีติ่งรบกวนสายตา ส่งผลให้ หน้าจอ AMOLED แบบ Full Screen 6.55 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080p แสดงผลได้เต็มตา อัตราส่วนหน้าจอกับตัวเครื่อง Screen Ratio 93.1% ใช้กระจกหน้าจอ Corning® Gorilla Glass® 6 ตัวเครื่องหน้าตาดีมากๆ ทำน้ำหนักได้ดีขึ้น เหลือ 189 กรัมเท่านั้น
สำหรับเรื่องสเปค ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 730G RAM 8GB และ ROM 256GB รองรับถาดซิมแบบ Hybrid คือเลือกได้ว่าจะใส่ซิมที่ 2 หรือ MicroSD แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว VOOC 3.0 เพิ่มความเร็วในการชาร์จ 2 เท่า ชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่ 51% มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ Luminous Black และสีชมพู Sunset Pink
Dual Wi-Fi (จับสัญญาณ Wi-Fi 2.4GHz และ 5GHz หรือจับ Wi-Fi 2 ชื่อได้พร้อมกัน ตัวไหนสัญญาณอ่อนก็ไปจับอีกตัว)
การเชื่อมต่อ โหลดอะไรก็ไวด้วย Dual Wi-Fi ที่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้พร้อมกัน 2 คลื่นความถี่เจ้าแรกของโลก รองรับเฉพาะบางแอป Neflix LINE Lazada YouTube Opera
Reno2 F สวยทุกมุมมอง
ถ้าใครงบไม่เยอะ ราคาหมื่นต้น ได้ ซีพียู MTK P70 RAM 8GB และ ROM 128GB แนะนำ OPPO Reno2 F เหมาะสำหรับถ่าย Portrait สวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แม้จะไม่มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพเลย ก็ยังถ่ายออกมาได้สวย ทำได้ดีทั้งชัดตื้น – ชัดลึก และ AI Beauty Mode ใหม่ ให้ภาพที่เป็นธรรมชาติ แต่ยังคงความสวยงามไว้อยู่ ปรับความเบลอได้ตอนถ่าย หรือหลังถ่ายก็ทำได้
โหมดกล้องถ่ายภาพและวีดีโอ
กล้องหลัง ถ่ายภาพอัตราส่วน 4:3, 1:1, Full Screen และ 48MP (4:3) ถ่ายวีดีโอ สูงสุด 1080p / 30fps
กล้องหน้า รองรับการถ่ายภาพ อัตราส่วน 4:3, 1:1 และ Full Screen ถ่ายวีดีโอ สูงสุด 1080p / 30fps
Best portrait and selfie สวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
กล้องหน้าแบบ Rising Camera กล้องหน้าเลื่อนขึ้นลงอัตโนมัติความละเอียด 16MP มาพร้อม Atmosphere Light แจ้งเตือนนับถอยหลังเวลาถ่ายเซลฟี่ และมีแฟลชบนหน้าจอเพิ่มแสงให้เราถ่ายเซลฟี่ได้สวย
เจ้าไฟ Atmosphere Light เนี่ย เราสามารถเปลี่ยนเป็นสีที่เราต้องการได้นะคะ หรือไม่ก็เลือกให้สุ่มสี รวมไปถึงการตั้งให้นับเวลาถอยหลังถ่ายเซลฟี่ได้อีกด้วย
เลนส์ Ultra Wide Angle กว้างถึง 119 องศา ถ่ายภาพได้กว้างขึ้น และเก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้น
ถ่ายภาพในที่แสงน้อย มี Ultra Night Mode เข้ามาช่วยปรับแสงและอัตราส่วนแสงในการถ่ายภาพกลางคืน มือสั่นก็ช่วยให้ภาพไม่สั่นแม้ถ่ายในที่แสงน้อย
โหมดถ่ายภาพจัดเต็ม เพื่อภาพสวยทุกมุมมอง
AI Beauty Mode จำแนกและปรับโทนสีผิวตามสภาพแสงโดยรอบ รองรับได้ถึง 4 คนในภาพเดียว
HDR Mode ลดแสงสำหรับภาพที่มีแสงสว่างมากเกินไป และเพิ่มความสว่างให้กับที่มีแสงน้อย
Portrait Bokeh ทั้งกล้องหน้าและหลัง ปรับระดับความเบลอก่อนถ่ายภาพได้ โฟกัสไว
Reno2 F มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลัก 48MP เลนส์มุมกว้าง Wide Angle 8MP 119 องศา เลนส์ Telephoto 2MP และเลนส์ Mono2MP
หน้าจอกว้าง 6.5 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 2340×1080 อัตราส่วน Boby Ratio 91.1% และกระจก
หน้าจอ Corning® Gorilla® Glass รุ่น 5 ส่วนกระจกตัวเครื่องด้านหลังเป็น Corning® Gorilla® Glass รุ่น 5
ซีพียู MTK P70 RAM 8GB ROM 128GB UFS2.1 รองรับ Triple SIM Slots สามารถใส่ได้ 2 ซิม + 1 MicroSD ได้
มีให้เลือกด้วยกัน 2 สีคือ Sky White และ Lake Green แบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ 4,000 mAh ถึงจะราคาไม่แพง ก็ยังมีเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC 3.0 มีความเร็วในการชาร์จเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ชาร์จ 30 นาทีได้แบตเตอรี่ 51%
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ทั้ง Reno2 และ Reno2 F รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ แต่ถ้าตั้งค่าว่า กดปุ่ม Power ปุ๊บ กล้องหน้าเด้งขึ้นมาสแกนใบหน้าปั๊บ ก็ทำได้สะดวกดี
โดยมีเอ็ฟเฟ็กต์การสแกนลายนิ้วมือ 5 แบบด้วยกัน
ระบบเสียง Dolby Atmos และ Headphones Monitor
Navigation Keys เลือกได้ทั้ง แบบ 3 ปกติ หรือ Swipe Gestures ปัดจากด้านข้าง ด้านล่าง หรือ Swipe-Up แทนปุ่มปกติ
โหมด Night-Shield
เรียกโหมดนี้ได้จากแผงคำสั่งลัด เป็นการทำให้หน้าจอสีซีดลง มองสบายตาในที่แสงน้อย หรือก่อนนอน
รองรับ USB OTG
เข้าไปเปิดใน Setting > Additional Settings เลือก OTG Connection สามารถเสียบ USB Flash Drive ที่เป็นขั้ว USB Type-C หรือใช้ตัวแปลงสาย OTG ก็ได้
แยกหน้าจอ หรือ ใช้ 2 แอป ในหน้าจอเดียวกัน (App Split Screen)
ถ้าใช้คีย์บอร์ด จะลอยออกมาแบบนี้ พอใช้เสร็จ ก็จะหายไป
App Clone
ใช้ LINE 2 บัญชีในเครื่องเดียวกันได้
App Lock
ถ้าอยากล็อกแอปไหน ไม่ให้คนอื่นเข้ามาเปิดดูได้ เช่น แอป Photos ก็สามารถกำหนดได้ ให้สแกนนิ้วหรือใบหน้าก่อนเข้าใช้งาน
ใช้จำกัดเวลาเด็กๆ เล่นมือถือ จำกัดแอปที่เหมาะสมให้เด็กๆ เล่นตามที่กำหนด
อีกเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้เลย ก็เพราะว่า ทั้ง 2 รุ่น OPPO คิดมาดีมาก หลายคนกลัวว่ากล้องจะเป็นรอย ก็เลยมี O-Dot จุดเซรามิกขนาดเล็ก (จุดสีเขียววงกลม) ช่วยยกเลนส์กล้องขึ้น ปกป้องเลนส์กล้องและฝาหลังได้ดียิ่งขึ้น แถมกล้องก็อยู่ใต้ฝาหลัง ไม่ได้นูนออกมา
สรุปสั้นๆ ชอบถ่ายวีดีโอ กันสั่นดี ถ่ายวีดีโอหน้าชัดหลังเบลอได้ เลือก Reno2 ครบทุกระยะ ซูม ถ่ายภาพมาโคร ถ่ายภาพกลางคืนสวย ส่วน Reno2 F เน้น Self Portait ถ่ายหลังเบลอ ทั้งกล้องหน้าและหลัง กล้อง Wide
OPPO Reno2 F ราคา 11,990 บาท OPPO Reno2 ราคา 17,990 บาท
#OPPOReno2Series
#OPPOReno2F #OPPOReno2
#4กล้องหลังชัดทุกระยะสวยทุกมุมมอง