OnePlus 7T อัพเกรดมาจาก OnePlus 7 โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ เพิ่มจากกล้อง 2 เลนส์ เป็นกล้อง 3 เลนส์ และหน้าจอใหญ่ขึ้น คือ 6.55 นิ้ว แบบ Fluid AMOLED ดีขึ้นกว่าจอ Optic AMOLED แบบเดิม และรันบน Android 10 มาตั้งแต่แกะกล่องเลย
ยิ่งตอนนี้ถ้าใครอยากหามือถือเล่นเกม ควรมอง OnePlus อยู่ในตัวเลือก เพราะปรับหน้าจอแสดงผล 90Hz ได้ ตอบสนองการแตะหน้าจอได้ลื่นไหลมากกว่าเดิม ไถๆ จอก็ไม่ติดขัด ไม่หน่วง
หน้าจอ OnePlus 7T รองรับการแสดงผล Refresh rate 90Hz แสดงผลได้สว่าง มองสบายตา ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,000 nits แม้แสงจ้าก็ไม่หวั่น และป้องกันแสงสีฟ้าได้ถึง 40%
รวมไปถึงซีพียูที่ปรับมาเป็น Qualcomm Snapdragon 855+ (เร็วกว่า 855 ถึง 15%) ทำอะไรได้เร็วกว่าเดิม พร้อม RAM 8GB + ROM 128GB หน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.0 สั่งการเร็ว และลื่นไหลมากยิ่งขึ้น แบตเตอรี่เยอะขึ้น รัน Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS 10 เพื่อการใช้งานเสถียรมากที่สุด กับราคาเปิดตัว 17,990 บาท มีสีฟ้า Glacier Blue และ สีเทา Frosted Silver OnePlus 7T มาพร้อมสโลแกน Smooth like Never Before เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ และเล่นเกม อุ้มบอกเลยว่าต้องลองด้วยตัวเองแล้วจะรู้
หน้าจอ
หน้าจอแบบ Fluid Display ขนาด 6.55 นิ้ว แบบ FHD+ รองรับ HDR 10+ ความละเอียดหน้าจอ 2400 x 1080 พิกเซล 402 ppi รุ่นนี้มีรอยบากทรงหยดน้ำ Waterdrop Screen มีกล้องหน้าในตัวการแสดงวีดีโอ ถ้าเปิด Video Enhancer ก็จะได้ภาพที่สว่างสดใสขึ้น
รุ่นนี้ได้รับการอัพเกรด Reading Mode ให้ดียิ่งขึ้น สามารถรองรับ Full-color content โดยมี 2 โหมดคือ Chromatic Effect และ Mono Effectกล้อง
มีการวางตำแหน่งกล้องหลังใหม่ ดีไซน์ทรงกลม 3 เลนส์ (Triple Lens)
เลนส์หลัก 48MP IMX586 f / 1.6 พร้อมระบบกันสั่น OIS + EIS
เลนส์มุมกว้าง Ultra Wild Angle 16MP มุมมองกว้างถึง 117 องศา f / 2.2
เลนส์ Telephoto 12MP (เทียบเท่าระยะเลนส์ 51 มม.) f / 2.2 และขนาดพิกเซลใหญ่ถึง 1 µm
ซูม 2x แบบ Optical Zoom ภาพไม่แตก
ในเรื่องการถ่ายภาพ มือถือ OnePlus ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะได้มีการพัฒนาซอฟแวร์ถ่ายภาพให้ดีขึ้น UltraShot Engine สามารถใช้เลนส์หลัก และเลนส์ Telephoto เลือกถ่ายในโหมด Portrait ได้
โหมดถ่ายภาพ Macro สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ชัดถึง 2.5 ซม. โหมด Nightscape สามารถใช้เลนส์ Ultra Wide Angle ถ่ายภาพได้ด้วย นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกันสั่นให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยมี Hybrid Image Stabilization (HIS) สำหรับการถ่ายวีดีโออีกด้วย
การปรับแต่งโหมดกล้อง
ถ่าย Ultra-Wide ไม่บิดเบี้ยว เปิด Ultra Wide Lens Correction ได้ ปิดเสียงชัตเตอร์ได้ ปรับ HDR ได้ เข้าโหมดกล้องด่วน ตอนปิดจอ ให้กดปุ่ม Power ซ้ำ 2 ครั้ง กล้องจะเปิดอัตโนมัติ ใส่ลายน้ำได้ ตั้งเซลฟี่เป็นแบบ Mirror ได้ ถ้าถ่ายตอนกลางคืน ตั้ง Nightscape ได้ ถ้าใส่ขาตั้งกล้องก็จะตั้งให้เปิดหน้ากล้อง 8-30 วินาที เป็น Long Exposure ได้
ประสบการณ์ในการใช้งาน
ปุ่ม Navigation ปกติจะเป็น ปุ่ม Back / Home / Recent Apps แต่เราตั้งให้ปัดนิ้วเพื่อสั่ง Back Home Recent Apps แทนได้
Gesture
คำสั่งลัด ขณะหน้าจอดับ กดปุ่ม Power 2 ที เพื่อเปิดกล้อง คว่ำมือถือเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า ใช้ 3 นิ้วเพื่อบันทึกภาพหน้าจอ ScreenShot ยกมือถือขึ้นรับสาย หรือยกแนบหูเพื่อรับสาย หรือใช้คำสั่งวาดนิ้ว ใช้ 2 นิ้วควบคุม Play / Pause เพลง
Quick Launch กดปุ่มสแกนนิ้วบนหน้าจอ เมื่อปลดล็อคเสร็จเรียบร้อยให้กดค้างไว้ จนมีคำสั่ง Quick Launch ขึ้นมาให้เลือก จากนั้นปัดหน้าจอเพื่อเลือกคำสั่งด่วน
ระบบ Haptic vibration (ระบบสั่น) ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่สั่นตอนสายเรียกเข้า แต่สั่นตอนเล่นเกม เพื่อให้มีอารมณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น
ตั้งค่าการแสดงผลต่างๆ บนหน้าจอ
ปรับไอคอน ธีมสี การแสดงผล วอลเปเปอร์ รูปแบบนาฬิกาบนหน้าจอมือถือขณะสแตนบาย
สแกนนิ้ว สแกนใบหน้า
สแกนนิ้วใต้หน้าจอแบบ In-Display Fingerprint Sensor และ Face Unlock
อันนี้เกี่ยวข้องกับการตั้งค่า Ambient Display ด้วย เพราะสามารถตั้งให้หยิบมือถือขึ้นมาปุ๊บ หน้าจอติดสว่างพร้อมสแกนนิ้วปั๊บ
กำหนดได้ว่าถ้าหยิบมือถือขึ้นมาจากโต๊ะ หรือแตะหน้าจอที่ดับอยู่ เพื่อปลุกหน้าจอให้แสดงตัวสแกนลายนิ้วมือ
กล้องหน้าใช้สแกนใบหน้าได้รวดเร็ว และสแกนนิ้วมือบนหน้าจอได้รวดเร็ว พร้อมปรับลูกเล่นเอ็ฟเฟ็กซ์ของรูปแบบการ
สแกนนิ้ว มีให้เลือกหลายแบบเลย
ระบบเสียง
ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ Dolby® Atmos เสียงรอบทิศทาง โดยสามารถปรับเสียงได้ตามต้องการ
ถ้าใส่หูฟัง มี Earphone Mode ตั้งได้ว่า ถ้าเสียบหูฟัง ให้ Auto Play เพลงที่เล่นค้างอยู่ หรือถ้ามีสายเข้าก็จะไปคุยผ่านหูฟัง Bluetooth แทน หรือแม้กระทั่งตั้งให้ริงโทนดังผ่านหูฟังก็ทำได้ (รุ่นนี้ไม่รองรับหูฟัง 3.5 ม.ม.)
ใช้ลายนิ้วมือ หรือรหัสผ่าน ปลดล็อคแอปได้
Parallel Apps ใช้ 2 บัญชีในเครื่องเดียวกัน ทั้ง Facebook Messenger LINE ล็อกอินบัญชีบริษัท ร้าน กับบัญชีส่วนตัว ค้างไว้ได้เลย ไม่ต้อง Logout ออกแล้ว Login ใหม่
รองรับ USB OTG
รองรับ OTG สามารถเอา USB Flash Drive มาเสียบ โดยจะมีค่าหน่วงเวลา 10 นาที ถ้าเสียบแล้วไม่ได้ทำอะไรใน 10 นาทีนั้น ก็จะปิดฟีเจอร์นี้อัตโนมัติ
RAM Boost
ปรับการจัดการ RAM และจัดการการเปิดแอปต่างๆ
Battery
OnePlus 7T เพิ่มความจุแบตจาก OnePlus 7 เป็น 3,800 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว Warp Charge 30T เร็วกว่ารุ่นก่อน 23%
ตั้งให้แสดงเปอร์เซนต์แบตเตอรี่ได้
Game Space / Game Mode / Fnatic Mode
ปิดการแจ้งเตือน ปิดการทำงานแบ็คกราวน์ แสดงการโทรเข้า ข้อความเป็นตัวอักษร Text ไม่รบกวนสายตาขณะเล่นเกม คุยผ่าน Speaker Phone ทำให้เล่นเกมต่อไปได้โดยไม่ถูกขัดจังหวะ ปรับกราฟิกในการแสดงผลเกมให้ลื่นที่สุด
ปิดการหรี่แสงหน้าจออัตโนมัติ ปกติมือถือจะตั้งไว้ว่า ถ้าแสงมืด ให้หรี่หน้าจอมืดลง ทีนี้ ถ้าเราเผลอเอามือบังเซ็นเซอร์ ขณะเล่นเกม ถ้าปิดตรงนี้ แม้มือบังเซ็นเซอร์ จอก็ไม่หรี่ความสว่างลง
Fnatic Mode
โหมดนี้สำหรับคนที่อยากเล่นเกมจริงจัง ปิดแม้กระทั่งการโทรเข้า ปิดการแจ้งเตือนทุกสิ่งอย่าง ปิดซิมที่ 2 เน้นใช้
ซิมแรกเล่นเน็ตให้ลื่นที่สุด
โหมดที่จะให้คุณใช้สมาร์ทโฟนน้อยลง สามารถปรับแต่งระยะเวลาได้นานขึ้นตั้ง 20 นาทีถึง 60 นาที และยังมี 21-Day Zen Mode Challenge ที่จะทำให้คุณบาลานซ์ชีวิตและเทคโนโลยีของคุณได้ดียิ่งขึ้น
โดยรวมแล้ว OnePlus 7T อัพเกรดขึ้นจาก OnePlus 7 ได้อย่างน่าสนใจ ทั้ง CPU แรงขึ้น ใช้ UFS 3.0 จอใหญ่ขึ้น แบตเยอะขึ้น กล้องเป็น 3 กล้อง ถ่าย Macro 2.5 ซ.ม.ได้ ที่สำคัญ หน้าจอ 90Hz ทำให้ได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีขึ้น (บนเกมที่รองรับ)
ปิดท้ายด้วย คลิปแกะกล่อง OnePlus 7T Media Box ที่บอกเลยว่ากล่องใหญ่อลังการมาก