เปิดตัวกันรัวรัว ตั้งแต่ต้นปี โดยล่าสุด Xiaomi ได้เปิดตัว Mi 11 Ultra รุ่นท็อปของ Xiaomi เน้นกล้อง ล่าสุดคว้ารางวัล DXOMARK 143 คะแนน, Mi 11i สเปคแรง จิ๋วแต่แจ๋ว พลังเสียง Dolby Atmos®, Mi 11 Lite 5G และ Mi 11 Lite รุ่นเล็ก บาง รวมไปถึง Mi Smart Band 6 จอ 1.56” ตรวจวัด SpO2 รวมไปถึง Mi Smart Projector 2 Pro ความละเอียด FHD รองรับ HDR10
Mi 11 Ultra รุ่นท็อปปฏิวัติวงการภาพถ่ายและวิดีโอ
อัปเกรดจาก Mi 10 Ultra ใช้กล้องที่ดีที่สุดของเสียวหมี่ กล้องหลัง 3 ตัวเทียบกล้องโปร ขุมพลังจากชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 888 หน้าจอ AMOLED โค้ง 4 ด้าน อัตรารีเฟรชเรท 120Hz ชาร์จไวผ่านสายและไร้สาย 67W (ชาร์จเต็ม100% ใน 36 นาที) ถ่ายวิดีโอ 8K 24fps จอสวย Dolby Vision® HDR10+ และการให้สีกว่า 1.07 ล้านล้านสี
ที่แหวกแนวคือมีหน้าจอ AMOLED แบบ always-on display ที่ด้านหลังตัวเครื่องขนาด 1.1 นิ้ว ใช้ดูการแจ้งเตือนต่างๆ พรีวิวภาพเซลฟี่ และการใช้งานอื่นๆ ได้
โดย Mi 11 Ultra มาพร้อมกับความจุ 12GB + 256GB
Mi 11i หน้าจอคมชัด และระบบเสียง Dolby Atmos®
เทียบเคียงกับรุ่นแฟลกชิป มาพร้อม ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 888 เทคโนโลยีการทำงานแบบ 5nm ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่น้อยลง ตัวเครื่องเพรียวบางและดีไซน์กะทัดรัด ตัวเครื่องทำจากกระจก ดีไซน์พรีเมียม หนาเพียง 7.8 มิลลิเมตร ระบบปลดล็อดหน้าจอด้านข้างแบบใหม่ จับได้ถนัดมือ หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้วแบบ DotDisplay มีรูกล้องหน้าที่เล็กที่สุดขนาด 2.76 มิลลิเมตร รองรับความละเอียดแบบ HDR10+ มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และความเร็วในการตอบสนองหน้าจอ 360Hz ลำโพงคู่และระบบเสียง Dolby Atmos® แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,520mAh รองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charging) 33W
Mi 11i มี 2 ความจุ ได้แก่ ความจุ 8GB + 128GB และความจุ 8GB + 256GB
Mi 11 Lite 5G และ Mi 11 Lite
ใครอยากได้มือถือบางๆ เบาๆ ลองดู 2 รุ่นนี้ หนักเพียง 159 กรัม และหนาแค่ 6.81 มิลลิเมตร มีกล้องหลัง 64MP โหมด one-click AI cinema ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 780G
Mi 11 Lite 5G วางจำหน่ายใน 2 ความจุ ได้แก่ 8GB+128 GB และ 6GB+128GB
Mi 11 Lite วางจำหน่ายใน 2 ความจุ ได้แก่ 6GB+128GB และ 6GB+64GB
Mi Smart Band 6
มาถึงรุ่น 6 แล้ว หน้าจอ AMOLED 1.56 นิ้ว 326PPI หน้าจอแสดงผลได้มากกว่าราว 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน มีโหมดการออกกำลังมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า โหมดการออกกำลังที่ท้าทายกว่า 30 รูปแบบ และสามารถตรวจจับกิจกรรมพื้นฐาน 6 แบบได้อัตโนมัติ วัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2), วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การวัดคุณภาพการนอนหลับ และอื่นๆ
Mi Smart Projector 2 Pro
โปรเจคเตอร์ในบ้านกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดาไปแล้ว Mi Smart Projector 2 Pro ให้ความละเอียด 1920 x 1080 FHD และความสว่างสูงถึง 1300 ANSI รองรับความละเอียดแบบ HDR10 มีลำโพงแบบบิวด์อิน 10W ระบบเสียง DTS-HD และ Dolby Audio™ ใช้ระบบ Android TV™ ใช้กับ Chromecast และ Google Assistant Support ได้
ในขณะที่ Xiaomi Mi 11 Pro มาพร้อมชิป Snapdragon 888 และใช้เซ็นเซอร์ Samsung GN2 50MP
หน้าจอโค้ง 6.81 นิ้ว แบบ Quad curved AMOLED ความละเอียด QHD บน refresh rate 120Hz และระบบเสียง Dolby Vision กระจก Corning Gorilla Glass Victus ลำโพงสเตอริโอคู่ (dual stereo speakers) ที่ปรับจูนโดย Harman Kardon กล้องหน้าเซลฟี่แบบเจาะรู (punch-hole) 20MP
กล้องโหด Mi 11 Pro ใช้เซ็นเซอร์ Samsung 50MP GN2 ขนาด 1/1.2” พร้อม 1.4μm รองรับ Dual Pixel Pro AF, Stagger HDR และ ISO fusion ถ่ายวีดีโอ 8K จากกล้องหลักได้เลย
กล้อง periscope 5x optical (50x digital) พร้อม OIS ส่วนเลนส์ ultrawide ความละเอียด 13MP
ชิป Snapdragon 888 จัดการเรื่องความร้อนสะสมได้ดีมากๆ ด้วย 150mm vapor chamber และ copper hear sinks ที่ถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็ว
แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว โดยชาร์จแบบมีสาย 67W และไร้สาย 67W ใช้เวลาชาร์จเต็ม 36 นาที
ซอฟต์แวร์ครอบด้วย MIUI 12.5 บน Android 11 กันน้ำ IP68 มี IR blaster มาให้ด้วย มีสี Green, Black และ Purple
โดย Mi 11 Pro มี RAM 8GB / 128GB ราคาประมาณ 23,990 บาท รุ่น 8/256GB ราคาประมาณ 25,000 บาท ส่วนรุ่น 12/256GB ราคาประมาณ 27,100 บาท เริ่มวางจำหน่ายที่จีน 2 เมษายนนี้
กล่องที่ขายของ Xiaomi มีแบบปกติ ที่มาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จ 67W พร้อมสายชาร์จ กับรุ่นประหยัด ไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จไฟและสายชาร์จ