ในที่สุด Apple ก็ได้เปิดให้ดาวน์โหลดเวอร์ชั่นเต็ม Final version ของ iOS 15 ได้แล้ว โดยใช้งานได้บน iPhone 6s ขึ้นไป iPhone SE ทั้ง 2 รุ่น และ iPod touch รุ่นล่าสุด (ส่วนผู้ใช้ iPad สามารถอัปเกรดไปใช้ iPadOS 15 และ watchOS 8 ได้เลย)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของ iOS 15 ก็คือ Focus mode แบบใหม่ ที่เพิ่ม “Do not disturb” ทำให้เรากำหนดค่าได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เลือกกำหนดแอปและคนที่ต้องการรับ notifications และทำให้เรา “โฟกัส” หรือเพ่งสมาธิไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้มากขึ้น อย่างที่เรารู้กันว่า Noti แสนกวนใจ โดยสามารถเลือก Work mode, Sleep mode, Workout mode ได้ตามต้องการ และกำหนดไม่ให้แอปต่างๆ แจ้งเตือนกวนใจเราได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมี Weather app แบบใหม่ อัปเดตแผนที่บน Apple Maps ปรับปรุง FaceTime และปรับโฉม Safari ใหม่
สิ่งใหม่บน iOS 15 คือ สแกนตัวอักษรในภาพได้เลย (Live Text) ทำให้เราสามารถ highlight, copy และ paste ตัวอักษรในภาพได้ และนำ Spotlight มาช่วยในการค้นหาตัวอักษรบนรูปภาพได้
ส่วนคนที่จ่ายเงินซื้อ iCloud เพิ่ม จะได้รับการอัปเกรดเป็น iCloud+ โดยผู้เขียนซื้อแบบ 200GB อยู่ สิ่งที่ได้คือ ความจุ 200GB ได้ iCloud Private Relay (Beta), Hide My Email, Custom Email Domain และ HomeKit Secure Video ที่รองรับ 5 กล้อง
ส่วน iCloud Private Relay แต่ยังไม่รองรับการใช้งานในประเทศไทย ข้อดีคือท่องเว็บได้แบบส่วนตัว ไม่ถูกสะกดรอยตามหรือแทร็คพฤติกรรมการใช้งานของเรา ส่วน Hide My Email มีประโยชน์มาก เพราะช่วยทำให้เราสมัครบริการต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ซ่อนอีเมลส่วนตัวของเรา
ก่อนอัปเดต แนะนำให้ตรวจสอบแบตเตอรี่ว่าชาร์จเต็ม ไวไฟแรงๆ และแนะนำให้ back up ก่อนเริ่มอัปเดต โดยตรวจสอบ iCloud backup ใน Settings แตะที่ account information ด้านบน จากนั้นแตะชื่อเครื่องของเรา หรือสำรองข้อมูลบนคอมไว้ก่อนก็ได้
ส่วนการอัปเดต เข้าไปที่ Settings แตะ General แตะ Software Update รอจนเห็นข้อความ Update Requested… แนะนำเน็ตแรงๆ แต่ช่วงนี้อาจจะต้องรอคิวสักหน่อยเพราะคนอัปเดตกันเยอะ