ถ้าจะต้องซื้อ Printer ซักตัว ก็มักจะมีคำถามกันว่าจะซื้อแบบเลเซอร์ หรืออิงค์เจ็ทดี อันนี้เป็นข้อถกเถียงที่มีมาโดยตลอด วิธีเลือกที่ดีอย่างหนึ่งคือ ให้ดูการใช้งานของเราว่าเน้นการใช้งานแบบไหนมากกว่ากัน เช่น เน้นปริ้นสี หรือขาว-ดำ ใช้งานบ่อยแค่ไหน แล้วก็หาเอาข้อมูลของทั้ง 2 แบบมาเปรียบเทียบกัน งั้นเรามาลองดูข้อดีข้อเสียกันข้อต่อข้อ ให้เห็นกันจะๆ ก่อนฟันธงกันดีกว่า
ราคาในวันนี้เริ่มสูสีกัน
เมื่อก่อนเครื่อง Inkjet มีราคาถูกกว่า laser เยอะมาก แต่เดี๋ยวนี้ราคาเครื่อง laser ถูกลงกว่าเดิมมากราคาเครื่องขาว-ดำถูกสุดก็อยู่ที่ 2 พันกว่าบาท ส่วนเครื่อง laser สีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 4-5 พันบาทเท่านั้น แต่แน่นอนว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์แบบขาวดำ ต่างจากอิงค์เจ็ทที่สามารถพิมพ์ได้ทั้งสีและขาวดำ อย่างไรก็ตามด้วยราคาที่ถูกลงของ Laser ทำให้เป็นที่นิยมใช้ตามสำนักงานเล็กๆ และใช้ในบ้านมากขึ้น
คุณภาพการพิมพ์เลเซอร์กินขาดที่ตัวอักษรอิงค์เจ็ทชนะที่พิมพ์ภาพ
ถ้าเป็นตัวอักษรเครื่องพิมพ์เลเซอร์ชนะขาด ด้วยคุณภาพของตัวอักษรที่คมกริบ แต่ถ้าปริ้นสีเครื่อง Inkjet อาจจะคุ้มกว่า เพราะราคาของเครื่องถูกกว่า และจะประหยัดยิ่งขึ้นถ้ามี Super Economy ที่เป็นระบบประหยัดหมึก ซึ่งมีในเครื่องพิมพ์ระบบบับเบิ้ลเจ็ทของ Canon
ในแง่การพิมพ์รูปและภาพถ่าย เครื่องพิมพ์เลเซอร์สีอาจจะมีการพิมพ์ต่อจุดที่คมกว่า แต่คุณภาพการพิมพ์ของเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในส่วนที่เป็นรูปจะดูขาดชีวิตชีวา สีสันไม่อิ่มเหมือนกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เฉดสีก็ดูไม่ครบ ดังนั้น หัวข้อนี้อิงค์เจ็ทชนะไป ยิ่งหากเป็นอิงค์เจ็ทระบบบับเบิ้ลเจ็ทลิขสิทธิ์เฉพาะของ Canon ยิ่งชนะเลิศ เพราะช่วยปรับภาพให้มีความละเอียด ให้ภาพคมชัดยิ่งขึ้น และปรับรอยหยักของภาพให้หายไปด้วย
ความเร็วในการพิมพ์
ส่วนความเร็วในการพิมพ์นั้น ปกติเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะมีช่วงเวลาการอุ่นเครื่องก่อนพิมพ์ที่นานกว่า จึงดูเหมือนจะพิมพ์ช้ากว่าระบบอิงค์เจ็ท แต่ Canon ก็แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของเขาด้วย CAPT (Canon Advanced Printing Technology) และยังมี Hi-SciA (High Smart Compression Architecture) ที่ประมวลผลข้อมูลภาพได้เร็วกว่าปริ้นเตอร์ธรรมดาทั่วไป นอกจากนี้ ยังมี On-Demand Fixing ทำให้ไม่เสียเวลาในการวอร์มอัพก่อนการใช้งาน สามารถพิมพ์แผ่นแรกได้ในเวลาเพียง 10 วินาที ช่วยประหยัดทั้งเวลาและพลังงานได้พร้อมกัน
ราคาต่อหน่วยการพิมพ์พอฟัดพอเหวี่ยง
เมื่อก่อนการพิมพ์งานด้วย Laser จะมีราคาต่อหน่วยที่ถูกกว่า Inkjet มาก แต่หลังจากความนิยมของระบบ Ink tank ทำให้ราคาต่อหน่วยในการพิมพ์ของ Inkjet ถูกลงมาก อีกทั้งยังไม่มีเรื่องของวัสดุสิ้นเปลืองอย่างเช่น drummer ในเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ข้อนี้จึงให้เสมอกันไป
อึดกว่า ทนกว่า ต้อง….
Laser เนื่องจาก Inkjet มีโอกาสที่หมึกจะตันหรือมีปัญหาได้มากกว่าอยู่สักหน่อย สังเกตง่ายๆ ว่า Inkjet ส่วนใหญ่จะรับประกัน 1 ปี ขณะที่เลเซอร์มักประกันที่ 3 ปี
เทียบข้อดี ข้อเสียของแต่ละระบบกันแล้วก็สูสีกัน ผลัดกันแพ้กันชนะ ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อมาก็คือ ความเหมาะสมต่อการใช้งาน
นักเรียน นักศึกษา
กลุ่มนี้มักทำรายงานเยอะ ก็ควรใช้อิงค์เจ็ทที่ทำงานได้หลากหลายกว่า ราคาประหยัดกว่า แต่หากต้องทำงานเนี๊ยบๆ เช่น วิทยานิพนธ์ หรือ Final Project ที่เป็นงานระดับนักศึกษา ซึ่งต้องดูโปรขึ้นก็ต้องใช้เลเซอร์
ใช้งานที่บ้าน ฟีเจอร์ต้องครบ
การใช้งานในบ้านมักใช้งานเอนกประสงค์ อิงค์เจ็ทจึงรองรับได้ดีกว่า อย่าง Ink Jet ระบบบับเบิ้ลเจ็ทของ Canon ที่ใช้งานได้ทั้งเป็นเครื่องพิมพ์ และเครื่องสแกนเนอร์ในเครื่องเดียวกัน ที่สำคัญอิงค์เจ็ทยังไม่มีฝุ่นผงจากการพิมพ์ จึงไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในครอบครัว
งานออฟฟิศ
ออฟฟิศเล็กที่มักพิมพ์ตัวหนังสือก็ต้องเลเซอร์ ถ้าเน้นพิมพ์รูปก็ต้องเลือกเป็นอิงค์เจ็ท ส่วนสำนักงานทั่วไปคงขาดเลเซอร์ไม่ได้ ยิ่งถ้ารองรับระบบ Network หรือ Wifi ก็จะยิ่งสะดวกขึ้นในการใช้งานหลายๆ คน ส่วนอิงค์เจ็ทอาจจะต้องมีไว้ เพื่อพิมพ์ในส่วนที่ต้องการภาพสี
เทียบกันข้อต่อข้อกันหมดแล้ว คุณคงเลือกได้แล้วนะคะว่าว่า printer ที่คุณกำลังจะซื้อจะเป็นอิงค์เจ็ทหรือเลเซอร์ดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และงบประมาณที่คุณมีนั่นแหละเป็นหลัก
ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://www.lazada.co.th/shop-printers-ink/canon/