ตอนแรกอุ้มว่าจะข้ามตัวนี้ค่ะ เพราะช่วงนี้มีหลายรุ่นออกใหม่น่าสนใจเยอะเหลือเกิน แต่ทนกระแสและคำถามจากหลายๆคนไม่ไหว ขอเอามาเล่าให้ฟังหน่อยแล้วกันนะคะ กับ รีวิว Galaxy A9 Pro ที่ต้องบอกว่า คุ้มราคา 15,900 ใช้ได้ทีเดียว โดยในรีวิวนี้ อุ้มจะขอเล่าในสิ่งที่อุ้มถูกใจ และไม่ถูกใจ ไปเริ่มกันเลยค่า
LIKE : จอ 6 นิ้ว แบต 5,000 mAh
Dislike : หนักจัง 210 กรัม
มีอยู่ช่วงนึงอุ้มหามือถือจอ 6 นิ้ว แต่ก็ตัวใหญ่เหลือเกิน ถ้ามาดูเจ้า A9 Pro จะเห็นได้ว่าถึงจะเป็นจอ 6 นิ้วก็จริง แต่ข้อดีคือ ขอบจอแทบจะชนขอบเครื่องเลยค่ะ ทำให้ตัวเครื่องไม่ได้มีขนาดใหญ่จนเทอะทะ หน้าจอ Super AMOLED Display แจ่มๆ ความละเอียด 367 ppi ให้สีที่สดใสดี
แบตเตอรี่ที่ให้มา 5,000 mAh ถ้ามองเล่นๆ เหมือนเป็น PowerBank ที่ขายๆ กันเครื่องนึงเลยนะคะ เอากันตรงๆ จอมันใหญ่ กินแบตเยอะ ก็ควรต้องให้แบตก้อนใหญ่มา ถือว่าถูกแล้ว 555 ถ้าถามอุ้มว่า 5,000 mAh เยอะมั้ย ก็ต้องบอกว่าเยอะมากๆ อุ้มเล่นเกมต่อเนื่อง แบตยังลดลงไปนิดเดียว เอามาใช้งานจริงๆ น่าจะถึงวันครึ่งนะคะ
แต่น้ำหนัก 210 กรัม บอกตามตรงว่าเล่นนานๆ นิ้วชาได้เลยนะคะ และอาจจะตุงกระเป๋ากางเกงบ้าง รอคอยรุ่นที่แบตขนาดนี้ แต่น้ำหนักเบาๆ คงจะดีไม่น้อยเลยนะคะ
LIKE : CPU Octa Core 1.8 GHz แรม 4GB
DISLIKE : ทำไมไม่ใส่ Gyroscope Sensor มา / เล่นเกม ร้อนหลังเหมือนเดิม
ตอนแรกตั้งใจมากๆ จะเอามาบอกทุกคนว่า A9 Pro มือถือสำหรับออกไปจับ Pokemon หรือว่าเล่นเกม Pokemon GO ได้สบายๆ เพราะแบตอึดมาก แต่ก็ต้องงงๆ ไป เพราะไม่มี Gyroscope sensor ซึ่งถามว่าเล่นได้มั้ย ยังเล่นได้นะคะ แค่มันจะไม่สมบูรณ์ 100% เสียดายนะเนี่ย
แต่ถ้าตัดเรื่อง Gyroscope ออกไป สเปคที่ให้มาค่อนข้างเต็มอิ่ม ตั้งแต่ CPU Octa Core 1.8 GHz รวมทั้งให้แรมมาอีก 4GB ความจุให้มา 32 GB สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้ รันด้วย Android 6.0
จากการเอามาเล่นเกม NBA Live อย่างสนุกสนาน จนกลายเป็นเครื่องที่เอาไว้เล่นเกมไปแล้วค่ะ นอกจากจะได้หน้าจอที่ใหญ่ ยังสามารถเล่นเกมต่างๆ ได้ลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงให้หงุดหงิดใจ การใช้งานทั่วไปยิ่งสบาย จัดสเปคมาขนาดนี้แล้ว ถ้ายังเอ๋ออีก ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วค่ะ 555
สามารถดูคลิปใน YouTube ได้ที่ความละเอียด 1080p หรือ Full HD เสียงดังใช้ได้ค่ะ อาจจะยังติดแหลม (ภาวนาให้ Samsung แก้ตรงนี้ ใน Note 7 สักที) ส่วนเวลาใช้เล่นเกม ดูหนังนานๆ ก็ร้อนตามระเบียบ การระบายความร้อนมันดี เค้าว่าอย่างงั้น 555
LIKE : ใส่ได้สองซิม ซิมสองรองรับ 3G ด้วย / มีแสกนลายนิ้วมือ
DISLIKE : ไม่มีไฟ LED แสดงสถานะด้านหน้า
จุดเด่นอีกอย่างที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง คือเจ้า A9 Pro สามารถใส่ได้ สองซิม และใส่เมมแยกอีกช่องอย่างอิสระ และที่สำคัญ ซิมสอง ที่ปกติจะชอบรองรับแค่สัญญาณ 2G เจ้าตัวนี้สามารถใช้งาน 3G ได้ หลายๆคนคงรู้สึกสบายใจขึ้นนะคะ
ในราคานี้ ยังมากับระบบแสกนลายนิ้วมือ สร้างความปลอดภัยให้กับการใช้งาน โดยยังเป็นระบบการกดให้หน้าจอติด แล้วค่อยแสกนเข้าได้เหมือนเดิมนะคะ
เรื่องไฟ LED แสดงสถานะด้านหน้า อุ้มเองไม่ค่อยติดอะไร เพราะถ้ามีก็เลือกที่จะปิดมันอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าหลายๆ คนยังใช้งานมันอยู่ อาจจะหงุดหงิดได้ ที่ถูกตัดฟังก์ชั่นนี้ออก
LIKE : กล้องหลัง 16 MP F1.9 มี OIS / กล้องหน้า 8 MP F1.9
DISLIKE : เหมือนภาพจะซูมๆไปหน่อย
โดยรวมถือว่าผ่าน ลองดูภาพถ่ายจากตัวจริงกันเลยนะคะ
LIKE : ราคา 15,900 บาท
จริงๆ ถ้าถามว่าคุ้มมั้ย ก็ต้องบอกว่า น่าสนใจมากกับราคานี้ค่ะ เรียกว่า Samsung ตั้งใจเอามาทำตลาดตัวรองท้อปอย่างแท้จริง และเชื่อเหลือเกินว่า ต่อไปเราจะสามารถใช้งานจอ 6 นิ้วที่ไม่ใหญ่ และไม่หนักมาก เป็นการพัฒนาต่อยอดจากตัวนี้ในอนาคต
เพราะถ้าเทียบกับขนาดของ iPhone 6s Plus แล้ว เจ้า A9 Pro มีขนาดไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก เพราะ iPhone จะหนักพื้นที่ส่วนหัวและส่วนท้ายซะเยอะ แต่ถ้าเทียบขนาดกับ S7 Edge เจ้า A9 Pro ใหญ่กว่าเยอะพอควร ข้อควรระวังอีกอย่างนึงคือ A9 Pro ลื่นนะคะ มีสิทธิร่วงง่ายๆ เลยทีเดียว
วันนี้ อุ้มก็ขอฝาก รีวิว Galaxy A9 Pro เป็นน้ำจิ้มไว้เท่านี้ และ 2 สิงหานี้ เรามีนัดกันที่นี่ กับ Samsung Galaxy Note7 นะคะ แล้วพบกันค่าาา