BMW X1 sDrive20i M Sport

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i xLine ใหม่ ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ รถยนต์ SAV อเนกประสงค์สุดทันสมัย

BMW X1 sDrive20i M Sport

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์สองรุ่นใหม่ล่าสุดในไลน์อัพบีเอ็มดับเบิลยู X1 ได้แก่
BMW X1 sDrive20i M Sport และ BMW X1 sDrive20i xLine ใหม่ โดยรถยนต์ SAV (Sports Activity Vehicle หรือรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์) ทั้งสองรุ่นนี้จะเข้ามาสร้างนิยามใหม่แห่งประสบการณ์การขับขี่สำหรับสาวกบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ที่โดดเด่น เทคโนโลยีล้ำสมัย และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังรวบรวมเอาแก่นแท้ของความเป็นอิสระของการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการขับขี่ระยะไกล ผสมผสานความคล่องตัว ประสิทธิภาพ และความสบายในการขับขี่ได้อย่างลงตัว

BMW X1 sDrive20i M Sport

ตัวรถยังโดดเด่นด้วยองค์ประกอบด้านพื้นที่และความอเนกประสงค์ ตอบสนองผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบการผจญภัย
ในขณะเดียวกันยังดึงดูดทุกสายตาเมื่ออยู่บนท้องถนน และในฐานะที่เป็นรถยนต์ในตระกูล ‘X’ อันเลื่องชื่อ รถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ยังแสดงประสิทธิภาพและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับความคล่องตัวระดับพรีเมียม ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิกสูงสุดในทุกรูปแบบการเดินทางให้กับผู้ขับขี่

บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport ใหม่

ราคาจำหน่าย: 2,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i xLine ใหม่

ราคาจำหน่าย: 2,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

BMW X1 sDrive20i M Sport

บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i xLine ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้พละกำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ / 204 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 300 นิวตันเมตร ที่ 1,450 – 4,500 รอบต่อนาที โดยสามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.6 วินาที ก่อนพุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุดที่ 236 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport ยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อน มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะแบบ Steptronic พร้อมคลัตช์คู่ และ Gearshift Paddle ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i xLine มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะแบบ Steptronic พร้อมคลัตช์คู่ ทั้งสองรุ่นเหนือกว่าด้วยการผสมผสานคุณสมบัติขั้นสูงมากมาย เช่น ระบบ BMW Head-up Display ที่มอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ

BMW X1 sDrive20i M Sport

บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport ใหม่ มาพร้อมกับชุดแต่ง M Sport ด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double Spoke แบบสลับสี ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกสปอร์ตให้กับตัวรถ ราวหลังคาดีไซน์ M สีดำเงาและภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาตอกย้ำความหรูหราที่แฝงไปด้วยความปราดเปรียวตามแบบฉบับ M Sport ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i xLine ใหม่ เน้นบุคลิกทะมัดทะแมงด้วยชุดแต่งภายนอก xLine โดดเด่นด้วยราวหลังคาแบบ Aluminium Satinated และภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง Satin Aluminium ให้การผสมผสานระหว่างรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและการใช้งานได้อย่างลงตัว ลักษณะการออกแบบที่แตกต่างและรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของรถทั้งสองรุ่นยังสะดุดตายิ่งขึ้นด้วยระบบไฟหน้า Adaptive LED ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ และกระจกมองข้างพับอัตโนมัติและตัดแสงอัตโนมัติฝั่งคนขับ นอกจากนั้น กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่เกือบเป็นทรงสี่เหลี่ยมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ส่วนองค์ประกอบการออกแบบที่แตกต่างช่วยเน้นย้ำลักษณะอันปราดเปรียวและแข็งแกร่งของรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้

BMW X1 sDrive20i M Sport

ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport ใหม่ ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครตามแบบฉบับรถยนต์หรูด้วยพวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M หลังคาภายในดีไซน์ M สี Anthracite และภายในตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย ‘Mesheffect’ ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i xLine ใหม่ ตกแต่งด้วยไม้ลาย Eucalyptus แบบด้าน ให้บรรยากาศที่ประณีตหรูหรา ตอกย้ำถึงคุณลักษณะระดับพรีเมียมที่ฝังลึกอยู่ในตัวรถ กระจกมองข้างและกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ เบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์ Sport คอนโซลด้านบนแบบ Luxury และชุดไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร ยังได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในทั้งสองรุ่นอีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i xLine ใหม่ มาพร้อมกับระบบช่วยการขับขี่ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus พร้อมด้วยถุงลมนิรภัยสําหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ระบบ Teleservices และปุ่มโทรออกฉุกเฉิน ยิ่งไปกว่านั้น ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชนและระบบตรวจวัดลมยาง ยังถูกติดตั้งมาเพื่อช่วยให้สามารถควบคุมการขับขี่ได้ดีขึ้นและช่วยตรวจจับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขับขี่

BMW X1 sDrive20i M Sport

รถยนต์สองรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับหลากหลายระบบความบันเทิงทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น BMW Live Cockpit Professional ระบบ BMW ConnectedDrive ระบบเครื่องเสียง HiFi Harman Kardon (สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport) และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน

โดยบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i xLine ใหม่ มีให้เลือกใน 4 สีตัวถัง ได้แก่ สีขาว Alpine White Solid, สีดำ Black Sapphire Metallic และสีเงิน Space Silver Metallic พร้อมการตกแต่งภายในบุด้วยหนังเบาะที่นั่งแบบ Sensatec Perforated สีน้ำตาลเข้ม Mocha สำหรับตัวเลือกตัวถังสีน้ำเงิน Phytonic Blue Metallic (บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i xLine) และสี Portimao Blue Metallic (บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive20i M Sport) ตกแต่งภายในบุด้วยหนังเบาะที่นั่งแบบ Sensatec Perforated สีดำ

BMW X1 sDrive20i M Sport

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้ แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิตมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

ในปี พ.ศ. 2565 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์เกือบ 2.4 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 202,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 23.5 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 142.6 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 149,475 คนทั่วโลก

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี โดยวางรากฐานความสำคัญสำหรับอนาคตตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่กระบวนการการผลิตสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือซัพพลายเชนในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง

ในปี 2565 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 15,010 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 13,572 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,438 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,293 คัน

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยูมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ ทั้งหมด 18 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 6 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 1397
www.bmw.co.th
www.mini.co.th
www.bmw-motorrad.co.th

Comments

comments