หลังจากที่มีข่าว “จับเด็กปั๊มแสบ แอบถ่ายบัตรเครดิตลูกค้า โอนเงิน เติมเกมออนไลน์” เหตุการณ์คือ มีคนถูกนำบัตรเครดิตไปซื้อของออนไลน์ แล้ว Call Center เจอพฤติกรรมการใช้บัตรแปลกๆ ก็เลยโทรมาสอบถามเจ้าของบัตร เลยรู้ความจริงว่า มีพนักงานปั๊มน้ำมันขโมยข้อมูลบัตรของลูกค้าที่เข้ามาเติมน้ำมัน โดยนำข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิตของลูกค้าไปใช้ เพื่อที่จะเติมเกมมือถือ Free Fire และ RoV
ซึ่งในการช้อปออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต จะมีการกรอกเลขรหัส CVV ที่อยู่หลังบัตรเครดิต เพื่อยืนยันการซื้อสินค้า โดยรหัส CVV คือรหัสที่ใช้ยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตร เพื่อยืนยันว่าผู้ที่ชำระเงินเป็นผู้ที่ถือบัตรอยู่จริง (ถ้ามีแต่เลขบัตร ไม่มีเลข CVV ก็ซื้อของออนไลน์ไม่ได้)
CVV ย่อมาจาก Card Verification Value เพื่อยืนยันความปลอดภัยในการจ่ายเงินผ่านเว็บไซต์ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เพราะร้านค้าจะไม่เห็นหน้าค่าตาของตัวผู้ซื้อ และไม่เห็นบัตรจริง โดยบัตร VISA และ MasterCard จะมีรหัส 3 หลัก อยู่ที่ด้านหลังบัตรเครดิต ด้านขวาของแถบเซนต์ชื่อ ส่วนบัตร American Express จะมี 4 หลัก อยู่ที่ด้านหน้าบัตรเครดิตบริเวณด้านขวาเยื้องไปทางด้านบนของรหัสบนบัตร
นอกจากนี้ อาจมีขั้นตอนตรวจสอบอื่นๆ เพื่อยืนยันว่าผู้ถือบัตรเป็นผู้ทำรายการจริง เช่น ธนาคารเจ้าของบัตร ให้ผู้ถือบัตรลงทะเบียนยืนยันตัวตนผ่านเว็บไซต์ของธนาคารผู้ออกบัตร เช่น Verified by VISA, MasterCard SecureCode, J/Secure รวมไปถึงกรณีสถาบันผู้ออกบัตรอาจโทรมาสอบถามเมื่อมีการใช้จ่ายยอดเงินสูง หรือมีพฤติกรรมแปลกๆ
รหัส CVV สำคัญมากขนาดนี้ ควรทำอย่างไร
ควรจดรหัส CVV แยกเอาไว้ในที่ที่ปลอดภัย และทำการปกปิดรหัส CVV บนบัตร อาจใช้ปากกาถาวรสีดำถมทับไปหรือใช้เหรียญขูดให้รหัสหายไป ส่วนการใช้เทปสีขาวหรือลิขวิดปิดทับก็อาจยังพอขูดเห็นเลขได้
ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย