เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ Galaxy S20 Series ที่ทุกคนรอคอย รวมทั้ง Galaxy Z Flip มือถือฝาพับยุคใหม่ ที่ถึงแม้จะมีหลุดออกมาจนแทบจะไม่เหลืออะไรให้ตื่นเต้นแล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าหลายคนก็ยังคงให้ความสนใจการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกันอยู่ดี และแน่นอนว่าตามคาด คือของจริงเปิดตัวมาก็เหมือนกับที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้เลย
Samsung Galaxy S20 Series
Samsung Galaxy S20 Series แต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED ที่รองรับ Refresh Rate 120Hz ซึ่งถือว่ามือถือรุ่นแรกของซัมซุงเลยที่รองรับ 120Hz แถมยังรองรับการตอบสนองต่อการทัช 240Hz touch sensing อีกด้วย สำหรับขนาดของหน้าจอนั้นจะใหญ่ 6.2″, 6.7″ และ 6.9″ ตามลำดับ ความละเอียด 1440p+ เท่ากันทุกรุ่น จอยาวกว่าเดิมด้วยอัตราส่วน 20:9
ด้านสเปกแต่ละรุ่นก็จะใช้ชิป Exynos 990 + Mali-G77 MP11 เหมือนกันหมดทุกรุ่น ส่วนความแตกต่างหลัก ๆ ของทั้ง 3 รุ่นก็คือกล้อง ซึ่ง Galaxy S20 จะมี 3 เลนส์ 12+64+12MP ส่วน Galaxy S20+ จะมี 4 เลนส์ 12+64+12+0.3MP (มี DepthVision Camera เพิ่มเข้ามา) และสุดท้ายพระเอกของซีรีส์นี้อย่าง Galaxy S20 Ultra จะมี 4 กล้อง ซึ่งมีเลนส์หลักถึง 108MP + 48MP + 12MP + 0.3MP และยังรองรับ 10x hybrid optical zoom กับ 100x Super Resolution Zoom เลยทีเดียว (S20/S20+ รองรับ 30x Super Resolution Zoom)
นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดถ่ายภาพอัจฉริยะ Single Take ให้สามารถถ่ายภาพและวิดีโอในรูปแบบที่หลากหลายมากสูงสุด 14 แบบ ผ่านการกดบันทึกในช็อตเดียว ไม่ว่าจะเป็นแบบ Live Focus, Cropped, Ultra Wide กว้างถึง 120 องศา ด้วยการใช้เทคโนโลยีกล้อง AI แถมยังรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดถึง 8K อีกด้วย สำหรับรายละเอียดสเปกของแต่ละรุ่นก็ตามด้านล่างนี้เลย
Samsung Galaxy S20
- หน้าจอ 120Hz Infinity-O Dynamic OLED 6.2″ 3200×1440 20:9
- ชิป Exynos 990 + Mali-G77 MP11
- แรม 8/12GB
- ความจุ 128GB ใส่ microSD ได้สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 3 เลนส์ 12MP Main Wide f/1.8 + 64MP Telephoto f/2.0 + 12MP Ultra-Wide f/2.2
- กล้องหน้า 10MP f/2.2
- ลำโพง AKG ระบบเสียง Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ 4000mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W/wireless charging 15W/Reverse wireless charging 9W
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้จอ Ultrasonic
- พอร์ต USB-C ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
- กันน้ำ IP68
- Android 10 (OneUI 2.0)
- ขนาดตัวเครื่อง 151.7 x 69.1 x 7.9 มม. น้ำหนัก 163 กรัม
- มีสี Cosmic Gray/Cloud Blue/Cloud Pink
Samsung Galaxy S20+
- หน้าจอ 120Hz Infinity-O Dynamic OLED 6.7″ 3200×1440 20:9
- ชิป Exynos 990 + Mali-G77 MP11
- แรม 8/12GB
- ความจุ 128/256/512GB ใส่ microSD ได้สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 4 เลนส์ 12MP Main Wide f/1.8 + 64MP Telephoto f/2.0 + 12MP Ultra-Wide f/2.2 + 0.3MP DepthVision Camera
- กล้องหน้า 10MP f/2.2
- ลำโพง AKG ระบบเสียง Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W/wireless charging 15W/Reverse wireless charging 9W
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้จอ Ultrasonic
- พอร์ต USB-C ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
- กันน้ำ IP68
- Android 10 (OneUI 2.0)
- ขนาดตัวเครื่อง 161.9 x 73.7 x 7.8 มม. น้ำหนัก 186 กรัม
- มีสี Cosmic Black/Cosmic Gray/Cloud Blue
Samsung Galaxy S20 Ultra
- หน้าจอ 120Hz Infinity-O Dynamic OLED 6.9″ 3200×1440 20:9
- ชิป Exynos 990 + Mali-G77 MP11
- แรม 12/16GB
- ความจุ 128/256/512GB ใส่ microSD ได้สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 4 เลนส์ 108MP Main Wide f/1.8 + Periscope 48MP Telephoto f/3.6 + 12MP Ultra-Wide f/2.2 + 0.3MP DepthVision Camera
- กล้องหน้า 40MP f/2.2
- ลำโพง AKG ระบบเสียง Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W/wireless charging 15W/Reverse wireless charging 9W
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้จอ Ultrasonic
- พอร์ต USB-C ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
- กันน้ำ IP68
- Android 10 (OneUI 2.0)
- ขนาดตัวเครื่อง 166.9 x 76 x 8.8 มม. น้ำหนัก 222 กรัม
- มีสี Cosmic Black/Cosmic Gray
Samsung Galaxy S20 และ S20+ จะมีทั้งรุ่น 4G และรุ่น 5G ส่วน Galaxy S20 Ultra จะมีเฉพาะรุ่น 5G เท่านั้น โดย Galaxy S20 มีราคาเริ่มต้น $999 (ประมาณ 30,000 บาท), Galaxy S20+ ราคาเริ่มต้น $1,199 (ประมาณ 36,000 บาท)และ Galaxy S20 Ultra ราคาเริ่มต้น $1,399 (42,000) เริ่มเปิดจองวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ และขายจริง 6 มีนาคมนี้
https://www.youtube.com/watch?v=x0Kv_QRWR-I
Samsung Galaxy Z Flip
ปิดท้ายกันด้วย Galaxy Z Flip อีกรุ่น เป็นมือถือพับจอรุ่นที่ 2 ของซัมซุงที่คราวนี้ดีไซน์ออกมาแบบพับบนลงล่าง สไตล์เดียวกับมือถือฝาพับ ตัวเครื่องสามารถกางออกได้ทุกองศาและตั้งวางได้ จึงสามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้แบบโดยไม่ต้องใช้มือจับเครื่อง เมื่อกางเครื่องออกเต็มที่จะมีหน้าจอหลักใหญ่ 6.7 นิ้ว กล้องหน้าถูกออกแบบให้อยู่บริเวณกึ่งกลางด้านบน จึงไม่มีรอยบากบนหน้าจอมากวนใจ พร้อมสัดส่วนของจอ 21.9:9 ยาวสะใจ เหมาะแก่การดูหนังเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ถึงแม้จะอยู่ในโหมดพับจอก็ยังมี Cover Display เป็นหน้าจอเล็กที่จะแสดงผลแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ สามารถรับสายได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปิดตัวเครื่อง หรือตอบข้อความได้อย่างรวดเร็วเพียงแตะที่แถบ Cover Display แล้วเปิดเครื่อง นอกจากนี้ก็ยังมีลูกเล่นอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่นการตั้งเครื่องเพื่อถ่ายรูปหมู่ที่แสนสะดวก ฯลฯ
Samsung Galaxy Z Flip
- หน้าจอหลัก Foldable Dynamic AMOLED 6.7″ 1080 x 2636 20:9
- หน้าจอเล็ก Cover display 1.1” Super AMOLED Display 300 x 112
- ชิป Snapdragon 855+ + Adreno 640
- แรม 8GB
- ความจุ 256GB ไม่รองรับ microSD
- กล้องหลังคู่ 12 MP, f/1.8, 27mm (Wide), 1/2.55″, 1.4µm, Dual Pixel PDAF, OIS
+ 12 MP, f/2.2, 12mm (Ultrawide) - กล้องหน้า 10MP f/2.4
- ลำโพง AKG ระบบเสียง Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ 3300mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W/wireless charging
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วด้านข้างเครื่อง
- พอร์ต USB-C ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
- Android 10 (OneUI 2.0)
- ขนาดตัวเครื่อง (ตอนกางออก) 167.3 x 73.6 x 7.2 มม.
- ขนาดตัวเครื่อง (ตอนพับ) 87.4 x 73.6 x 17.3 มม.
- น้ำหนัก 183 กรัม
- มีสี Mirror Purple/Mirror Black/Mirror Gold
Samsung Galaxy Z Flip จะเริ่มวางจำหน่ายในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์นี้ ที่ราคา $1,380 (ประมาณ 42,000 บาท)
https://www.youtube.com/watch?v=Sx9ibZLwVNE
ที่มา: Samsung (1), (2)