วันนี้ HTC ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่แล้ว นั่นคือ HTC U 11 หลังจากที่วางตลาด HTC U Play และ HTC U Ultra ไปก่อนหน้าแล้ว ส่วนสเปกและรายละเอียดจะเป็นอย่างไร มาดูกันครับ (ภาพพรีวิวทั้งหมดเครดิตจาก Android Authority)

สเปก

จอ: 5.5 นิ้ว Super LCD 5 (2560 x 1440 พิกเซล) ทำด้วย Gorilla Glass 5

CPU: Qualcomm Snapdragon 835

GPU: Adreno 540

แรม: 4GB (USA) / 6GB (Global)

หน่วยความจำ: 64GB (USA) / 128GB (Global) UFS2.1

microSD: สูงสุด 2TB

กล้องหลัง: 12 ล้านพิกเซล f1.7 (OIS+EIS) ขนาดพิกเซล 1.4µm

กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล f2.0 BIS sensor มีเลนส์กว้างถึง 150 องศา

แบตเตอรี่: 3,000 mAh

การเชื่อมต่อ: ฺBluetooth 4.2, NFC, USB Type-C

Android OS: Android 7.1 พร้อม HTC Sense UI

สีที่จำหน่าย: เงิน ดำ ขาว น้ำเงิน แดง

HTC-U-11-8

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมสเปกได้ที่ HTC Thailand และเรามาดูกันต่อดีกว่าว่า HTC U 11 มีอะไรดีบ้าง

วัสดุและตัวเครื่อง

HTC-U-11-4

HTC-U-11-7

HTC-U-11-6 HTC-U-11-5

วัสดุ Gorilla Glass 5 แบบ 3D ออกแบบให้รองรับจับได้ถนัดมือ รอบตัวเป็นขอบอะลูมิเนียม รุ่นนี้จะมีความโดดเด่นตรงกระจกด้านหลังจะสะท้อนลายน้ำมันวาวสวยงาม ซึ่ง HTC เรียกว่า “liquid surface” นอกเหนือจากนั้นตัวเครื่องยังกันน้ำตามมาตรฐาน IP67 อีกด้วย (เครื่องตระกูล U เก่าไม่เคยรองรับเลยนะ) อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องกลับไม่มีรูหูฟัง 3.5mm แล้วนะครับ

HTC-U-11-3

เสียงและหูฟัง

HTC-U-11-9

เนื่องจากตัวเครื่องขาดรู 3.5mm การฟังเพลงผ่านหูฟังจึงต้องเสียบผ่าน USB Type-C ซึ่งในกล่องได้แถมหูฟัง HTC USonic มาด้วย ซึ่งหูฟังนี้ไม่ธรรมดา เพราะมีไมโครโฟนบนตัวหูฟังสำหรับทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวน (active noise cancellation) อีกด้วย ส่วนใครที่ยังติดหูฟังส่วนตัวแบบ 3.5mm ทาง HTC ก็ยังแถมตัวแปลง DAC มาพร้อมในกล่องด้วย

นอกจากนั้น ตัวเครื่อง HTC U 11 ยังมีไมโครโฟนมากถึง 4 ตัว! สำหรับบันทึกเสียงรอบทิศทาง (3 มิติ) เหมาะถึงระดับการบันทึกคอนเสิร์ตได้เลยทีเดียว สำหรับลำโพงตัวเครื่องมาพร้อม HTC BoomSound Hi-Fi edition ปล่อยเสียงสเตอริโอออกทางลำโพงทั้งข้างบน (ที่ใช้แนบหูสนทนา) และข้างล่าง ซึ่งให้เสียงดังในระดับที่ตัวมือถือเกือบจะเป็นก้อนลำโพงเลยทีเดียว

ฟีเจอร์ Edge Sense

HTC มารอบนี้ เปิดตัวฟีเจอร์ “Edge Sense” สำหรับให้ผู้ใช้ “บีบ” ด้านข้างตัวเครื่องเพื่อรับคำสั่ง ซึ่งสามารถรองรับได้ 2 แบบคือ บีบสั้น กับ บีบยาว โดยเราสามารถปรับแต่งคำสั่งแต่ละบีบให้ทำงานอะไรก็ได้ตั้งแต่ใช้เพื่อเปิดกล้อง กดชัตเตอร์ เปิดกล้องหน้า เปิดแฟรชไฟฉาย และอื่นๆ อีกมากมาย (พูดง่ายๆ มันคือ คำสั่ง shortcut แต่อยู่บน hardware นั่นเอง) ดูแล้วเปิดการปรับแต่งได้มากกว่าปุ่ม Bixby ของ Galaxy S8 นั่นเอง

มาพร้อมผู้ช่วยถึง 4 ตัว

HTC จัดเต็มสำหรับคนที่ใช้ผู้ช่วยบ่อยๆ ซึ่งจัดมาทั้ง HTC Sense Companion (ของ HTC เอง ทำงานแบบออโต้), Google Assistant, Amazon Alexa และ DuerOS (สำหรับประเทศจีน) ก็อยู่ที่ว่าจะเลือกชอบแบบไหนครับ อย่างเช่น HTC Sense Companion จะเหมาะสำหรับการแนะนำการปรับแต่งและการใช้ส่วนบุคคล Google Assistant ก็จะแนวผู้ช่วยถาม-ตอบอะไรก็ได้ ส่วน Amazon Alexa มักจะใช้สำหรับควบคุมบ้านอัจฉริยะ (smart home) 

กล้อง

HTC-U-11-1

กล้องหลังยังคงฟีเจอร์ “UltraPixel” 12 ล้านพิกเซล f1.7 ขนาดพิกเซล 1.4μm ซึ่งรองรับออโต้โฟกัสแบบ “Ultraspeed” มีระบบกันสั่น OIS และแฟรชแบบ LED คู่ โดย HTC เคลมว่าได้คะแนน DxOMark สูงที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนทั้งหมดที่ 90 คะแนน (Google Pixel = 89, Galaxy S8 = 88 และ Huawei P10 = 87 คะแนน) ส่วนกล้องหน้ามีขนาด 16 ล้านพิกเซลและมีฟีเจอร์ Auto HDR Boost ด้วย

การเปรียบเทียบรูปถ่ายโดย DxOMark
ตัวอย่างการเปรียบเทียบรูปถ่ายโดย DxOMark ในสภาวะแสงน้อย

วันจำหน่ายและราคา

HTC-U-11-2

เริ่มจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกา 9 มิถุนายน ติดสัญญา $29/เดือน เป็นเวลา 2 ปี หรือรวมทั้งหมด $696 (ประมาณ 24,360 บาทที่อัตราแลกเปลี่ยน $1 ต่อ 35 บาท)

การเปิดตัวรอบนี้นับว่าค่อนข้างจัดเต็ม หลังจาก HTC U Play และ HTC U Ultra ที่เคยเปิดตัวไปนั้นไม่ค่อยปังมากนัก (คนไปสนใจซัมซุง Huawei และอื่นๆ ซะมากกว่า) และที่สำคัญคือเรื่องราคาด้วย เพราะสถานการณ์ HTC ตอนนี้ใช่ว่าจะดีนัก หากรุ่นนี้ทำให้ปังได้ ชื่อ HTC ก็จะได้กลับมาดีเหมือนเดิม

 

Comments

comments