ช่วงหลังมานี่ … เราจะเห็นหลายแบรนด์แข่งขันกันทำการตลาดมือถือในบ้านเราเพิ่มมากขึ้นนะคะ Huawei เองก็เป็นอีกแบรนด์ ที่ทำการตลาดจนคนไทยเริ่มยอมรับ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในปัจจุบันนี้ ต้องบอกก่อนเลยค่ะ ว่าอุ้มเป็นอีกคน ที่ไม่ค่อยได้จับมือถือจาก Huawei มากนัก แต่เจ้า G7 Plus ตัวนี้ กลับทำให้อุ้มประหลาดในหลายๆอย่าง จะเป็นยังไง ไปติดตามใน รีวิว Huawei G7 Plus หมื่นนิดๆ แต่เด็ดมากๆ กันได้เลยค่า
สวยนะเนี่ย
นี่คือสิ่งแรกที่คิดขึ้นมาตั้งแต่เปิดกล่องเลยค่ะ เอาจริงๆ อุ้มชอบการจัดวางกล่องในแนวเอียงแบบนี้มาก เพราะมันสามารถหยิบทุกอย่างได้ง่ายๆ ภายในก็มีอุปกรณ์พื้นฐานทั่วๆไป ไปดูตัวเครื่องกันเลยดีกว่าค่ะ
Huawei ทำการบ้านกับเจ้า G7 Plus ตัวนี้ได้ดีมาก เพราะการที่ตัวเครื่องเป็นโลหะ ทำให้การสัมผัสรู้สึกหรูหราและพรีเมี่ยมมากขึ้น อุ้มลองให้พี่ที่ทำงานทายราคา ยังทายว่าเกินหมื่นห้าเลยค่ะ ถือว่าใช้ได้ทีเดียว เมื่อเราดูรอบๆตัวเครื่องก็จะเจอสิ่งต่างๆดังนี้
- ด้านซ้าย : ที่เสียบซิม สามารถใช้งานได้ 2 ซิมเลยทีเดียว
- ด้านขวา : ปุ่มเพิ่มลดเสียง และปุ่ม Power
- ด้านล่าง : รูเสียบที่ชาร์จ Micro USB รวมทั้งไมค์และลำโพง
- ด้านหลัง : กล้องหลังความละเอียด 13 MP และ Fingerprint Scan 2.0
- ด้านหน้า : จอขนาด 5 นิ้ว พร้อมขอบโค้ง 2.5D Gorilla Glass Surface และกล้องหน้าความละเอียด 5 MP
นอกจากนี้ น้ำหนักยังทำได้ดี อยู่ที่ 167 กรัม หนาเพียง 7.5 mm ใกล้เคียงกับ iPhone 6s Plus เลยค่ะ
จอแจ่มมาก
จุดนึงที่อุ้มยกให้เป็นข้อได้เปรียมของเจ้า G7 Plus เลยคือเรื่องของจอค่ะ ด้วยขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว แต่มีขอบกว้างเกือบสุดขอบ และยังทำขอบมีความโค้ง 2.5D อีก ทำให้เวลาเราเล่น รู้สึกจับถนัดมือ และสวยงามจริงๆนะคะ เพราะจอภาพมีความละเอียดถึง 401 ppi เรียกได้ว่าสูงมากๆ การใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน Multimedia เล่นเกม หรือเล่นเว็บทั่วไป ก็ทำได้อย่างสบายตา และมีความชัดเจนเต็มจอสุดขอบ นี่ละที่อุ้มอยากให้ iPhone ลดขอบดูบ้างก็ดี 555
กล้องดีกว่าที่คิด ลูกเล่นเพียบ
ปกติแล้ว อุ้มจะไม่ค่อยคาดหวังกับกล้องจากรุ่นกลางๆแบบนี้นะคะ แต่ G7 Plus ทำให้น่าแปลกใจ ว่าความละเอียดที่ให้มาในสเปค ไม่ได้เป็นแค่ตัวเลข เราสามารถใช้กล้องของเจ้านี่ในการถ่ายภาพทั่วๆไปได้จริงๆ และยิ่งคนที่ชอบการตกแต่งภาพ ไม่ว่าจะเป็นโหมดถ่ายภาพอาหาร โหมดถ่ายภาพ Beauty ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี เดี๋ยวอุ้มขอแนะนำการถ่ายภาพสักเล็กน้อยค่ะ
การถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง
กล้องหลังมีความละเอียดอยู่ที่ 13 MP มี f/2.0 และระบบ OIS แต่ที่อุ้มชอบมากกว่าสเปค คงจะเป็นการใช้งานโหมดต่างๆ ทั้ง
- Good food ที่เหมาะกับการถ่ายภาพอาหารที่คนไทยชื่นชอบ เพราะจะเครื่องจะทำการปรับสีของอาหาร ให้ดูหน้าทาน ถ่ายเสร็จไม่ต้องแต่งเพิ่มเลยทีเดียว
- Beauty เราสามารถปรับโหมดความ Beauty ได้ค่ะ ยิ่งเราเลือกเยอะ หน้าเราก็จะดูเนียนขาวใสมากขึ้น
- Watermark สามารถใส่คำลงไปในภาพได้เลย โดยไม่ต้องลงแอพค่ะ สะดวกมาก
และยังสามารถเลือก Filter ต่างๆ ก่อนถ่าย หรือใช้ Fingerprint ด้านหลังแทนชัตเตอร์ได้อีกด้วย ไปดูตัวอย่างภาพเล็กน้อยที่อุ้มถ่ายกันได้เลยค่า
![]](https://www.iaumreview.com/wp-content/uploads/2016/01/IMG_20160113_084620.jpg)
การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า
กล้องหน้าความละเอียด 5 MP ถูกออกแบบมาสำหรับสาวๆหรือหนุ่มๆ ที่ชอบถ่ายโหมด Beauty โดยเฉพาะ เพราะสามารถปรับแต่งได้ทั้ง
- Makeup ใครที่เคยเล่นแอพแต่งหน้ามา เจ้า G7 Plus สามารถทำได้แบบนั้นเลยค่ะ เลือกการแต่งหน้าที่ชอบ และถ่ายภาพได้เลยทันที
- Beauty ปรับแต่งความเนียนได้ตามใจชอบ
- Mirror โหมดที่ทำให้มือถือเราเป็นกระจก แต่จะดีกว่าตรงที่สามารถเพิ่มแสง หรือซูมเข้าออกได้ค่า
อีกอย่างที่อุ้มชอบสำหรับกล้องหน้า คงจะเป็น Selfie Preview ในทุกครั้งที่เรามีการกดถ่าย จะมีเฟรมเล็กๆ ที่ซูมหน้าเราอยู่ตรงมุมซ้ายบน (ด้านล่างกล้องถ่ายรูป) เพราะ Huawei เรียนรู้จากพฤติกรรมการถ่ายรูป ที่คนมักจะมองที่หน้าตัวเอง แทนที่จะมองที่กล้อง แบบนี้ก็ทำให้เรามองกล้องและเห็นตัวเองอีกด้วย
เนียน ลื่น
สำหรับเจ้าตัวนี้ มาพร้อมกับ CPU Qualcomm Snapdragon 616 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.5 GHz +1.2GHz พร้อมแรม 3GB ทำให้ตัวเครื่องมีความลื่นไหลเป็นอย่างดี สามารถเล่นเกมแรงๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา รันด้วย Android 5.1 Lollipop ที่มาพร้อม EMUI 3.1 นะคะ ซึ่งสามารถเปลี่ยนธีมได้ ผ่านแอพที่ชื่อว่า THEME แต่ถ้ายังไม่ถูกใจ ความอิสระของ Android ก็ทำให้เราลง Launcher ที่เราชื่นชอบได้อีกด้วย
เล่นเกมกันเถอะ
อย่างที่บอกไปนะคะ ให้สเปคมาขนาดนี้ สามารถเล่นเกมหนักๆได้อย่างสบาย อุ้มก็ลองเล่นไม่ว่าจะเป็นเกมโปรดนาทีนี้อย่าง Scrubby Dubby หรือ Asphalt 8 ก็สามารถเล่นได้อย่างสบาย เจ้า G7 Plus มากับแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh ก็ถือว่าพอไหวค่ะ แต่ด้วยความที่ตัวเครื่องทำมาจากโลหะ ก็จะพบอาการร้อนบ้างเวลาใช้งาน หรือเล่นเกมนานๆ นะคะ (ที่ร้อนเพราะตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม ทำให้ถ่ายเทความร้อนออกมานอกเครื่องได้มาก เป็นการถนอม CPU และอุปกรณ์อื่นๆในเครื่อง) แต่ที่ชอบจริงๆ คงจะเป็นเรื่องความสวยงามของหน้าจอ รวมทั้งน้ำหนักของตัวเครื่อง ที่ไม่ทำให้เราล้ามือ เหมือนการเล่นบนมือถือจอใหญ่เครื่องอื่นๆ
ดูหนัง ฟังเพลง
นั่งดู Doraemon Stand by Me ผ่านแอพ iFlix บน G7 Plus สบายมากเลยทีเดียวค่ะ ข้อดีของมือถือจอสุดขอบ คือจะดูหนังหรือวิดีโอได้เต็มจอ มีอะไรมารบกวนตาน้อยมากๆ หรือจะไปฟังเพลงผ่านแอพ JOOX Music ก็ทำได้ดีเช่นกันค่ะ
เข้าเว็บ และลงแอพต่างๆ
ส่วนตัวแล้ว การเข้าเว็บผ่าน Browser ที่ให้มากับเครื่อง สำหรับอุ้มไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ค่ะ แต่พอมาลองใช้งานผ่าน Chrome ก็จะรู้สึกคุ้นเคยขึ้น และอ่านเว็บได้ดีทีเดียว เพราะจอใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว โดย Keyboard ที่ติดมากับเครื่อง จะเป็น Google Keyboard นะคะ ถ้าหากไม่ชอบ ก็สามารถลงแอพ Keyboard อื่นๆ เพิ่มเติมได้
การลงแอพของ Android ผ่าน Google Play Store ตอนนี้ก็ไม่แตกต่างกับ iOS แล้วนะคะ ยังดีซะอีก ที่สามารถลงแอพแปลกๆอื่นๆได้ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นหรือเกมต่างๆ ก็มีให้โหลดมากมาย ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะคะ
จุดเด่นอื่นๆ
- Fingerprint อันนี้จะไม่พูดถึง คงจะเป็นการพลาดจุดเด่นสุดๆอีกอย่างนึงของ G7 Plus ไปเลยนะคะ เพราะเราสามารถปลดล็อกตัวเครื่องโดยใช้ลายนิ้วมือ ทาบที่ด้านหลังของตัวเครื่องได้อย่างง่ายๆ ข้อดีคือ ไม่จำเป็นต้องกดให้หน้าจอเปิดก่อน แปลว่าเราสามารถเข้าสู่หน้าโฮมได้อย่างรวดเร็วมากๆ แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่คุ้น อาจจะงงๆเล็กน้อยนะคะ
- One-hand layout ช่วยให้เราใช้งานจอใหญ่ๆ แบบนี้ด้วยมือเดียวง่ายขึ้น โดยสามารถเข้าไปเปิดได้ในโหมด Settings เลยนะคะ พอเปิดแล้ว เพียงเรารูดนิ้วจากซ้ายไปขวา ที่แถบเมนูด้านล่าง หน้าจอก็จะย่อลงมาให้เรากดได้สะดวกยิ่งขึ้น
- Gloves Mode สำหรับโหมดนี้ อาจจะไม่สำคัญเท่าไหร่นักถ้าอยู่ในประเทศไทย แต่เมื่อไปเที่ยว ตปท. แล้วต้องใส่ถุงมือถ่ายรูป ความเศร้าที่กดไม่ได้จะมาเยือนค่ะ เมื่อเราเปิดโหมดนี้ เราก็จะสามารถกดหน้าจอได้ แม้กระทั่งใส่ถุงมือก็ตาม
ความประทับใจ
จากตอนแรกที่ค่อนข้างรู้สึกเฉยๆ พอมาได้คลุกคลีกับเจ้า G7 Plus และใช้งานจริงๆ ก็พบว่ามีความน่าประทับใจในหลายๆอย่าง เช่น หน้าจอชัดแจ๋วขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งถ้าเทียบกับการถือ iPhone 6s Plus ที่มีขนาดจอเท่ากันแล้ว จะรู้สึกเลยว่า G7 Plus ถือสะดวกกว่าเยอะมาก และถ้าเทียบกับราคาเพียงแค่ 12,990 บาท ใช้งานได้ 2 ซิม เจ้า Huawei G7 Plus ตัวนี้ ถือว่าเป็นตัวเลือกนึง ที่น่าสนใจมากๆ ในนาทีนี้ อุ้มเชื่อว่า ถ้า Huawei ทำราคาไว้ได้ประมาณนี้ และมีสเปคที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จะถือว่าเป็นอีกคู่แข่งที่น่ากลัวในตลาดทีเดียวนะคะ วันนี้ อุ้มก็ขอฝาก รีวิว Huawei G7 Plus ไว้เท่านี้นะคะ สำหรับใครที่สนใจสามารถตามไปดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/1PcW05t ขอบคุณมากค่า
