มาแล้วสำหรับ Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ที่หลายคนรอคอย โดยจุดเด่นของทั้ง 2 รุ่นนี้ก็คือกล้อง 3 เลนส์ เป็นหน้าจอแบบไร้ขอบ โดยรุ่น Mate 20 จะเป็นรอยบากแบบหยดน้ำ ส่วน Mate 20 Pro จะเป็นรุ่นสเปคสูงกว่า แต่หน้าจอเล็กกว่า รอยบากใหญ่กว่า และยังมี Mate 20 X มือถือเกมมิ่งจอยักษ์แถมมาอีกรุ่นนึงด้วย รายละเอียดแต่ละรุ่นเป็นยังไง มีอะไรน่าสนใจบ้าง เลื่อนลงไปอ่านกันเลยยย
Huawei Mate 20
หน้าจอ LCD 6.53″ FHD+ (2244×1080) RGBW อัตราส่วน 18.7:9 รองรับ HDR ความสว่าง 820 nits ใช้พลังงานน้อย ไม่เปลืองแบต มีรอยบากแบบหยดน้ำเล็ก ๆ โดยในรอยบากนั้นจะมีเพียงเลนส์กล้องหน้าเท่านั้น ส่วนลำโพงสำหรับคุยโทรศัพท์จะอยู่ที่ขอบเครื่อง ดีไซน์ตัวเครื่องเป็นแบบหน้าจอไร้ขอบ มีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้มากถึง 88.08% มาก เพราะขอบเล็กแค่ 2.6 มม. เท่านั้น ไม่มีลำโพง แต่เสียงจะออกจากช่อง USC-C แทน ใช้ชิป Kirin 980 RAM 4GB/6GB ใช้ Android 9 (EMUI) รองรับ SD card แบบใหม่ของ Huawei โดยเฉพาะ ชื่อว่า nanoSD card ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 4000mAh ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วอยู่หลังเครื่อง มีช่องหูฟัง แต่ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ
กล้องของ Mate 20 จะมีทั้งหมด 3 เลนส์ ได้แก่ Ultra Wide Angle 16MP (17mm) f/2.2 + Wide 12MP (27mm) f/1.8 + 2X Telephoto 8MP (52mm) f/2.4 ส่วนกล้องหน้า 24MP พร้อมทั้ง AI สำหรับช่วยในการถ่ายภาพ เช่น ช่วยปรับภาพ ปรับแสงสี ให้เหมาะกับสิ่งที่กำลังถ่าย ด้วยการตรวจจับวัตถุและพื้นหลัง, ทำให้ถ่ายในแสงน้อยได้ดี อีกทั้งยังช่วยในการถ่ายวิดีโอได้ด้วย เพราะมันสามารถแยกแยะวัตถุและบุคคลที่กำลังเคลื่อนไหวออกจากพื้นหลังเพื่อปรับภาพได้นั่นเอง มีราคาอยู่ที่ ราคา €799 (ประมาณ 30,000 บาท) สำหรับรุ่น 4GB/128GB และ €849 (ประมาณ 32,0000 บาท) สำหรับรุ่น 6GB/128GB เริ่มขายวันนี้เลยในบางประเทศ
Huawei Mate 20 Pro
หน้าจอ 6.39″ OLED (3120×1440) เป็นจอโค้ง อัตราส่วน 19.5:9 มีรอยบากกว้างกว่า Mate 20 เพราะต้องใส่เซ็นเซอร์สแกนใบหน้า 3D ลงไปด้วย ทำให้อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 86.90% ซึ่งน้อยกว่า Mate 20 ใช้ชิป Kirin 980 RAM 6GB ความจุ 128GB และแบตเตอรี่ขนาด 4200mAh ซึ่งถือว่าค่อนข้างอึดเมื่อเทียบกับมือถือส่วนใหญ่ในตลาดขณะนี้ และรุ่นนี้ยังรองรับชาร์จไร้สายอีกด้วย ส่วนเซ็นเซอร์สแกนนิ้วของ Mate 20 Pro จะฝังในหน้าจอ ไม่ได้อยู่หลังเครื่องเหมือน Mate 20 และมีคุณสมบัติกันน้ำ IP68 แต่ไม่ช่องหูฟัง (ซะงั้น)
สำหรับกล้องของ Mate 20 Pro ก็มีทั้งหมด 3 เลนส์เช่นกัน ได้แก่ Wide Angle 40MP (27mm) f/1.8 + Ultra Wide 20MP (16mm) f/2.2 + 3X Telephoto 8MP (80mm) f/2.4 และมี AI เช่นเดียวกับ Mate 20 ส่วนกล้องหน้า 24MP เท่ากัน แต่จะมีเซ็นเซอร์ 3D ติดมาด้วย (ตัวการที่ทำให้รอยบากใหญ่ขึ้น) โดยจะเอาไว้สแกนใบหน้า สแกนวัตถุ 3D ได้ และใช้ทำ Live Emoji ได้ มีราคาอยู่ที่ €1,049 (ประมาณ 40,000 บาท) เริ่มขายวันนี้เลยในบางประเทศ
ทั้ง Mate 20 และ Mate 20 Pro จะมีสีตัวเครื่องให้เลือกเหมือนกันคือ Pink Gold, Midnight Blue, Emerald Green, Twilight, Black
Huawei Mate 20 X
เป็นรุ่นพี่ยักษ์ หน้าใหญ่ OLED สะใจ 7.2 นิ้ว เน้นเจาะกลุ่มเกมเมอร์ ใช้กับปากกาสไตลัสได้ รอยบากเล็กแบบหยดน้ำเหมือน Mate 20 (เพราะไม่มีเซ็นเซอร์สแกน 3D) ใช้ชิป Kirin 980 เหมือนกัน แต่มีเทคโนโลยีระบายความร้อน Supercool แม้จะเล่นเกมหนัก ๆ ก็ไม่ร้อน และเทคโนโลยี GPU Turbo 2.0 ช่วยเร่งความแรงจีพียูให้เล่นเกมได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด ส่วน RAM 6GB ความจุ 128GB มีลำโพงสเตอริโอทั้งสองข้าง เสียงดังกระหึ่ม ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมและดูหนัง ส่วนแบตเตอรี่ก็จัดเต็มมาให้ถึง 5000mAh เลยทีเดียว เรียกได้ว่าเอาใจคอเกมกันสุด ๆ ส่วนสเปคกล้องนั้นจะมี 3 เลนส์และความละเอียดเท่ากับ Mate 20 Pro และมีฟีเจอร์ AI เช่นเดียวกัน มีราคาอยู่ที่ €899 (ประมาณ 34,000 บาท) เริ่มขาย 26 ตุลาคมนี้ในบางประเทศ
ปล. ราคายูโรเมื่อแปลงเป็นราคาบาทแล้วมันก็จะค่อนข้างแพงหน่อย ๆ แต่ถ้าเข้าไทยแล้วน่าจะถูกกว่านี้จ้ะ
ที่มา: The Verge (1), (2), (3)