สมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Huawei P10/P10 Plus เพิ่งเปิดตัวและวางขายไปได้ไม่นาน ผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอพ benchmark ต่างๆ แล้วหลายคนค้นพบว่ามีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน

เรื่องนี้ถึงหู Huawei และทาง Huawei ออกมายอมรับแล้วว่า แต่ละเครื่องที่ลูกค้าซื้อมีสเปกแรมและหน่วยความจำไม่เท่ากัน ทำให้การวัดประสิทธิภาพแต่ละเครื่องออกมา แตกต่างกัน!

แต่ทาง Huawei ไม่ได้ระบุจำเพาะเจาะจงว่าสเปกที่นำมาผลิตนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งจากการตรวจสอบของผู้ใช้นั้นสามารถระบุได้ว่า แรมบางเครื่องใช้แรม LPDDR4 และบางเครื่องใช้ LPDDR3 (ซึ่งช้ากว่าและกินไฟกว่า) ส่วนหน่วยความจำ 32GB/64GB นั้นก็มีทั้งสเปกความเร็วแบบ  UFS 2.0, UFS 2.1, และ eMMC 5.1 ซึ่งหากลำดับความเร็วแต่ละแบบแล้ว ได้ดังนี้

eMMC 5.1 มีความเร็วในการอ่าน ~300 MB/s
UFS 2.0 มีความเร็วในการอ่าน ~500 MB/s
UFS 2.1 มีความเร็วในการอ่าน ~700 MB/s

(ใครได้ LPDDR3 + eMMC 5.1 คือโคตรซวยไป)

โดย Huawei ระบุว่า ตนไม่เคยระบุสเปกแรมและหน่วยความจำว่ามีสเปกเท่าไหร่ (บอกแค่ว่าแรม 4GB ความจุ 32GB จบ) เนื่องจากมีนโยบายเลือกผู้ผลิตสินค้าและวัตถุดิบที่น่าเชื่อถือหลายแหล่งเพื่อปรับสมดุลประสบการณ์ผู้ใช้ คุณภาพ และแหล่งป้อนการผลิต (พูดง่ายๆ กลัวอะไหล่ขาด ก็เลยเอามาจากหลายแหล่ง) และการประกอบผลิตก็ประกอบแบบสุ่ม ไม่มีขั้นตอนชัดเจนว่าอะไรประกอบกับอะไร (ปะปนกันหมด)

ไม่เหมือนกับเครื่อง Huawei Mate 9 ที่ก่อนหน้านี้ระบุสเปกชัดเจนว่าใช้ LPDDR4 และ UFS 2.1 บนหน้าเว็บสเปก

ตัวอย่างสเปก Huawei Mate 9 ที่ระบุบนเว็บชัดเจนว่าใช้ LPDDR4 และ UFS 2.1
ตัวอย่างสเปก Huawei Mate 9 ที่ระบุบนเว็บชัดเจนว่าใช้ LPDDR4 และ UFS 2.1

ทาง Huawei ปฏิเสธว่านี่เป็นการหลอกลวงลูกค้า (ก็ไม่ได้บอกนี่ว่าใช้อะไร) และระบุอีกว่า การปะปนกันไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่อง โดยเฉพาะการใช้งานจริง

สรุปแล้วใครที่ซื้อ Huawei P10/P10 Plus นี่เหมือนซื้อหวยเลยครับว่าตัวเองจะได้สเปกอะไรออกมา

Comments

comments