นอกเหนือจากความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถสตรีมเกมแบบออนไลน์ หรือใช้บริการคลาวด์ได้แบบไม่มีสะดุด รวมถึงเปิดประตูสู่นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ อย่าง AR, VR หรือ Internet of Things ให้เกิดเป็นรูปธรรมแล้ว สิ่งที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟน 5G คาดหวัง คืออุปกรณ์ที่สามารถตอบรับความเป็นไปได้เหล่านี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในราคาที่สมเหตุสมผล

ประสิทธิภาพล้ำกว่าด้วยสัญญาณ 5G ในราคาสมาร์ทโฟน 4G

ย้อนกลับไปตอนที่เราเริ่มเปิดใช้สัญญาณ 4G สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ รวมถึงสมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับ 4G ได้ก็ยังมีไม่มาก และที่มีอยู่ในตลาดก็ราคาสูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ ก่อนจะค่อยๆ ปรับลดราคาเมื่อเวลาผ่านไป เช่นเดียวกับ 5G ในเวลานี้ที่เพิ่งเริ่มเปิดทดลองใช้ เนื่องจากไทยถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ได้นำร่องทดลองใช้ระบบ 5G ก่อนใคร เทคโนโลยีนี้จึงถือว่าใหม่มากและไม่ใช่แค่สำหรับประเทศไทยเท่านั้น แต่ใหม่กับเกือบทุกภูมิภาคทั่วโลก ดังนั้นอุปกรณ์ที่จะรองรับสัญญาณ 5G จึงยังมีไม่มาก หรือที่มีก็อาจจะยังไม่พร้อมรองรับอย่างเต็มรูปแบบ รุ่นที่จะมีส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงรุ่นท็อปซึ่งราคาสูงลิบเท่านั้น แต่เมื่อหัวเว่ยเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Huawei P40 Series ก็สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนทั่วโลกด้วยซีรีส์สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมความสามารถในการรองรับ 5G ได้อย่างแท้จริง เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน โดยคำนึงถึงการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในทุกโมเดลของผลิตภัณฑ์เรือธง สานฝันให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ได้อย่างเต็มที่ ในราคาเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟน 4G เท่านั้น

Kirin 990 5G

สมาร์ทโฟน Huawei P40 Series ทุกโมเดล ตั้งแต่ Huawei P40, Huawei P40 Pro ไปจนถึง Huawei P40 Pro Plus ประมวลผลและทำงานได้อย่างฉับไว สอดรับกับความเร็วระดับ 5G ด้วยชิปเซ็ตเรือธง Kirin 990 5G ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพของการประมวลผลข้อมูลและกราฟฟิคขึ้นหลายเท่า พร้อมรวมเอาโมเด็ม 5G ไว้ภายในชิปเซ็ต แตกต่างจากสมาร์ทโฟนอื่นที่มีโมเด็ม 5G และชิปเซ็ตแยกกัน การรวมโมเด็มเข้าไว้ในชิปเซ็ต ทำให้การประมวลผลรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ลดการใช้พลังงาน เพราะข้อมูลไม่ต้องเดินทางจากโมเด็มไปที่ชิปเซ็ต จึงทำให้เครื่องร้อนช้า ปกติเมื่อเราใช้สมาร์ทโฟนในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เล่นเกมแบบออนไลน์ หรือดาว์นโหลดไฟล์ข้อมูลใหญ่ๆ จากคลาวด์ เครื่องจะร้อนเร็วและแบตเตอรี่จะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องหยุดใช้หรือพักเครื่องบ่อย การรวมโมเด็มเข้าไว้ในชิปเซ็ตของสมาร์ทโฟน Huawei P40 Series ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดข้างต้น ทั้งยังทำให้สามารถใช้งาน 5G ได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยชิปเซ็ตที่ทรงพลัง รวมกับหน่วยความจำและความจุของเครื่องที่ใส่มาอย่างเหมาะสม โดย Huawei P40 Pro มาพร้อม RAM 8 GB และ ROM 256 GB ขณะที่ Huawei P40 มาพร้อม RAM 8 GB และ ROM 128 GB นอกจากนี้สมาร์ทโฟน Huawei P40 Series ยังรองรับ Wi-Fi 6 Plus

สมาร์ทโฟน Huawei P40 Series เป็นระบบสองซิมการ์ดที่รองรับความเร็วระดับ 5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด และเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งานที่ความเร็วระดับ 5G ผ่านนวัตกรรมซิมดิจิทัล (eSim) นอกเหนือจากความสมรรถภาพของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้มองหา เพื่อการใช้งาน 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญประกอบการพิจารณาสำหรับผู้บริโภคชาวไทยคือสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 5G ทุกย่านความถี่ เนื่องจากแต่ละผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ต่างก็เลือกใช้ย่านความถี่ที่ต่างกันตามผลการประมูล สมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบถ้วนทุกอย่างความถี่ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่า เมื่อเปิดใช้บริการ 5G ผ่านเครื่องแล้วจะสามารถใช้งานได้ด้วยความเร็วระดับ 5G จริงๆ ด้วยความสามารถการประมวลผลถึง 20 Gbps และการตอบสนองที่เร็วขนาด 1 Ms ความเร็วที่ทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดหนังความละเอียด 4K ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที และเล่นเกมออนไลน์ได้แบบภาพไม่กระตุก

HUAWEI P40 Series วางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

HUAWEI P40 Series วางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยกัน 2 รุ่นคือ HUAWEI P40 5G ราคา 22,990บาท และ Huawei P40 Pro เปิดราคา 31,990 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ Silver Frost, Blush Gold และ Deep Sea Blue โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 นี้ บนช่องทางออนไลน์ของร้านค้าที่ร่วมรายการ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/campaign/p40/

พร้อมโปรโมชันพิเศษเฉพาะสำหรับผู้ซื้อ early bird ระหว่างวันที่ 1-10 พ.ค. รับของแถมจัดเต็มไม่แพ้ช่วงพรีออเดอร์

 

Comments

comments