หลังจากที่กลายเป็นประเด็นดราม่าจนถึงขั้นมีการฟ้องร้องกันไปแล้วสำหรับกรณีที่แอปเปิลแอบปรับความเร็ว CPU และ GPU ของ iPhone ที่ใช้แบตเตอรี่เก่าให้ทำงานช้าลง เพื่อป้องกันเครื่องดับเนื่องจากกำลังไฟไม่พอ โดยไม่ถามความสมัครใจของผู้ใช้เสียก่อน ซึ่งหลังจากนั้นแอปเปิลก็เริ่มออกมาชี้แจงและแก้ปัญหาด้วยการลดค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ถูกลง และล่าสุดก็ออกอัพเดท iOS 11.3 ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาให้ผู้ใช้สามารถเช็กประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งสามารถเลือกเองได้ว่าจะปรับลดความเร็วเครื่องเพื่อป้องกันเครื่องดับหรือไม่

iPhone 6 หรือรุ่นใหมกว่าที่อัพเดท iOS 11.3 แล้วจะสามารถเข้าไปดูประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้โดยให้เข้าไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ (เบต้า) ซึ่งนอกจากจะสามารถดูประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้แล้ว ผู้ใช้ก็ยังสามารถเลือกเปิดหรือปิดการปรับลดความเร็วเครื่องในหน้านี้ได้อีกด้วย โดยในเมนูแอปเปิลจะเรียกการปรับลดความเร็วว่า “การจัดการประสิทธิภาพการทำงาน” ซึ่งค่าเริ่มต้นหลังจากอัพเดท iOS 11.3 จะตั้งเป็นปิดเอาไว้ และจะเปิดเองอัตโนมัติเมื่อมีปัญหาเครื่องดับ

สำหรับรายละเอียดในหน้าประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ (เบต้า) จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ความจุสูงสุด และ ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด

ในส่วนของความจุสูงสุดนั้น ถ้าเป็นแบตเตอรี่ใหม่เอี่ยมจะเริ่มต้นที่ 100% ซึ่งเมื่อผ่านการใช้งานไปเรื่อยๆ ความจุก็จะลดลงไปตามอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น โดยความจุสูงสุดที่ 100% นี้ จะทำให้ส่วนของประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดแจ้งว่า “แบตเตอรี่ของคุณรองรับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดตามปกติอยู่ในตอนนี้” แปลว่าแบตเตอรี่ยังดีอยู่ ไม่มีปัญหาเครื่องดับ ยังไม่ต้องปรับลดความเร็วนะจ๊ะ

แต่ถ้าหากความจุสูงสุดเริ่มลดลง เช่น เหลือ 95% และเริ่มมีปัญหาเครื่องดับ ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดจะแจ้งว่า “iPhone เครื่องนี้มีปัญหาในการปิดเครื่องโดยไม่คาดคิดเนื่องจากแบตเตอรี่ไม่สามารถส่งมอบพลังงานสูงสุดที่จำเป็นได้ จึงมีการปรับใช้การจัดการประสิทธิภาพเพื่อช่วยปกป้องไม่ให้เกิดปัญหานี้อีกครั้ง ปิดใช้งาน…” ถ้าแบบนี้แปลว่าโดนเครื่องปรับลดความเร็วแล้ว แต่ถ้าหากเราไม่แคร์ จะปรับให้เร็วเท่าเดิม แม้เครื่องดับก็ไม่หวั่น ก็ให้กดตรงคำว่า “ปิดใช้งาน…”

หลังจากที่เรากดปิดแล้วข้อความก็แจ้งว่า “iPhone เครื่องนี้มีปัญหาในการปิดเครื่องโดยไม่คาดคิดเนื่องจากแบตเตอรี่ไม่สามารถส่งมอบพลังงานสูงสุดที่จำเป็นได้ คุณได้ปิดใช้งานการปกป้องการจัดการประสิทธิภาพด้วยตัวเองแล้ว” ซึ่งหลังจากกดแล้วเครื่องก็จะกลับมาเร็วเหมือนเดิม แต่เราจะกลับไปกดเปิดไม่ได้อีก นอกจากใช้ไปจนเครื่องดับมันถึงจะเปิดให้เองอัตโนมัติอีกครั้ง

ถ้าหากเป็นแบตเตอรี่ที่เก่ามากๆ หน่อย จนความจุสูงสุดเหลือต่ำกว่า 80% มันก็จะแจ้งว่า “ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ของคุณลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อให้มีประสิทธิภาพและความจุเต็มรูปแบบดังเดิมได้ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกด้านการบริการ…” เพื่อแนะนำว่าแบตเตอรี่เราเก่ามากแล้วนะ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แล้ว

แต่ถ้าหากเจอข้อความแจ้งว่า “iPhone เครื่องนี้ไม่สามารถประเมินประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้ ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple สามารถให้บริการเกี่ยวกับแบตเตอรี่ได้ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกด้านการบริการ…” ซึ่งไม่สามารถระบุความจุสูงสุดเป็น % ได้ ก็อาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่ได้รับการติดตั้งไม่ถูกต้องหรือมีส่วนประกอบของแบตเตอรี่ที่ไม่รู้จัก เช่น ใช้แบตเตอรี่ปลอมหรือแบตเตอรี่ที่ไม่ใช่ของแอปเปิลแท้นั่นเอง

ที่มา: Apple

Comments

comments