สวัสดีค่า เข้าช่วงฤดูกาลปลายปี ที่แต่ละแบรนด์ขนเรือธงมาทั้งอ่าว วันนี้อุ้มมาพร้อมกับ รีวิว iPhone 8 Plus ที่ขอจับมาเทียบกับ Note 8 นิดๆหน่อยๆ [คิดว่า Note 8 ไว้ไปเทียบ iPhone X เต็มๆ น่าจะสนุกกว่า] พร้อมทั้งขอมาเล่าความรู้สึกของอุ้ม ที่มีกับ iPhone 8 Plus ขอย้ำตรงนี้เลยนะคะ ว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว อาจจะมีไม่ตรงใจใครบ้าง ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ ก่อนจะไปเริ่มกัน ไปชม Unboxing แบบนอยหน่อยๆกันก่อนค่า

DESIGN

iPhone 8 Plus หน้าตาเหมือน iPhone 7 Plus จบค่ะ ! 555 โดยรวมๆแล้ว อุ้มสามารถพูดแบบนี้ได้เลย แต่มาดูรอบตัวกันนิดนึงดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

– ด้านหลังตัวเครื่อง จากเดิมที่ใช้โลหะ เปลี่ยนมาเป็นกระจกแทน ฝาหลังสี Gold หรือทองอมชมพู ให้ความรู้สึกของสีไข่มุก หรือหินอ่อน อะไรประมาณนั้น จับๆแล้วก็จะเย็นดีค่ะ

– เมื่อก่อนด้านหลังกับข้างๆตัวเครื่อง จะเป็นชิ้นเดียวกัน แต่ใน iPhone 8 Plus จะแยกกันอย่างสิ้นเชิงนะคะ มีรอยต่อหน่อยๆ ระหว่างกระจกฝาหลัง กับของข้างอลู

– หน้าจอ 5.5 นิ้ว แบบ Retina HD Display ความละเอียดประมาณ 401 ppi เพิ่มการแสดงผลแบบ True Tone เข้ามาและขยายขอบเขตสีกว้าง ของจริงดูไม่ค่อยออกเท่าไหร่ แต่ก็ดีค่ะ

– กันน้ำกันฝุ่น ในระดับ IP67 แต่ Note 8 จะเป็น IP68

ถ้าเทียบกับ Note 8 แล้ว เรื่องความสวยงามเป็นเรื่องที่แล้วแต่คนชอบนะคะ บางคนก็ชอบความเรียบง่ายของ iPhone บางคนก็บอกว่าจอ Note 8 ยาวไป แต่ตัวอุ้มเอง ปีนี้ต้องมาแบบไร้กรอบ ไร้ปุ่มโฮมแล้วละ ตัว Apple เอง ก็น่าจะคิดแบบนั้น ไม่งั้นจะออก iPhone X มาทำไม 555

ความชัดเจนของหน้าจอ แตกต่างกันนิดหน่อยนะคะ โดย Note 8 จะมีความละเอียดที่ 521 ppi บนหน้าจอ 6.3 นิ้ว แต่พอดูด้วยตาตัวเอง ก็ไม่ได้ต่างอะไรนัก ส่วนน้ำหนัก iPhone 8 Plus หนักกว่าทั้ง iPhone 7 Plus และ Note 8 ประมาณ 20 กรัม หนักพอตัวทีเดียว

iOS 11

ก่อนที่ iPhone รุ่นต่อไปจะเปิดตัว มักจะมีงานเปิดตัว iOS ก่อน ซึ่งในปีนี้ iOS11 ก็สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย ถึงสาวก Android จะบอกว่ามีมาก่อนนานแล้วก็เหอะ 555 เอาเป็นว่า iOS11 ถูกสร้างขึ้นมา ให้มาอยู่บน iPhone 8 / 8 Plus และ iPhone X ซึ่งมันจะทำงานได้ดีที่สุด โดยมีส่วนที่อุ้มค่อนข้างชอบดังนี้

– Control Center บางคนก็ชอบมาก บางคนก็ไม่ชอบมันซะเลย แต่การที่ทุกอย่างมารวมอยู่ที่นี่ โดยเราสามารถกด 3D Touch เข้าไปเพื่อปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้จากที่นี่เลย ก็เป็นเรื่องดีทีเดียว

– โหมดพิมพ์ด้วยมือเดียวบน Keyboard อันนี้ Apple ทำมาแบบเขินๆ เพราะอีกฝ่ายมีตั้งนานแล้ว แต่ก็ดีแล้วค่ะ เพราะช่วยอำนวยความสะดวกเราได้เยอะ

– Files แอพใหม่ ไฉไลที่สุด โดยเฉพาะคนที่ชอบ Sync กับ iCloud Drive แต่อันนี้บน iPad Pro  เทพกว่า สามารถลากไฟล์ไปมาได้อิสระเลย

นอกจากนี้ ก็ยังปรับเปลี่ยนหน้าตาไอคอน รวมทั้งภายในแอพต่างๆ เช่น App Store / Calculator เพื่อรองรับการใช้งานที่ง่ายมากยิ่งขึ้น

Portrait Mode

กล้อง เป็นอีกหนึ่งอย่าง ที่อุ้มรอจะทดสอบค่ะ เพราะ DxOMark เพิ่งจะให้คะแนนกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เป็นอันดับ 1 ไปเมื่อวานนี้ และแน่นอนค่ะ ดูด้วยตาเปล่า เมื่อเทียบกับ iPhone 7 Plus ก็ไม่ต่างอะไรมาก แต่เมื่อดูผ่านคอม ภาพที่ดึงออกมาจาก iPhone 8 Plus จะให้สีสันที่สวยงาม เป็นธรรมชาติมากกว่า

จริงๆ จุดเด่นของ iPhone 8 Plus น่าจะเป็น โหมดใหม่อย่าง Portrait Mode ที่มี Potrait Lighting ช่วยให้เราจัดแสงการถ่ายภาพบุคคลได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับ iPhone 7 Plus การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ สามารถถ่ายได้ในระยะใกล้ขึ้น โฟกัสดีขึ้น อันนี้คงต้องยอมให้ ไปลองชมภาพตัวอย่างกันเลยค่ะ

แสงธรรมชาติ

แสงไฟสตูดิโอ

แสงไฟคอนทัวร์

แสงไฟเวที

แสงไฟเวทีขาวดำ

แต่ว่าแสงไฟสองอันหลัง นี่เป็นเวอร์ชั่นเบต้า ภาพออกมาก็จะแบบ … นิดนึงค่ะ ตัดงงงวยไปหมด 555 ขอแถมรูปแมวน้อยอีกสักหน่อยนะคะ

ขอย้อนกลับมาเรื่องหน้าชัดเบลอนิดนึงค่ะ กล้องของ iPhone 8 Plus และ Note 8 มีความละเอียดเท่ากันทั้ง 4 ตัว คือ 12 MP แต่จะต่างที่ค่า f โดยของ i8 Plus จะเป็น 1.8 กับ 2.8 แต่ของ Note 8 จะเป็น 1.7 กับ 2.4 ทำให้ภาพในที่แสงน้อยในโหมด Portrait ของ iPhone 8 Plus ยังตัดขอบภาพหน้าชัดหลังเบลอได้แบบงงๆ คือถ่ายคนอาจจะดี แต่ถ่ายอย่างอื่นนี่ TT

ในส่วนของกล้อง อุ้มขอมาจัดเต็มอีกทีตอน iPhone X นะคะ ตัวนี้ไม่มีเวลาออกไปเดินถ่ายเลย ขอโต๊ดน้าาา

Performance & AR

สำหรับเรื่อง Performance สำหรับทั้ง 2 ตัว ก็ทำได้ดีขึ้นทั้งคู่นะคะ โดย iPhone  8 Plus จะมากับชิพ A11 Bionic เร็วเว่อร์ พอทำงานร่วมกับ iOS11 ก็เลยเล่นได้แบบเร็วสุดๆ แต่ต้องบอกว่า iPhone 7 Plus จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่ช้านะคะ เลยไม่ค่อยเห็นข้อแตกต่างในการใช้งานจริงสักเท่าไหร่

แต่จุดที่ชอบสุดๆๆๆๆ จริงๆบน iPhone 8 Plus จนอยากได้เลยคือ การเล่นเกมที่เป็น AR ค่ะ อุ้มลองโหลดมาเล่น 2 เกม เกมแรกเป็นเกมฟรี เราจะสามารถเลี้ยงไดโนเสาร์ของตัวเองได้

การเล่นเกมแบบ AR คือจะใช้พื้นที่ที่เรามี เช่นโต๊ะทำงาน โต๊ะกินข้าว หรือพื้นห้อง มาเป็นพื้นที่ในการเล่น โดยเฉพาะเกม The Machines ที่เปลี่ยนโต๊ะเราเป็นสนามรบ ให้เราเดินไปเดินมา เดินเข้าเดินออก เพื่อยิงคู่ต่อสู้ หรือวางป้อม มันส์มากกก เหมือน ROV แบบ 3 มิติ หวังว่า Apple จะพัฒนาตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆนะคะ

ส่วนฝั่ง Note 8 ก็มากับชิพ Exynos 8895 การทำงานก็ยังลื่นไหลดีนะคะ ชูจุดเด่นมาด้วย S Pen ถ้าสายปากกา ยังไงก็ต้องเลือกตัวนี้ เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบจริงๆค่ะ บางคนชอบปากกามาก แต่ใช้ Android ไม่เป็น ก็มีเหมือนกันนะคะ

Summary

ถ้าใช้ iPhone 7 Plus อยู่ อุ้มไม่มีทางเปลี่ยนมาเป็น iPhone  8 Plus แน่นอนค่ะ เพราะทุกอย่างใกล้เคียงเดิมแบบสุดๆ จนคิดว่ามันควรจะชื่อ iPhone 7s Plus มากกว่าด้วยซ้ำ 555 แต่ก็มีสิ่งที่ดีขึ้นมาหลายอย่างเหมือนกัน รวมทั้งลำโพง ที่ดังกว่า iPhone 7 Plus ด้วยนะคะ

สำหรับแบตเตอรี่ iPhone 8 Plus ใส่มาก้อนเล็กลง ที่ 2675 mAh แต่ Note 8 จะเป็น 3300 mAh โดยมีระบบ Fast Charge ทั้งคู่ แต่บน iPhone 8 Plus จะต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเอานะคะ และทั้งคู่สามารถชาร์จแบบไร้สายได้แล้วเช่นกัน

มีหลายคนมาลองเล่น Note 8 แล้วก็ชอบในความสามารถที่ใช้ได้จริง บางคนมาจับ iPhone 8 Plus แล้วก็ไม่เห็นความแตกต่างจากเดิม แต่อุ้มทำเทียบมาหลายปี ก็ยังย้ำคำเดิมว่า ชอบอันไหน ก็ซื้ออันนั้น ไม่จำเป็นจะต้องมาว่าคนที่ไม่ใช้เหมือนตัวเราเลย มันไม่เท่หรอกค่ะ XD

วันนี้อุ้มขอฝากไว้เท่านี้นะคะ ยังไงฝากติดตามกันไว้นิดนึงที่ http://fb.com/iaumreview เผื่อจะได้ iPhone X มาก่อนใครเหมือนเดิม แล้วเจอกันใหม่นะคะ ขอบคุณมากค่า

Comments

comments