ปีนี้เป็นอีกปี ที่อุ้มลุ้นการเปิดตัว The Next iPhone มากๆ เพราะใครๆ ก็ข้ามไปที่มือถือไร้ขอบกันหมดแล้ว ในปีนี้ Apple ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง กับ iPhone X (iPhone 10) ฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone ทำให้เราคิดถึง Steve Jobs ผู้เริ่มต้นปุ่มโฮม และจบลงที่ การไร้ปุ่มโฮม
iPhone 8 & iPhone 8 Plus
วันนี้มีการเปิดตัว iPhone ทั้งหมด 3 รุ่นนะคะ อุ้มขอมาสรุปที่ตัวเปิดทั้งคู่ก่อน บอกตรงนี้เลยว่า อย่าไปคาดหวังมากค่ะ 555
1.หน้าตาเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนวัสดุด้านหลัง เป็นกระจก
2.มี 3 สี คือ Silver / Space Gray และสีใหม่ Gold ออกอมชมพูหน่อยๆ
3.หน้าจอยังเป็น 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว กันน้ำ กันฝุ่นเหมือนเดิม
4.จอใหม่ เพิ่มเรื่อง True Tone Display เหมือนบน iPad เข้ามา
5.มี Stereo Speakers ดังกว่าใน iPhone 7 25%
6.มากับ A11 Bionic Chip แรงสุดในตอนนี้
7.กล้องหลัง 12 MP เหมือนเดิม แต่ใช้ Sensor ตัวใหม่ สว่างขึ้น 83%
8.มีโหมดใหม่ใน iPhone 8 Plus ชื่อว่า Portrait Lighting ปรับแสงได้ความต้องการ คล้ายๆกับ Filters นั่นเอง แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่อง โบเก้ หรือหน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งคาดว่าจะไม่ต่างจากเดิม
9.ถ่ายวิดีโอได้ระดับ 4K 60 fps และถ่าย Slow-mo ได้ที่ 1080p 240 fps
10.เพิ่มเติมเรื่อง AR เข้ามา ซึ่งจะได้ใช้ไปกับความสามารถของเกมใหม่ๆ
11.สามารถชาร์จแบบ Wireless (ได้สักที) และรองรับการชาร์จด่วน เย้ๆๆ
12.iPhone 8 เริ่มต้นที่ราคา $699 ในรุ่น 64GB และมีรุ่น 256 GB ด้วย
13.iPhone 8 Plus เริ่มต้นที่ราคา $799 ในรุ่น 64GB และมีรุ่น 256 GB ด้วยเช่นกัน
14.เปิด Pre order 15 ก.ย. และวางขาย 22 ก.ย. นี้
15.iOS11 เปิดให้อัพเดท วันที่ 19 ก.ย.
คล้ายเดิมมากๆ สำหรับทั้ง 2 รุ่นนะคะ แค่มีการอัพเกรดและเปลี่ยนด้านหลังเป็นกระจก แอบผิดหวังนิดนึง อย่างกล้องคู่ใน iPhone 8 Plus ยังคงเป็น 12 MP ที่เลนส์ตัวนึง f/1.8 อีกตัว f/2.8 ซึ่งไม่น่าจะสู้ค่ายอื่นได้ในนาทีนี้ค่ะ
ปุ่มโฮมอยู่ไม่ว่า แต่น่าจะจัดการส่วนเกินจากหน้าจอ พวกขอบข้างออกไปสักหน่อย นี่พี่เล่นเอาโครงเดิมมาเป๊ะๆเลย แอบเศร้านิดนึงค่า
iPhone X
ความหวังระดับโลก เลยตกไปอยู่ที่อีกตัวนึง ซึ่งก็ไม่ต่างกับที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้มากนักค่ะ ส่วนตัวอุ้มเอง คงจะรอเจ้าตัวนี้แน่นอนค่า
1.ดีไซน์แบบใหม่ ต่างจากเดิมไปเลย โดยด้านหน้าจะเหลือขอบแต่ละด้าน น้อยมากๆ เป็นจอไปเกือบทั้งหมด
2.กันน้ำ กันฝุ่น มากับ 2 สี คือ Space Gray & Silver
3.ใช้จอ Super Retina Display ตัวใหม่ ขนาด 5.8 นิ้ว (2436 x 1125 ความละเอียด 458 ppi) อยู่บนตัวเครื่องที่ขนาดใกล้เคียงกับ iPhone 7 และ iPhone 8
4.ไม่มีปุ่มโฮมอีกต่อไป
5.หน้าจอยังมี 3D Touch เหมือนเดิม และมี True Tone Display เพิ่มเข้ามา
6.ทำให้หน้าจอติดได้ โดยการแตะที่หน้าจอ และเข้าหน้า Home Screen โดยเลื่อนนิ้วจากด้านล่างขึ้นด้านบน การควบคุมทั้งหมด จะใช้การ Swipe เป็นหลักในทุกๆคำสั่งค่ะ
7.ปุ่มด้านขวา สามารถกดค้างเพื่อเรียก Siri
8.ปลดล็อคเครื่อง ได้โดยใช้ Face ID แสกนหน้าของเรานั่นเอง ซึ่ง Apple เคลมว่า มันจะรวดเร็ว แม่นยำ ไม่สามารถให้ใครปลอมแปลงได้ และสามารถแสกนได้ในที่แสงน้อยได้ด้วย
9.Face ID จะมาแทน Touch ID และใน iPhone X ไม่มีการพูดถึงการแสกนด้วยลายนิ้วมืออีกต่อไป
10.เปิดตัว Animoji เป็น Emoji ที่สามารถขยับได้ตามใบหน้าของเรา โดยจะสามารถส่งให้เพื่อนได้ใน iMessages อันนี้ส่วนตัวชอบมากๆค่ะ ใช้ความสามารถของ Sensor ด้านหน้าเยอะแยะมากมายได้ดี
11.มากับกล้องคู่ (f/1.8 และ f/2.4) ความละเอียด 12MP ดีใจมากที่กล้องเทเล f เป็น 2.4 สักที โดยใส่ OIS มาทั้งสองตัวเลยนะคะ
12.มี Quad-LED True Tone Flash ซึ่งหน้าจะจัดการเรื่องแสงได้ดีขึ้น
13.กล้องหน้าอัพเกรดกับโหมดใหม่ Portrait Mode Selfies เย้ๆๆ อันนี้ต้องลองค่ะ ว่าหน้าจะงามขึ้นมั้ย แต่ใส่ Portriait Lighting ในกล้องหน้ามาให้ด้วย
14.ใช้ชิป A11 Bionic เหมือน iPhone 8
15.เคลมว่าแบตอยู่ได้นานกว่า iPhone 7 สองชม.
17.ราคา $999 ตามคาด
18.เปิดจอง 27 ตุลาคม วางขาย 3 พ.ย. นี้
สำหรับอุ้มแล้ว นวัตกรรม ไปอยู่ที่ iPhone X ซะหมดค่ะ เจ้า iPhone 8 & iPhone 8 Plus เลยเหงาๆ นิดนึง แต่ก็อย่างว่า ช่วงหลังๆมานี่ รีวิว iPhone ตัวใหม่ได้ง่ายมาก หน้าตาเหมือนเดิม เปลี่ยนข้างหลังนิดหน่อย เร็วแรงขึ้น ขอบข้างหนา กล้องหลังเหมือนเดิม กล้องหน้าเหมือนเดิม เป็นอันจบ 555
วันนี้ดึกมากแล้ว ยังไงอุ้มขอสรุปไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่ตอนรีวิวทีเดียว แล้วพบกันเร็วๆนี้ ราตรีสวัสดิ์ค่า
ขอบคุณภาพประกอบจาก The Verge