ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว LG G6 ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ ให้กับวงการสมาร์ทโฟน ด้วยการตัดกรอบ ตัดปุ่มโฮมทิ้ง เหลือเพียงแค่หน้าจอกว้างๆ และวันนี้ LG G6 วางขายในประเทศไทยเรียบร้อย จะยังน่าสนใจหรือไม่ ไปติดตาม รีวิว LG G6 กับอุ้มกันเลยดีกว่าค่ะ
FIRST IMPRESSION
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ LG G6 คงไม่พ้นเรื่องของหน้าจอ Full Vision ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD+ 564 ppi ถ้าเทียบ screen to body ratio แล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 78.6% พิมพ์นิยมมือถือในปัจจุบัน
ขนาดตัวเครื่อง ต้องบอกว่าไม่ใหญ่เท่าที่คิดค่ะ สามารถจับได้ถนัดมือ หนัก 163 กรัม หนา 7.9 mm ใช้วัสดุด้านหลังเป็นกระจก ขอบข้างอลูมิเนียมอย่างดี โดยมาพร้อมกล้องคู่ที่ไม่นูนออกมา 555 และมีที่แสกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลัง
โดย LG G6 จะสามารถใส่นาโนซิมได้ 2 ซิม หรือจะเลือกใส่ Micro SD Card ก็ได้ และยังกันน้ำระดับ IP68 เรียกได้ว่าครบครันทุกอย่าง ที่มือถือในยุคนี้ควรจะมี
ถ้าถามเรื่องความสวยงาม ก็แล้วแต่คนชอบนะคะ สำหรับอุ้ม ชอบหน้าจอ Full Vision 18:9 มากกว่าตัวเครื่องนิดนึง ยังแอบรู้สึกว่าเครื่องหนาไปหน่อย ถ้าบางกว่านี้คงจะสวยงามค่ะ
WIDE DUAL CAMERA
เทรนด์กล้องคู่ตอนนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ เลนส์ wide 1 ตัว และเลนส์ tele เพื่อทำการซูมแบบ optical zoom อีก 1 ตัวใช่มั้ยคะ แต่สำหรับ LG G6 จะคิดในมุมกลับกัน คือตัวนึงเป็นเลนส์ปกติ แต่อีกตัวเป็นเลนส์ Wide ซึ่งทำได้ดีมาก ในมุมมองของการเก็บรายละเอียดของภาพในมุมที่กว้างขึ้น
- กล้องตัวแรกที่เป็นเลนส์ปกติ จะให้มุมกว้างของภาพ 71 องศา ที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- กล้องตัวที่สองเป็นเลนส์ wide ให้มุมกว้างของภาพถึง 125 องศา ที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งโดยปกติแล้ว กล้องมุมกว้างของรุ่นอื่นๆ จะให้ภาพกว้างที่ 75 องศาเท่านั้น
พอถ่ายภาพมุมกว้างจาก LG G6 แล้วไปถ่ายด้วยเครื่องอื่น จะรู้สึกว่า ขอกว้างเหมือน G6 ได้มั้ย เช่นตอนนั้นอุ้มใช้ LG G6 ถ่ายภาพสตูดิโอใหม่ของอุ้ม กล้องเดียวเก็บได้เกือบทั้งครึ่งห้อง โดยที่เราไม่ต้องถอยหลังไปชนกำแพง พอมาใช้กล้องอื่นถ่าย ถอยไปสุด ยังเก็บไม่หมดเลยค่ะ
ส่วนกล้องหน้าเอง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มากับโหมด Wide Angle เช่นเดียวกัน หากถ่ายภาพในมุมปกติ จะได้ความกว้าง 87 องศา แต่พอถ่ายแบบโหมด wide ปุ๊ป ภาพจะกว้างถึง 100 องศาเลย และยังมี Beauty Mode ปรับ Skin Tone แสง และ Filter ได้เช่นเดียวกันค่ะ
SQUARE CAMERA MODE
โหมดนี้อยากให้มีในทุกเครื่องเลย เพราะนอกจากจะถ่ายรูปได้สนุกมายิ่งขึ้นแล้ว ยังทำให้เกิดมุมมองใหม่ๆให้กับภาพ และวิดีโอของเราอีกด้วย
Snap shot : ถ่ายเสร็จ ก็แสดงให้ดูในหน้าเดียวกันเลย ไม่ต้องเลื่อนไปดูภาพให้เสียเวลา
Match shot: ถ่ายภาพสองภาพ รวมกันทันที ไม่ต้องตัดต่อทีหลัง
Grid Shot : ถ่ายภาพ 4 ภาพ เรียงกันในเฟรมเดียว
Guide Shot: ถ่ายตามภาพที่ไกด์เอาไว้ สมมติเซฟท่าทางของเพื่อนมาจากในอินเทอร์เน็ต ก็มาเปิดเพื่อทำตามได้เลยทันที
โดยในโหมด match shot และ grid shot จะสามารถรวมภาพและวิดีโอไว้ในรูปเดียวกันได้ และทั้งหมดจะเลือกได้ว่า เราอยากจะถ่ายที่กล้องหน้า หรือกล้องหลัง มุมกล้องปกติ หรือมุมกล้องแบบ Wide Angle
REAL EXPERIENCE
สำหรับ LG G6 จะมาพร้อมกับ Android 7.0 ใช้ Chipset Snapdragon 821 ให้แรมมา 4GB และมีความจุภายในตัวเครื่อง 64GB และใช้ LG UX 6.0 UI ซึ่งอุ้มชอบ UI ของ LG เป็นการส่วนตัว มันรู้สึกมุ้งมิ้ง เกาหลี แต่ดูดีมีสไตล์มากๆ มีธีมให้เลือกใช้เยอะแยะ มี font ติดเครื่องเก๋ๆ มาให้เลือกด้วยนะคะ เผื่ออยากเปลี่ยนตาม Font ที่อุ้มใช้อยู่ขื่อ Travel ค่ะ
โดยส่วนของ Home touch buttons ก็จะเปลี่ยนและเรียงได้สูงสุดถึง 4 ปุ่ม สลับไปสลับมาด้วยตัวเอง มี Always on display มาให้ด้วยค่ะ เมนูถูกจัดวางให้ใช้งานได้ง่าย สะอาดสบายตา
สำหรับประสบการณ์การเล่นเกม เราสามารถปรับ App Scaling ให้เป็นอัตราส่วนแบบเต็มจอ 18:9 ได้ แต่บางส่วนอาจจะถูกตัดไปเหมือนกันค่ะ เรื่องของจอไม่ต้องห่วง อย่างที่บอกไปแต่แรก และความเต็มอิ่มของเสียงเพลง LG G6 ยังมากับระบบเสียง Dolby Vision ดังฟังชัด
สามารถเล่น ROV ได้สบายๆ ลื่นๆ ค่ะ แต่ที่ชอบจริงๆคือ Game Battery Saver สามารถปรับแต่ง Resulotion หรือ Frame rate เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้เราต้องการ หรือจะลดความสว่างของภาพ เมื่อเราอยู่ในเกม แต่ไม่ได้เล่นก็ได้ด้วยนะคะ โดยใส่แบตมา 3,300 mAh เยอะทีเดียว
SUMMARY
ถ้าคุณกำลังมองหามือถือ ที่ใส่มาให้ครบทุกอย่างที่ควรจะมี ทั้งหน้าจอสวยงามแบบเต็มตา ไร้กรอบอย่าง Full Vision อยากได้กล้องคู่ แบบมุมกว้าง มีตัวเครื่องที่แข็งแรงระดับ Military Standard สเปคจัดเต็ม ทั้ง chipset &cpu&ram กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สามารถลงธีมได้ มี UX ที่ใช้งานง่ายและสวยงาม LG G6 จัดมาให้แบบครบครันทีเดียวค่ะ
ถามว่ามีข้อเสียอะไร บอกตามตรงว่า มาช้าไปหน่อยค่ะ ถ้าเปิดตัวแล้วเข้าไทยเลย เจ้าตัวนี้จะได้รับความนิยมมากกว่านี้ และเมื่อใช้งานต่อเนื่องนานๆ มีความร้อนให้รู้สึกอยู่พอควร ที่ตัวเครื่องด้านหลัง แต่สำหรับราคา 24,990 บาท ก็เป็นมือถือระดับเรือธงอีก 1 รุ่น ที่อุ้มสนใจ ส่วนใครที่อยากได้ ตอนนี้มีโปรลด 4,000 บาท กับ AIS เหลือเพียง 20,990 บาท แถมยังได้รับทีวี LED TV 43″ รุ่น 43LJ500T มูลค่า 13,900 บาท ไปนอนดูเล่นให้เต็มตาอีกด้วยนะคะ
วันนี้อุ้มขอฝากไว้เท่านี้ ช่วงนี้อาจจะลดการรีวิวลงจนถึงหยุดเลยในช่วงกลางเดือนเป็นต้นไปนะคะ แล้วเจอกันใหม่แบบจัดเต็มช่วงสิ้นเดือน แต่ถ้าใครไม่เต็มอิ่ม เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว อุ้มทำคลิป unboxing & review ไว้ สามารถดูได้เพิ่มเติมด้านล่างเลยนะคะ ขอบคุณมากค่า
