หลังจากที่มีการเปิดตัว iOS 14 ไปเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ในงาน WWDC20 ซึ่งเมื่อคืนนี้ ทาง Apple ได้เปิดตัว New iPad Air 5 สี และ iPad Gen 8 ซึ่งสามารถใช้ iOS 14 ได้แล้ว ส่วน iPhone รุ่นใหม่ ยังไม่มีการเปิดตัว ดังนั้น ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่รองรับ สามารถใช้ iOS 14 ได้แล้ว โดยพร้อมให้ดาวน์โหลด 16 กันยายนนี้
iOS 14 สามารถใช้ได้กับ iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max, iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR, iPhone X, iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone 7, iPhone 7 Plus, iPhone 6s,
iPhone 6s Plus, iPhone SE (รุ่นที่ 1), iPhone SE (รุ่นที่ 2), iPod touch (รุ่นที่ 7) โดยรุ่นต่ำสุดคือ iPhone 6s แต่หลายคนก็บอกว่า ช้า อืดแล้ว
แนะนำให้เข้าไปที่ ตั้งค่า > General > Software Update โดยต่อผ่าน Wi-Fi เพราะมีขนาดไฟล์ติดตั้งใหญ่ 3.6GB และพยายามหา Wi-Fi แรงๆ ซึ่งจะใช้เวลาดาวน์โหลดน้อยลง
คำแนะนำเพิ่มเติม ตรวจสอบว่ามีพื้นที่ตัวเครื่องเหลือมากกว่า 4.5GB เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้ง iOS 14
สิ่งแรกที่เราเห็นคือ หน้าตาการออกแบบ ดีไซน์ลุคใหม่ โฉมใหม่
สิ่งที่ชอบคือ คลังแอป หรือ App Library วิธีเรียกคือ เลื่อนหน้าแอปจากหน้า Home ไปทางขวาสุด ทำให้เรียกใช้แอปได้สะดวกขึ้น จัดหมวดหมู่แอปได้เป็นระเบียบมากขึ้น โดยเป็นการจัดหมวดหมู่อัตโนมัติ สำหรับแอป โดยได้รับการจัดกลุ่มแยกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ อย่าง แอปที่ใช้บ่อย, แอปที่เพิ่งติดตั้ง, Utilities, Social, Creativity, Productivity, Entertainment, Health & Fitness, Lifestyle, Reference & Reading และ Others โดยจัดลำดับตามพฤติกรรมการใช้งานของเรา
Widget บนหน้าจอ Home
ถ้าปัดจากหน้า Home ไปทางซ้าย จะเป็นคำสั่งลัด เช่น เข้าชมภาพถ่าย ปฏิทิน นัดหมาย สภาพอากาศ ปั๊มน้ำมัน ปริมาณแบตเตอรี่ หุ้น Screen Time ซึ่งสามารถเพิ่มลดได้เองตามต้องการ
อีกจุดเด่นที่ปรับโฉมก็คือ พอมีคนโทรเข้า แทนที่จะตัดเข้าหน้ารับสาย ก็เป็นแถบด้านบน ไม่รบกวนสายตาเราบนแอปที่กำลังใช้งานอยู่
ดูวีดีโอในหน้าต่างย่อย เป็นจอเล็กได้ด้วย
จากที่ทดสอบบน iPhone SE Gen 1 พบว่าแอป YouTube ยังไม่รองรับการดูวีดีโอแบบ PiP แต่ใช้แอป Apple TV ทำได้ จากการหาข้อมูล ก็ต้องรอ YouTube อัปเดตแอปเวอร์ชั่นใหม่ หรือไม่ก็ดู YouTube ผ่าน Safari ไปก่อน โดยในภาพเป็นการดูผ่าน Safari เปิดแสดงผลเต็มจอ แล้วกดปุ่ม Home กลับเข้าหน้าหลัก
Safari
จากที่ลองเข้าเว็บ รู้สึกเลยว่าเข้าเว็บได้เร็วขึ้น การตอบสนองเร็วขึ้น กด Enter แล้วโหลดเร็วมาก
แปลภาษา
ใช้ iPhone แปลภาษาได้โดยไม่ต้องเปิด Google แต่ยังไม่พบการรองรับการแปลภาษาไทย
ฟีเจอร์ที่ว้าว ไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตาโฉมใหม่ แต่เป็นความสดใหม่ของการออกแบบที่ทำให้เรามีความรู้สึกเพลิดเพลินไปกับ iOS 14 ได้มากขึ้น รวมไปถึงการดูวีดีโอแบบ PiP ที่ทำได้แล้วบน iPhone
