วันก่อนมีโอกาสได้ไปเที่ยวเล่นแถวๆเสาชิงช้ามาค่ะ เลยได้รู้ว่า ทางเท้าบ้านเรา นี่วิบากพอตัว ถ้าไม่เจอหลุมบ่อเล็กๆ ก็จะมีฝาท่อระบายน้ำที่ไม่เรียบ ที่สำคัญคือ ไม่ค่อยมีที่จอดรถ จะเดินแต่ละจุดก็ไกลพอสมควร งานนี้อุ้มแอบสบายกว่าใคร ด้วย Ninebot KickScooter ES2 ใช้เป็นพาหนะคู่กาย ที่ทำให้ลืมภาพ Scooter หลายๆตัว ที่เคยเล่นมาไปเลย
ของดี ต้องมีโช้ค
จากปัญหาเรื่องถนนขรุขระ บางที่การขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอาจจะไม่สะดวกนักในประเทศไทย แต่เจ้า KickScooter ตัวนี้ มากับล้อขนาดใหญ่ถึง 8 นิ้ว รวมถึงการใส่โช้คมาให้ ทั้งล้อหน้าและหลัง เมื่อเราใช้งานจริง จะรู้สึกได้เลยว่า มีความนุ่มนวลเวลาเจอหลุมเล็กๆ และทำให้เราวิ่งได้สมูธขึ้น เมื่อเจอทางที่ขรุขระ ดีขึ้นมากๆจริงๆ
แข็งแรง สมบุกสมบัน
สิ่งแรกที่รู้สึกเลยหลังจากแกะกล่อง คือเจ้า KickScooter มีความพรีเมี่ยมดูดี โดยวัสดุจะทำจาก Aluminum Alloy สีเงิน ที่มีความแข็งแรง มีน้ำหนักตัวเครื่องประมาณ 12.5 กิโลกรัม มีฐานวางเท้าขนาดใหญ่ ทำให้ขี่ได้อย่างสบายๆ รองรับน้ำหนักผู้เล่น ได้ถึง 100 กก.+- และซ้อน 2 ได้นะคะ
การชาร์จครั้งนึงใช้เวลาประมาณ 3 ชม.ครึ่ง สามารถวิ่งได้ไกล 25 กม. หรือชั่วโมงละ 3 บาทต่อการชาร์จเท่านั้น แต่ถ้าหากยังไม่พอ สามารถซื้ออุปกรณ์เสริมเป็นแบตสำรอง สำหรับใช้งานเพิ่มเติมได้ โดยให้เราติดสำรอง เข้ากับก้านด้านหน้า ติดตั้งได้ง่าย ไม่ต้องถอดเข้าถอดออกบ่อยๆ และจะวิ่งไปได้ไกลถึง 45 กม. เลยทีเดียว
ไฟกลางคืน เฟี้ยวมาก
ความปลอดภัย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าค่ะ ซึ่งแน่นอนว่า ตอนกลางคืนก็เป็นช่วงเวลา ที่เราต้องระวังมากที่สุดเช่นกัน
เจ้า KickScooter มีไฟรอบคันจริงๆ เริ่มตั้งแต่ไฟ LED ด้านหน้า ส่องสว่างสีขาว ทำให้สังเกตุเห็นได้ง่ายๆ ไฟ LED สีแดงด้านหลัง ที่ติดตลอดเวลา และจะกระพริบถ้าเราเบรก และเจ๋งที่สุดคือ ไฟใต้ท้องเครื่อง ที่สามารถปรับแต่งสีได้ในแอพ มีรูปแบบของไฟที่หลากหลายมากๆ เท่สุดๆ
มีแอพพลิเคชั่น ปรับแต่งง่าย
สิ่งที่จะทำให้การขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ปลอดภัยและสนุกสนานได้มากขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Segway Ninebot ในมือถือค่ะ เพียงเราต่อ Bluetooth ระหว่างตัวสกู๊ตเตอร์และในครั้งแรกเรียบร้อย จะมีการแนะนำการใช้งานเบื้องต้น รวมไปถึงการปรับแต่งสีสันของไฟต่างๆ
อยากแนะนำให้ลองเปิดโหมด Cruise Control ในแอพดูนะคะ เพราะเมื่อเปิดแล้ว เพียงเรากดคันเร่งค้างไว้แปปนึง หลังจากนั้นก็ปล่อยมือได้เลย สกู๊ตเตอร์จะวิ่งที่ความเร็วนั้นๆค้างไว้โดยไม่ต้องเมื่อยมือเลยค่ะ
ควบคุมง่าย และมีขาตั้ง
ในมุมมองของอุ้ม KickScooter ถูกดีไซน์วิธีการใช้งาน โดยเรียนรู้จากพฤติกรรมของลูกค้ามาอย่างดี เราสามารถใช้งานได้ง่าย โดยแทบไม่ต้องเรียนรู้มาก่อน เพียงแค่กดที่ปุ่มเปิดเครื่อง 1 ครั้ง และใช้ขาข้างที่เราถนัดวางไว้บนแท่นวางเท้า สไลด์ขาอีกข้างไปข้างหน้า แล้วกดคันเร่งค้างไว้ เท่านี้ก็เรียบร้อย
เจ้าตัวนี้ จะวิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุด 25 กม.ต่อชั่วโมง หากเราต้องการปรับความเร็ว ให้กดเบิ้ลที่ปุ่ม Power จนถึง Max ก็จะวิ่งได้เร็วฉิว ง่ายและสะดวกกว่าการขี่มอเตอไซต์อีกนะคะ และถ้าเรากดที่ปุ่ม Power 1 ทีจะเป็นเปิดไฟหน้าไปในตัว
แต่สิ่งที่อุ้มรู้สึก ถูกใจใช่เลยคือ “มีขาตั้ง” ซะทีค่ะ เพราะเวลาเราขี่ไปไหนมาไหน จุดเด่นของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า คือการจอดได้ตลอดเวลา โดยไม่รบกวนใคร การมีขาตั้งเข้ามา เราจอดได้ง่าย และเดินไปถ่ายรูปได้สบายๆ ดีจริงๆ
มีศูนย์ซ่อมอย่างเป็นทางการ โดย Monowheel
ขอเล่าความช้ำใจนิดนึงค่ะ เคยซื้อวีลตัวนึงมา วางทิ้งไว้หลายเดือนไปหน่อย พังจ้าาา ไม่มีที่ซ่อมด้วย ตั้งแต่นั้นมาเข็ดมากเลยค่ะ เพราะฉะนั้นแนะนำจริงๆ อะไรที่มันดูจะพังได้ ขอให้ซื้อที่มีการรับประกัน หรือมีศูนย์ซ่อมในไทยจะดีที่สุด
โดย Ninebot Kickscooter ตัวนี้ จะได้รับการรับประกันจาก Monowheel 1 ปีเต็ม (แบตเตอรี่ 6 เดือน) มีศูนย์ซ่อมในไทย โดยมีบริการตรวจเช็ค ที่สะดวกและรวดเร็วภายใน 1-3 วัน โดยหากสินค้ามีปัญหา หรือถึงเวลาต้องเช็คสภาพ ก็สามารถติดต่อทาง Monowheel ได้เลยค่ะ
ใครสนใจ ก็สามารถสั่งซื้อได้ที่ https://www.monowheel.bike/สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า-ninebot-kickscooter-es2/ ในราคา 27,900 บาท อยากให้ไปลองเล่นดูก่อน แล้วจะติดใจ และไม่เหมือนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหลายๆตัวที่ผ่านมาแน่นอน อุ้มคอนเฟิร์มค่า
ข้อมูลสินค้า
– ความเร็วสูงสุด 25 กม./ชม.
– วิ่งไกล 25 กม. ชาร์จเต็ม 3 ชม.ครึ่ง
– ขึ้นเนิน 10 องศา
– รับน้ำหนักผู้เล่นได้ 100 กก.
– น้ำหนักเครื่อง 12.5 กก.
– ต่อ Application ได้
– ล้อยางตัน 8 นิ้ว
– โช้คหน้า-หลัง
– แบตเตอรี่ LG 5.2 Ah
– มอเตอร์ 300 watt
– ขนาดเครื่อง ตอนกาง: 102 × 43 × 113 ซม.
ตอนพับ: 113 × 43 × 40 ซม.
– รับประกัน 1 ปี แบตเตอรี่ 6 เดือน
นำเข้า และจัดจำหน่ายโดยบริษัท เมคไอโอ จำกัด