SONY DSC

SONY DSC

เรียกได้ว่า เป็นอีกรุ่นนึง ที่คนถามถึงมากที่สุดในตอนนี้ (และมีคนมาตามว่าเมื่อไหร่จะลงรีวิวมากที่สุดเลยทีเดียวค่า) วันนี้ อุ้มจะเอา Flagship รุ่นที่ 4 ของตระกูล Galaxy Note จาก Samsung มาเล่าให้ฟังกันค่ะ และแถมเอามาวางเทียบกับ iPhone 6 Plus ให้ชมกันสักหน่อย ไปชมกันเลยค่ะ

: สัมผัสแรก :

ถ้าจะพูดถึงสัมผัสแรกจริงๆ อุ้มมีโอกาสได้จับสั้นๆ ในวันเปิดตัวในประเทศไทย แต่ตอนนั้นรู้สึกอย่างเดียวว่า “ไม่เห็นต่างอะไรกับ Note3 เลย ข้ามไปเหอะ” นาทีนั้นไม่ค่อยรู้สึกประทับใจสักเท่าไหร่ค่ะ จนกระทั่ง แม่อุ้มไปถอยมา เมื่อได้เล่นจริงๆแล้ว จะรู้สึกได้ถึงความพรีเมี่ยมกว่า Note3 หน้าตาอาจจะไม่ต่างกันนัก แต่สัมผัสที่ได้ รู้สึกดีขึ้นมากเลยทีเดียว

กับตัวเครื่องน้ำหนักประมาณ 176 กรัม หนาประมาณ 8.5 มม. ก็เรียกได้ว่าเป็นน้ำหนักและความหนาที่ไม่แตกต่างกับรุ่นจอใหญ่อื่นๆในนาทีนี้นักนะคะ ขอบที่เปลี่ยนมาใช้โลหะ เป็นอีกจุดนึงที่ทำให้ตัวเครื่องดูดี น่าจับขึ้นมาเลยทีเดียว

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

: จอแจ่ม :

อุ้มมักจะมีปัญหากับจอของ Samsung ค่ะ ด้วยความสดจนเกินไปของจอ Super AMOLED พอใช้นานๆ แล้วอุ้มชอบปวดตาค่ะ กับ Note4 เอง ถึงจะเป็นจอแบบเดียวกันแต่ก็รู้สึกว่าสบายตาขึ้น กับจอ 5.7 นิ้ว ที่มีความละเอียดถึง 515 ppi เยอะสุดๆ ไปเลยค่ะ

SONY DSC

: การจดบันทึก ปากกา S Pen / S Note:

ที่ผ่านมาฟังก์ชั่นนี้ เป็นส่วนที่ดีที่สุดของสาย Note มาโดยตลอดค่ะ ทำงานได้ดีมาตั้งแต่ Note3 แล้ว ตอนนี้ก็ทำงานได้ดีขึ้นกับ S Pen ของ Note4 และ S Note ที่มาพร้อมกับลูกเล่นใหม่ๆเช่น Photo Note ไปลองดูการทำบันทึกแบบง่ายๆ ผ่าน Samsung Galaxy Note4 กันได้เลยค่ะ

: กล้อง :

เป็นอีกส่วนที่พัฒนาขึ้นมาจาก Note3 อย่างเห็นได้ชัดค่ะ ตอนทีอุ้มเปลี่ยนจาก Note3 มาใช้ M8 ก็เป็นเพราะว่า ชอบทุกอย่างเลยยกเว้นกล้อง กล้องหน้าที่เปิดขึ้นมาแล้วซูมสุดๆเมื่อเทียบกับเครื่องอื่นในระยะเดียวกัน หรือกล้องหลังที่ชัดแค่จำนวน Pixel แต่กับ Note4 ต้องกลับมามองมันใหม่ค่ะ กล้องหลัง 16MP คุณภาพถือว่าดีขึ้นมาก คือชัดจริงๆ และกล้องหน้า 3.7 MP ที่เพิ่มความฟรุ้งฟริ้งของ Beauty Mode เข้ามา รวมทั้งโหมดต่างๆเช่น ใช้กล้องหลังถ่าย Selfies หรือว่าใช้กล้องหน้าถ่าย Wide Selfies เก็บคนได้หมดเลย (ส่วนตัวอุ้มว่า Beauty Mode สีมันยังไม่ค่อยสวยค่ะ แต่หน้าเนียนจริง)

SONY DSC

: Multimedia :

ในส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ Note ทำได้ดีมาตลอด ด้วยหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดชัดแจ๋ว และขุมพลังที่จัดเต็มมาให้สุดๆ ใครที่คิดว่า Android ไม่ลื่น ต้องมาดู Note4 ค่ะ ลื่นจริงๆ พอเอามาเล่นเกม หรือว่าดูคลิป เลยได้ภาพที่มีสีสันสมจริงมากๆค่า

SONY DSC

Galaxy Note 4 VS iPhone 6 Plus

ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่ค่ะ ว่าจะเขียนหัวข้อนี้ดีมั้ย เพราะว่ามีความเสี่ยงให้แฟนของทั้งสองค่ายมาตีกันมาก แต่ก็เชื่อว่า นาทีนี้ มีคนอยากดูเจ้าสองคนนี้ เพื่อที่จะดูความเหมาะสมของตัวเอง ก่อนจะซื้อสักเครื่องมาใช้งานจริง เพราะฉะนั้น

>>> ทั้งหมดต่อจากนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอุ้ม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและรับชม กรุณาอย่าตีกันนะคะ ขอบคุณมากค่า <<<

จะว่าไปแล้ว มือถือในตระกูล Note จาก Samsung และสาย iPhone จาก Apple ก็เป็นคู่ฟัดกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ต่างฝ่ายก็มีไม้เด็ดของตัวเอง ที่มัดใจแฟนๆ ซึ่งไม่แปลกเลยนะคะ ที่เราจะลังเล ว่าจะซื้อ Note 4 หรือ iPhone 6 Plus ดี ก็มันออกจะมีอะไรที่มีความคล้ายคลึงกันขึ้นทุกวัน

SONY DSC SONY DSC

: หน้าตา ขนาด และการสัมผัส :

หน้าจอของ Note 4 มีขนาดใหญ่กว่า 6 Plus อยู่เล็กน้อยค่ะ แต่จอ 5.7 และ 5.5 ดูแล้วก็ไม่ค่อยแตกต่างสักเท่าไหร่ แต่ข้อดีของ Note4 คือ สามารถเก็บขอบได้ดีกว่า ทำให้รู้สึกจับถนัดมือกว่า แต่ iPhone6 Plus เอง ก็สามารถทำความบางได้ดีกว่า สัมผัสของทั้งคู่ ก็ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมขึ้นทั้งคู่นะคะ และน้ำหนักที่ไม่ได้ต่างกันค่ะ แต่ถามว่าใหญ่มั้ย ก็ใหญ่สะใจดีค่ะ

หน้าจอ 5.5 นิ้วของ i6 Plus มีความละเอียดอยู่ที่ 401 ppi และจอ 5.7 นิ้วของ Note4  มีความละเอียดอยู่ที่ 515 ppi ค่ะ ตัวเลขต่างกันประมาณร้อยนึง แต่มองด้วยตาเปล่า ความชัดไม่ได้ต่างกันค่ะ สีของ Note4 จะสดกว่าเล็กน้อย แต่ i6Plus ก็ทำได้ดีที่สุด ใน iPhone ทุกรุ่นที่มีมาแล้วค่ะ

SONY DSC

: การใช้งาน :

ทั้ง i6 Plus และ Note4 ก็มีการปรับเปลี่ยน UI ให้เข้ากับการใช้งาน สำหรับอุ้มเอง อุ้มชอบ UI ใหม่ของทั้งคู่ เพราะว่ามันเรียบง่าย สะอาดตา และดูไม่รกค่ะ สำหรับ Note4 ก็ยังทำการปรับเปลี่ยน Widget และใส่ลูกเล่นได้ ส่วนใน i6 Plus ก็ยังมีความเรียบง่ายของหน้า Home ตามสไตล์ Apple

การใช้งานมือเดียวเป็นไปได้ยากทั้งคู่นะคะ แม้ว่าจะมีการออกแบบ Function บางอย่างมาเพื่อ Support การใช้งานมือเดียว เช่น ใน iPhone เมื่อแตะปุ่ม Home 2 ครั้งทั้งแถบจะเลื่อนลงมาให้กดง่ายขึ้น หรือใน Note4 ที่เมื่อฮุบมือเข้าออก ก็จะย่อจอให้มีขนาดเล็กขึ้นมา ในแง่ของการใช้งานใน Note4 มีโอกาสได้ใช้ลูกเล่นพวกนี้มากกว่า แต่เอาจริงๆก็ไม่ค่อยได้ช่วยเท่าไหร่ค่ะ

: กล้อง :

ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวมากๆเลยนะคะ ว่าชอบลูกเล่นแบบไหน สีแบบไหน ใน Note4 ก็มากับตัวช่วยเรื่องกล้องแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Beauty Mode ถ่ายแบบฟรุ้งฟริ้ง หรือใช้นิ้วแตะที่ Sensor แล้วปล่อยเมื่อถ่ายรูป แทนชัตเตอร์ หรือการใช้กล้องหลังถ่าย Selfies ได้แบบง่ายๆ หรือกล้องหน้าที่ถ่าย Selfies แบบ Wide เก็บคนได้เยอะขึ้น

แต่สำหรับอุ้ม อุ้มก็ยังชอบภาพและสีของ iPhone 6 Plus เมื่อใช้ Filter Chrome อยู่ดีค่ะ อาจจะเป็นเพราะคุ้นเคยกับสีแบบนี้ และถ่ายรูปกล้องหน้าออกมาแล้วทุกคนจะพูดว่า “เออ สวยจังเลยอะ” ส่วนถ้าใช้ Note4 ถ่ายกล้องหน้า คนอื่นจะบอกว่า “เหย หน้าเนียน ใสมากเลยอะ”

มาลองดูภาพชุดนี้นะคะ แล้วเลือกว่าชอบภาพบนหรือล่าง ด้านล่างจะเฉลยค่ะ ว่าถ่ายจากอะไร

ภาพที่ 1

IMG_1449

IMG_1459

 

ภาพที่ 2

IMG_1450

IMG_1460

 

ภาพที่ 3

IMG_1451

IMG_1461

ถ้าคุณชอบภาพบน : ภาพจาก iPhone 6 Plus แบบ No Filter

ถ้าคุณชอบภาพล่าง : ภาพจาก Note4 โหมดออโต้

: สิ่งที่อีกฝั่งไม่มี :

มีหลายอย่างค่ะ ที่อีกฝั่งไม่มี แต่อุ้มขอยกเอาจุดเด่นหลักๆ มาเล่าให้ฟังนะคะ

ชัดเจนสำหรับ Note 4 นั่นคือ ปากกา S Pen และการบันทึกด้วย S Note เป็นสิ่งที่อีกฝั่ง ยังไงก็สู้ไม่ได้ค่ะ การเขียนด้วย S Pen ทำได้ดีขึ้นเรื่อย และสามารถใช้งานร่วมกับ S Note ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า แทนกระดาษได้เลยจริงๆ

และสำหรับ iPhone6 Plus คือ Facetime และการใช้งานร่วมกับ Macbook สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ Apple ทำได้ดีมากๆ สำหรับอุ้ม Facetime ยังคงเป็น Video Call ที่ดีที่สุด ใช้งานง่ายที่สุด และการที่ iOS8.1 ทำงานร่วมกับ OSX Yosemite ทำให้เราทำงานเชื่อมต่อกันได้ดีจริงๆ

SONY DSC

: สรุป :

ทั้งสองตัวนี้สำหรับอุ้ม มันคือ Masterpiece ของทั้งสองค่าย อุ้มไม่สามารถเลือกตัวไหนให้ใครได้ค่ะ เพราะว่าต่างมีข้อดีของมันเอง iPhone 6 Plus มากับความเรียบง่ายแต่มั่นคง ใช้งานได้ยาวๆแบบสบาย กล้องที่ไม่มีวันงอแง ถ่ายใคร ใครก็ชอบ การเล่นเกมที่ใหญ่สะใจซะที และความเป็น iPhone / iOS / Apple ที่คุณชื่นชอบ มันอยู่ในนี้แล้วค่ะ

ส่วน Note4 มือถือที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่ครบครัน ลูกเล่นที่หวือหวา และการใช้งานที่ออกแบบมาครบทุกสไตล์ การจดบันทึก ที่ทำให้เราไม่ต้องพกกระดาษกับปากกาอีกต่อไป การถ่ายรูป โหมดต่างๆที่ เออ ก็คิดมาได้ แบตที่รับประกันได้ว่า ใช้งานได้ทั้งวัน ไม่ต้องกลัวหมด การชาร์ทที่ไวสุดๆ ไม่ต้องมานั่งรอ

ขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้วละค่ะ ^^

อ่านรีวิว iPhone 6 Plus ได้ที่

รีวิว iPhone 6 Plus จัดเต็มแบบไทยไทย : เปลี่ยนความใหญ่ เป็นความคุ้มค่าในการใช้งาน :

3 สัปดาห์กับ iPhone 6 Plus : เล่าให้ฟัง ในวันที่เลิกเห่อ !?

Comments

comments