เรียกกระแสฮือฮา สำหรับเลนส์ Hasselblad บนมือถือ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro โดย 2 รุ่นนี้ ใช้กล้องที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad บนมือถือที่ใช้ชิป Snapdragon 888
OnePlus 9 Pro มาพร้อมหน้าจอ Fluid Display 2.0 รองรับชาร์จไร้สาย Warp Charge 50 Wireless charging กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX789
OnePlus 9 Pro มาพร้อมการอัปเกรดหลักๆ คือกล้อง Hasselblad ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.43” 1.12 µm pixels ความละเอียด 48MP รองรับเทคโนโลยีล่าสุด dual native ISO, Digital Overlap HDR (DOL-HDR) และ 2×2 on-chip lens (OCL) รวมไปถึง OIS ถ่ายภาพแบบ 12-bit RAW ได้ บันทึกวีดีโอ 8K ที่ 30 fps และ 4K ที่ 120 fps กล้องขาวดำ 2MP ถ่ายช็อต monochrome ได้สวย มุมกว้าง ultra wide-angle ใช้กล้อง 50MP IMX766 กับขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56” ลดการบิดเบี้ยวบนขอบภาพ ได้ถึงเกือบๆ 1% (10-20% เมื่อเทียบกับเลนส์ทั่วไป) พร้อมกันนี้ ยังรองรับการโฟกัสอัตโนมัติ (autofocus) ถ่าย macro ใกล้ที่สุด 4 เซ็นติเมตร
กล้องหน้าทั้ง 2 รุ่น ความละเอียด 16 MP (IMX471, 1.0 µm) แบบ fixed focus f/2.4
นอกจากนี้ยังมาพร้อมเลนส์ periscope แทนเลนส์ telephoto ที่เป็นมาตรฐานนิยม ซูม 3.3x optical (77 mm) ใกล้กว่ารุ่น 8 Pro ที่เป็น 3x เซ็นเซอร์ 8MP 1.0µm pixels และ OIS
ในขณะที่หน้าจอ Fluid Display 2.0 บน OnePlus 9 Pro มีขนาด 6.7” แบบ LTPO ประหยัดพลังงานลงมากถึง 50% ปรับ refresh rate ได้ถึง 120Hz เพื่อความสมูทในการแสดงผล หรือแม้กระทั่ง 1Hz (ใช้เพื่ออ่านข้อความ Text บนหน้าจอ หรือดูจอ Always On Display) ถ้าดูหนังใช้ 24Hz หรือ 90Hz
ทั้ง 2 รุ่น OnePlus 9 และ 9 Pro ใช้เลนส์ Hasselblad หน้าจอ 120 Hz มี touch sampling rate ที่ 240Hz ความละเอียด 1440p+ รองรับ native 10-bit color depth จอได้รับมาตฐาน A+ จาก DisplayMate จอสว่างถึง 1,300 nits ด้านหน้าตัวเครื่องมี ambient light sensors
สเปค OnePlus 9 Pro ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 888 แรม LPDDR5 และ UFS 3.1 ปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ดีขึ้น โดยมาพร้อมแรม 8GB และมีรุ่น 12GB ให้เลือก ความจุ 128GB และ 256GB
แบตเตอรี่ OnePlus 9 Pro ความจุ 4,500 mAh ชาร์จ 1-100% ในเวลา 43 นาทีด้วย 50W wireless charger (ขายแยกจากกล่อง) ส่วนในกล่องมาพร้อมสายชาร์จและอะแดปเตอร์ Warp Charge 65T ชาร์จไวกว่าที่ชาร์จของรุ่น 8 Pro ชาร์จ 1-100% ในเวลา 29 นาที โดยเวลาเท่ากัน 8 Pro กับ 30W charger ชาร์จได้แค่ 50% นอกจากนี้ยังใช้อะแดปเตอร์ SB Power Delivery กับแล็ปท็อป พาวเวอร์แบงค์ และ Nintendo Switch (รองรับ PPS)
OnePlus 9
ใช้กล้อง Hasselblad แต่เป็นเซ็นเซอร์ตัวเก่า IMX689 1/1.43” 48MP รองรับ 2×2 on-chip lens, dual native ISO รองรับ 12-bit RAW output และรองรับ DOL-HDR แทน HDR แบบเดิม OIS ใช้งานบนความละเอียด 8K ที่ 30 fps แต่ “ไม่รองรับ 4K ที่ 120 fps”
ข่าวดีคือรองรับ 50MP ultrawide เหมือนรุ่น Pro ใช้เซ็นเซอร์ IMX766 รองรับ macro 4 ซ.ม. กล้องโมโน 2MP
OnePlus 9 ยังใช้จอ Fluid Display รุ่นแรก รองรับ 120Hz แต่ไม่ adaptive ขนาดจอ 6.55” AMOLED ความละเอียด 1080p+ ได้คะแนน A+ จาก DisplayMate รองรับ HDR10+ ความสว่างหน้าจอ 1,100 nits
แบตเตอรี่ 4,500 mAh แต่รุ่นนี้รองรับ wired Warp Charge 65T (ชาร์จ 1-100% ในเวลา 29 นาที) แต่ไม่รองรับชาร์เร็วไร้สาย รองรับเพียง 15W Qi charging ทั่วไป สำหรับรุ่นที่ขายในอเมริกาเหนือและยุโรป
ทั้ง 2 รุ่นมีลำโพงแบบ Dual Stereo พร้อม Dolby Atmos พร้อมอัปเกรดมอเตอร์ haptic feedback