มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด OPPO Reno4 มาพร้อมสโลแกน Clearly the best you เด่นเรื่องดีไซน์ตัวเครื่องสวย มาพร้อมฟีเจอร์การถ่ายภาพที่ครบครัน เปิดตัวในราคาเพียง 11,990 บาท
OPPO Reno4 มาพร้อม 4 จุดเด่นคือ
- ดีไซน์สวย
พอได้จับตัวเครื่อง อย่างแรกที่รู้สึกเลยก็คือความบาง Ultra Slim Body 7.7 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 165 กรัม จับถือได้ถนัดมือ ตัวเครื่องสี Galactic Blue ดีไซน์ฝาหลัง Reno Glow เป็นการเคลือบสีแบบด้าน ทำให้ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย แต่ยังสะท้อนแสงสวย ระยิบระยับ วิบวับวิบวับ
นอกจากนี้ยังมีสี Space Black ความลึกลับในอวกาศที่มืดมิด สีดำเข้ม แต่จะดูโปร่งแสงเมื่อมีแสงสะท้อน
ด้านล่างของฝาหลัง มีลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัว O และตัว P จากชื่อแบรนด์ OPPO ที่เรียกว่า “OPPO Monogram”
ด้านหลังเป็นกล้อง 4 ตัว โดยมี 3 ตัว ที่เห็นแบบเด่นชัด และอีก 1 ตัว อยู่ข้างๆ การวางกล้องสวยแปลกตาดี
ด้านหน้า มีกล้องหน้าแบบ Dual Punch-hole มีกล้อง และเซ็นเซอร์ บนหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว อัตราส่วน Screen-to-Body Ratio อยู่ที่ 90.7%
2. ถ่ายภาพสวย
เก่งทั้งเรื่องการถ่ายกลางคืนและลูกเล่นการถ่ายภาพที่ทำให้บุคคลหรือวัตถุในภาพโดดเด่นขึ้น
- แต่งสีภาพให้เด่นชัดขึ้นด้วย AI Color Portrait กับฟิลเตอร์ภาพพอรต์เทรต ทำให้สีเด่นชัด เน้นตัวบุคคลให้เด่นรวมไปถึงการเปลี่ยนสีฉากหลังให้เป็นโทนขาว-ดำ
- Night Flare Portrait ถ่ายภาพพอร์ตเทรตกลางคืน ด้วย dazzling bokeh เบลอหลังได้มากขึ้นแม้ในเวลากลางคืน และใบหน้าสว่างด้วย Face Brightening
- 960fps AI Slow-motion ถ่ายวีดีโอ Slow-Motion คุณภาพสูง ได้สูงถึง 960fps
- วีดีโอกันสั่นดี Ultra Steady Mode 3.0 ทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง และกล้อง Ultra Wide-Angle
3. ชาร์จไว
30W VOOC Flash Charge 4.0 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ภายใน 20 นาที และชาร์จแบตเตอรี่เต็มภายใน 57 นาที โดยความจุแบตเตอรี่คือ 4015mAh โหมด Super Nighttime Standby ตอนนอนหลับ ใช้แบตน้อยมาก โดยแบตเตอรี่จะลดลงเพียง 2% ภายในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ในขณะที่กำลังนอนหลับ
4. สเปคครบเครื่องในงบหมื่นต้น
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 720G RAM 8GB + ROM 128GB ใช้ได้ยาวๆ
>> ดูรีวิวแบบวีดีโอ <<
การถ่ายภาพ มาพร้อมโหมดถ่ายภาพที่ทำให้ได้ภาพที่น่าสนใจ แปลกตา และโดดเด่นไม่เหมือนใคร
โหมดถ่ายภาพ AI Color Portrait
เป็นเทคนิคการเลือกให้บุคคลในภาพ มีสี แล้วฉากหลังเป็นสีโทนขาว-ดำ
AI Color Portrait เข้าไปที่ Camera > Portrait Mode > Filter > AI Color Portrait (ฟิลเตอร์ลำดับที่ 8) หรือเขียนว่า Portrait Color Retention
โหมดนี้ กล้องจะจับไฮไลท์ของภาพ เช่น บุคคล เป็นสี โดยพื้นหลังเป็นสีขาวดำ รองรับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
ทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ โดยแนะนำให้มีฉากหลังและตัวแบบที่มีคอนทราสต์ชัดเจน จากที่ทดลองถ่ายหลายภาพ กล้องฉลาดและจัดการให้เราได้แบบเก่งมากๆ
ใช้ได้ทั้งกล้องหลัง กล้องหน้า และใช้ถ่ายวีดีโอได้ด้วย
ยังไม่หมด เพราะไม่ใช่แค่ภาพนิ่ง แต่ถ่ายวีดีโอ ในโหมด AI Color Portrait ได้ด้วย
เข้าไปที่ Camera > Video > Filter > AI Color Portrait (ฟิลเตอร์ลำดับที่ 12)
ถ่ายวิดีโอด้วยเอฟเฟ็กต์ AI Color Portrait ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ได้เหมือนกับ AI Color
Portrait ภาพนิ่ง สามารถแยกพื้นหลังและบุคคลในภาพได้ พร้อมปรับแต่งพื้นหลังให้เป็นสีขาวดำ
Monochrome Video
เข้าไปที่ Camera > Video > Filter > เลือกดูดสี Crimson / Forest Green / Sky Blue
ฟิลเตอร์ถ่ายวีดีโอ ที่ไฮไลท์สีของวัตถุที่อยู่ภายในวีดีโอ ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว เช่น แยกสีน้ำเงินของน้ำทะเล ให้เด่นกว่าฉากหลังอื่นๆ หรือกระโปรงสีเขียว อันนี้เวลาถ่าย ถ้าอยากให้ได้สีสวยๆ ต้องเลือกชุดเข้ากล้องกันหน่อย ถ้าอยากลองให้สนุก ลองกับพวกไฟ RGB เช่น คีย์บอร์ดเกม แล้วเลือกสีที่เราอยากให้ดึงสีออกมา
โหมดถ่ายภาพ Night Flare Portrait
ถ่ายภาพกลางคืน ไม่ใช่แค่สว่าง แต่ยังถ่ายได้สวยเหมือนกล้องใหญ่ ด้วยอัลกอริทึม Low Light HDR และ อัลกอริทึม bokeh
โหมดนี้เรียกว่า Night Flare Portrait เข้าไปที่ Camera > Portrait Mode > Filter > Night Flare Portrait (ฟิลเตอร์ลำดับที่ 9 ถัดจาก Portrait Color Retention)
ยิ่งตอนกลางคืน การถ่ายภาพหลังเบลอจะเห็นโบเก้หลอดไฟสวยๆ หน้าชัด หลังเบลอแบบสวยๆ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ กระจกใส เพราะในภาพ ถ่ายแล้วเบลอกระจกบางส่วนหายไปเลยเหมือนกัน
ในบางโอกาส การเลือกใช้โหมด Night Flare Portrait ก็ทำให้เราได้ภาพที่มีมิติ ได้ความแปลกตาในอีกรูปแบบ รวมไปถึงดึงความสนใจของภาพมาที่ตัวแบบได้มากขึ้นด้วย
Ultra Night Selfie Mode
ถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อย
OPPO Reno4 รองรับ Ultra Night Selfie Mode กล้องหน้า 32MP ถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนกับแสงไฟนีออนก็ยังสวย แสงไม่ฟุ้ง ภาพไม่เบลอ ถ่ายในสถานบันเทิงก็ได้ภาพสวย
ถ่ายภาพกลางคืน Ultra Dark Mode
แม้แสงน้อย ภาพก็คมชัด ด้วยกล้องหลัง Ultra Dark Mode จะทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อถ่ายภาพในที่แสงน้อย ทันทีที่ค่าความสว่างน้อยกว่า 1 lux
ตอนถ่ายภาพนี้ อุ้มปิดไฟทั้งหมดเลย เหลือแค่ไฟจากเม้าส์และเคสคอมเท่านั้น เมื่อกล้องเจอแสงสว่างน้อยก็จะเข้า Ultra Dark Mode อัตโนมัติเลย
ถ่ายภาพสวย ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
ให้สีสันที่สดใส และการโฟกัสที่แม่นยำ
กล้อง OPPO RENO4 รองรับการถ่ายภาพสวย ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มาพร้อมฟีเจอร์การถ่ายภาพมากมาย ทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ ทำให้ภาพออกมาแปลกตา และมีลูกเล่นกับเฉดสีต่างๆ ตามที่เราต้องการ
กล้องหน้า 32MP
กล้อง 32MP Sefile Camera ทำให้ถ่ายภาพบุคคลมีสีสัน ฉากหลังเป็นโทนขาวดำได้ ใช้เซ็นเซอร์ IMX616, 1/2.74″, F2.4 ส่วนอีกตัวเป็น AI-enhanced Smart Sensor
กล้องหลัง 4 ตัว 48MP
8MP Ultra Wide-angle Camera
การถ่ายภาพกลางวัน จัดการกับแสงได้ดี สีท้องฟ้าสวยมากๆ และถ่ายเงยขึ้นไปมองท้องฟ้าก็ยังได้ภาพที่สวย
ได้ความละเอียดภาพ 3264 x 2448 pixels
การถ่ายแหงนหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า กล้องจัดการแสงได้ดี และให้สีท้องฟ้าที่สวย สดใส ภาพไม่มืดดำ
กล้องหลัก 48MP ใช้เซ็นเซอร์ IMX586, 1/2″ Sensor, F1.7
โหมดถ่ายภาพกล้องหลัง สามารถถ่ายมุมกว้าง Wide ถ่ายโหมด 1X 2X 5X 10X ได้ จัดการแสงได้ดีในเวลากลางวัน โหมด Portrait ปรับโบเก้ได้ 1 – 100% และปรับ AI Beautification ได้ 0 – 100%
การตัดขอบ เบลอฉากหลังทำได้ดี แต่ขึ้นอยู่กับระยะและสีของวัตถุ รวมไปถึงเสื้อผ้าของตัวแบบด้วย จุดที่พัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อนๆ ก็คือการตัดขอบเส้นผมที่เก่งขึ้น
ได้ความละเอียดภาพ 4000 x 3000 pixels หลายๆ คนอาจจะชอบความสดของสีเขียว และสีท้องฟ้าที่สวยงามในโทนสีแนวนี้ ซึ่ง OPPO reno4 ทำได้ดีมากๆ
ส่วนการถ่ายในที่มีแสงจ้าแบบในภาพก็ทำได้ดี รอบข้างยังสว่างสดใส ไม่มีส่วนใดที่สว่างจ้าจนเกินไป
นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายภาพ ที่ทำให้คุณถ่ายภาพได้คมชัดในทุกสถานการณ์
2MP Macro Camera ถ่ายระยะใกล้
2MP Mono Camera เลนส์สำคัญที่ให้ภาพมีโทนขาวดำ
ถ่ายภาพความละเอียดสูง Ultra Clear 108MP Image ถ่ายภาพด้วยความคมชัด สูงสุดถึง 108MP เก็บได้ทั้งรายละเอียดและพื้นผิวต่างๆ
การถ่ายวิดีโอ 960fps AI Slow-motion
เข้าไปที่ Camera > More > SLO-MO
ถ่ายวีดีโอเหมือนกับถ่ายภาพยนตร์ 960fps AI Slow-motion ตรวจหาการเคลื่อนไหวอัจฉริยะ (intelligent motion detection algorithm) บันทึกแบบเดียวกับการถ่ายภาพยนตร์ 4-fold frame interpolation เช่น ขณะเป่าเทียนวันเกิด หรือการเคลื่อนไหวสวยๆ ลองดูในวีดีโอนะคะ
นอกจากนี้ยังรองรับการถ่าย วีดีโอสโลโมชั่น ที่ 480fps@1080P, 240fps@720P และ 120fps@1080P สำหรับกล้องหลัง ส่วนกล้องหน้า รองรับ 240fps@720P และ 120fps@ 1080P
Ultra Steady Video 3.0 กันสั่นวีดีโอ นิ่งๆ
การถ่ายวีดีโอ มีกันสั่นทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง โดยกันสั่นกล้องหน้าทำได้ดีมากๆ
กล้องหน้า Front Steady Video มือถือน้อยรุ่นที่จะมีกันสั่นกล้องหน้า ปกติเราเดินถ่าย Vlog กล้องหน้าจะสั่น เป็นครั้งแรกที่ OPPO Reno4 มาพร้อมระบบกันสั่นแบบ EIS บนกล้องหน้า และยังรองรับการเลือกฟิลเตอร์ได้ด้วย
ถ่ายวีดีโอกล้องหน้าได้บนความละเอียด 30fps@720P และ 30fps@1080P และเลือกใช้วีดีโอ bokeh และ AI Beauty ได้ด้วย รวมไปถึงถ่าย Slow-Motion 720p และ 1080p ด้วยกล้องหน้าได้
Ultra Steady Video กล้องหลัง ถ่ายวีดีโอนิ่ง แต่ถ้าอยากให้กันสั่นแบบ Max เลือก Ultra Steady Video Pro ถ่ายด้วยเลนส์ Ultra Wide-Angle ของ OPPO Reno4 ทำให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้น
วีดีโอกล้องหลัง ถ่ายบนความละเอียดสูงสุด 4K และถ่าย Slow-Motion 720p และ 1080p
แอปตัดต่อวิดีโออัจฉริยะ SoLoop
อุ้มลองแล้ว ทำง่ายมาก สนุกดี เลือกวีดีโอ แตะๆๆๆ ใส่เพลง มี AI ช่วยเลือกช่วงไฮไลท์มาให้เรา ใส่เพลงประกอบที่ตื่นเต้นได้ เสร็จแล้วก็แชร์ไป YouTube และ TikTok ได้เลย
สแกนนิ้วบนหน้าจอ สแกนใบหน้า ได้รวดเร็ว
รองรับทั้งการสแกนใบหน้า และสแกนนิ้วบนหน้าจอเพื่อปลดล็อคหน้าจอ และยังตั้งค่าปลดล็อคแอปได้อีกด้วย โดยสแกนนิ้ว สแกนใบหน้าได้รวดเร็วมาก และด้วยความที่ตัวเครื่องบาง จับได้ถนัดมือ ก็เลยทำให้การวางมือสแกนนิ้วง่ายและติดทุกครั้งได้แบบสบายๆ
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด็ดที่อัดแน่นเกินมือถือราคาหมื่นต้น
AI-enhanced Smart Sensor กล้องหน้ามีเซ็นเซอร์
แรกเห็นก็คิดว่าเป็นกล้องหน้าคู่ แต่ที่จริงแล้วคือเซ็นเซอร์ AI-Enhanced Smart Sensor
– Smart Spying Prevention: ป้องกันไม่ให้ผู้อื่น แอบอ่านข้อความแจ้งเตือนบนหน้าจอมือถือเรา
ฟีเจอร์นี้ เซ็นเซอร์ทำงานร่วมกับกล้องหน้า เพราะมือถือรู้จักใบหน้าเราอยู่แล้ว ถ้าใครจะมาแอบอ่านข้อความแจ้งเตือนของเรา อันนี้พอเปิด Anti-peeping พอระบบตรวจจับไม่ใช่ใบหน้าเราก็ซ่อนการแจ้งเตือนไม่ให้แอบอ่านได้ (ซ่อนไวมากๆ) โดยเราเลือกแอปที่ไม่ต้องการให้แสดงข้อมูลกับบุคคลแปลกหน้าได้
เข้าไปที่ Settings > Notifications & status bar > Manage notifications > Anti-peeping เลือกแอปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
– Smart AirControl: มือไม่ว่าง ทำขนม กินส้มตำ หรือแทะไก่อยู่ ก็เลื่อนหน้าจอ รับสายได้ โดยไม่ต้องใช้นิ้วแตะจอเลย
ใช้ Gesture (ท่าทาง) เลื่อนขึ้นลงหน้าจอในแอปที่รองรับ เช่น YouTube, Facebook, Instagram และ TikTok และปัดมือเพื่อรับสายได้ ทั้งหมดนี้แม้มือจะมันจากการหยิบอาหาร ก็ไม่ต้องแตะหน้าจอมือถือเลย
เข้าไปที่ Settings > Convenient Tools > Gestures & Motions > Air Gestures > Air
answer/Air scroll
– Smart Rotation: หลายครั้งที่เรานอนเล่นมือถือ ขยับท่านอนแล้วหน้าจอหมุนพลิกไปมาสลับคนละด้านกับที่เราอยากตะแคงดู (ทำให้เรารำคาญ จนต้องกดปิด Auto Rotation เอง) ตัวเลือกนี้ สามารถหมุนหน้าจอตามทิศทางใบหน้าของเราได้
เข้าไปที่ Settings > Display & brightness > Auto Rotate > Smart Rotation
– Smart Always-on Display โหมดนี้ประมาณว่า ถ้าเราจ้องหน้าจออยู่ เช่น อ่าน e-books อยู่ ตราบใดที่เราจ้องจอ หน้าจอจะไม่ดับ ก่อนหน้านี้ถ้าไม่มีฟีเจอร์นี้ เราตั้งให้ปิดจอหากไม่มีการแตะหน้าจอเป็นเวลานาน 15 – 30 วินาที 1 – 2 – 5 – 10 – 30 นาที เช่นเราอ่านอะไรยาวๆ แล้วไม่ได้แตะหน้าจอเลย แต่พอถึงเวลาที่เราตั้งไว้ จอก็ดับไปซะแล้ว ฟีเจอร์นี้ฉลาดมากๆ
เข้าไปที่ Settings > Display & brightness > Eye comfort > Always on
สเปค
มือถือระดับราคาหมื่นต้น ตอนนี้มาพร้อมสเปคที่ใช้งานได้ดีเลยล่ะ Qualcomm Snapdragon 720G, RAM 8GB + ROM 128GB ซึ่งจริงๆ แข่งกันดุมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยรุ่นนี้ใช้ Low Power DDR4X ประสิทธิภาพ CPU แบบ single-core เพิ่มขึ้น 46% และประสิทธิภาพของ CPU แบบ multi-core เพิ่มขึ้น 26% จากผลการทดสอบของ Geekbench และประสิทธิภาพของ GPU จะเพิ่มขึ้น 40% จากผลการทดสอบของแมนฮัตตัน
การเล่นเกม ไหลลื่น มีโหมด Game Space ช่วยจัดสรรให้เครื่องพร้อมเล่นเกมได้ดีที่สุด ปิดการแจ้งเตือน การโทรเข้า ตั้งค่าได้ว่าจะให้เอื้อกับการเล่นเกมมากแค่ไหน เพื่อรีดประสิทธิภาพเครื่องให้เล่นเกมได้ดีที่สุด
ColorOS 7.2 และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
Icon Pull-down Gesture
จอใหญ่ แต่เอื้อมนิ้วโป้งไปแตะไอคอนไม่ถึง “Icon Pull-down Gesture” ช่วยได้ โดยเลื่อนขึ้นจากบนขอบซ้ายหรือ ขวาของ Home Screen ก็จะยุบเป็นไอคอนเล็กๆ ให้เรากดได้ง่ายและสะดวกขึ้น ใช้มือเดียวสะดวกขึ้นเยอะเลย แต่แอบบอกว่าต้องเรียนรู้ท่าทางมันสักนิด
Convenience Tools
ปุ่มคำสั่งลัด เป็นลูกบอลมหัศจรรย์ Assistive Ball ใช้มือเดียวสั่ง back เปิด multitask กลับหน้า Home ได้ง่ายและสะดวกมากๆ
OSIE Ultra Clear Visual Effect
OPPO Screen Image Engine (OSIE) Ultra Clear Visual Effect เทคโนโลยีการปรับแต่งภาพ ที่พัฒนาโดย OPPO เพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลด้วยซอฟต์แวร์ ช่วยให้การดูวีดีโอบน Instagram, TikTok, Vmate, Vigo, Likee และอื่นๆ คมชัด ลด noise ภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น
Netflix HD Certified
รองรับ DRM L1 รับชม Netflix HD Streaming ผ่านการสตรีมแบบ 1080P ในรูปแบบ HD
รองรับการแสดงผล Dark Mode
ตอนนี้หลายๆ คนน่าจะติดใจกับการแสดงผลแบบ Dark Mode เพราะมองสบายตา แล้วก็ประหยัดแบตอีกด้วย ซึ่งกดเลือก Dark Mode ได้ทั้งการลากแถบคำสั่งลัดลงมา หรือไปตั้งค่าเองในส่วนของ Display & Brightness
การบันทึกภาพหน้าจอ ใช้ 3 นิ้วแตะค้างแล้วลากบนหน้าจอเพื่อจับภาพหน้าจอ (Screen Capture) ปกติจะต้องกดปุ่ม Vol+ พร้อมปุ่ม Power ค้างไว้
App Cloner ใช้ 2 บัญชีในเครื่องเดียวกัน เช่น Facebook, LINE, Instagram, Messenger
Split Screen ใช้ 2 แอปในจอเดียวกัน เช่นเปิด YouTube พร้อมท่องเว็บไปด้วย
Focus Mode
โหมดปั่นงาน ถ้ากำลังปั่นงานสุดชีวิต ไม่อยากให้การแจ้งเตือนใดๆ รบกวน ก็ให้เปิดโหมดนี้ หรือไม่ก็ตอนที่เราจะนอน อยากทำสมาธิ ไม่อยากให้การแจ้งเตือน รบกวนให้จิตใจว้าวุ่น เลือกให้บรรเลงเพลงได้ด้วยนะ
โหมดขับรถ (Smart Driving)
โหมดห้ามรบกวนขณะขับรถ ไม่อยากเสียสมาธิกับการแจ้งเตือนต่างๆ สายโทรเข้า ไม่อยากพะวงกับการรับสาย ตั้งค่า Smart Driving ได้เลย ถ้ารถมี Bluetooth ก็ต่อคุยผ่าน Bluetooth ในรถได้ กำหนดผู้ที่อนุญาตให้รับสายได้
อีกโหมดนึงคือ Riding Mode อาจจะไม่ได้หมายถึงขี่รถจักรยานยนต์เพียงอย่างเดียว แต่อาจจะหมายถึงปั่นจักรยานก็ได้
รองรับ USB OTG
สามารถนำเอา Flash Drive / Thumb Drive แบบ USB มาเสียบเพื่อใช้ Backup รูป วีดีโอ ได้ หรือไม่ก็ต่อเม้าส์ คีย์บอร์ดได้
จากที่ได้ทดลองใช้ทั้งการถ่ายรูป เล่นเกม ใช้ Social ทั่วไป รู้สึกว่าประทับใจมากๆ กล้องหน้ามีกันสั่นเหมาะกับสาย Vlog มากๆ ส่วนการถ่ายภาพ – วีดีโอ สามารถเลือก Portrait Color Retention แยกสีบุคคลได้ก็เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ที่ไม่ควรพลาด ส่วนสเปคนี่ไม่ต้องกังวล แรมเยอะ เมมเยอะ แบตเยอะ จอใหญ่ กล้องดี ครบจบในเครื่องเดียว แถมยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. ให้ใช้แบบไม่มีอะไรขาดอีกด้วย อ่านรีวิวจบแล้ว ใครสนใจ หาซื้อเครื่องเปล่าได้ในราคา 11,990 บาท
- Pre-Order : ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. – 5 ส.ค. 63
- รับฟรีของสมนาคุณ OPPO E-VIP CARD ประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี และ OPPO Reno Backpack สุดเท่ มูลค่าร่วม 7,490 บาท
- พิเศษ ราคาเริ่มต้นเพียง 4,990 บาท เมื่อจองพร้อมสมัครแพ็คเกจกับผู้ให้บริการเครือข่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ