การกลับมาของนักฆ่าเรือธง ที่ปลุกตำนานมือถือเรือธง ให้เพื่อนๆ ได้เป็นเจ้าของมือถือรุ่นท็อป ในราคาไม่ถึง 3 หมื่นบาท OnePlus 10T 5G สเปกแรง ชาร์จไว มาพร้อมคอนเซป ‘Evolve Beyond Speed‘ เก่งทุกทาง เติมเต็มสำหรับคุณ
สเปกแรง กับราคาที่เข้าถึงได้
OnePlus 10T 5G อัพเกรดประสิทธิภาพแบบองค์รวม เน้นความเร็วที่มากขึ้นแบบเต็มสปีด ด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon® 8+ Gen 1 โดดเด่นในเรื่องการจัดการพลังงาน และสิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่า พร้อม CPU Qualcomm® Kryo™ RAM LPDDR5 16GB / ROM 256 GB พร้อมรองรับ RAM Expansion เลือกได้ 3GB, 5GB และ 7GB
นอกจากนี้ยังตั้งค่า RAM Boost ให้ใช้แอปได้ลื่นๆ สลับแอปได้ไม่สะดุด
ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 12.1 พร้อมรองรับการอัปเกรดเป็น OxygenOS 13 ในอนาคต หน้าตา UI สวยและดูเรียบๆ คลีนๆ ใช้งานง่าย ปรับแต่งได้ตามต้องการ สไลด์หน้าจอแรกจากซ้ายไปขวา จะพบหน้าเรียกคำสั่งต่างๆ พร้อมดูสภาพอากาศ นัดหมาย นับก้าวเดิน เขียนโน๊ต
ปรับแต่งรูปแบบไอคอน การแสดงผล เอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ การแจ้งเตือน ได้ตามต้องการ
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,800 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว SUPERVOOC 150W สามารถชาร์จไวเต็ม 100% ภายใน 19 นาที
สำหรับคอเกม มั่นใจได้ว่าเลือก OnePlus 10T 5G มาช่วยเป็นคู่หูในการเล่นเกม ให้การเล่นเกม เร็ว ลื่นไหล ไม่มีสะดุด ด้วย HyperBoost Gaming Engine ช่วยให้เล่นเกมราบรื่นขึ้นและตอบสนองไวขึ้น GPA Frame Stabilizer ลดความผันผวนของอัตราเฟรมเมื่อเล่นเกม และ LSTouch ยังลดความหน่วงในการสัมผัสได้ถึง 10 ms
พร้อมด้วย3D Cooling System เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Cryo-velocity VC ที่ทาง OnePlus ใช้เวลาในการพัฒนายาวถึง 18 เดือน เป็นระบบระบายความร้อนที่ใหญ่ที่สุดและล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ OnePlus โดยมี Cooling Area รวมกว่า 37,000 มม. ช่วยปรับลดอุณหภูมิลงถึง 5 องศาเซลเซียส
ดีไซน์
มองด้านข้าง จะเห็นกล้องหลังเป็นแถบสีดำ ตัดกับสีเขียวหยกอมเทา ออกโทนสีฟ้าอ่อน
ด้านซ้ายมีเพียงปุ่มปรับ เพิ่ม – ลดเสียง ไม่มีไม่มีปุ่ม Alert Slider ที่ปิดเสียงเรียกเข้า
ครั้งแรกที่เห็นตัวเครื่อง ชอบการออกแบบ การวางกล้องที่สวยแปลกตา ตัวเครื่องบางเพียง 8.75 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 203.5 กรัม โดยรุ่นที่ได้มารีวิวคือ สี Jade Green (สีเขียวอ่อนอมเทา) ดูวัสดุผิวมันเงาคล้ายหยก โดยได้แรงบันดาลใจจากหยก เพื่อสร้างลุคเซรามิกและสัมผัสที่ลื่นมือ ก็ดูคล้ายกับหยกเซรามิกจริงๆ ถ้าเอาตามจริงคือติดรอยนิ้วมือง่าย แต่เชื่อว่าผู้ใช้แทบทุกคนคงใส่เคสกันอยู่แล้วล่ะ และ สี Moonstone Black สีดำแมทต์ ได้รับแรงบันดาลใจจากหินบะซอลต์ ให้ความรู้สึกถึงพลังและความมั่นคง เท่ แปลกใหม่ โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร
แต่จุดนึงที่น่าสังเกตก็คือ ถ้าอยากได้สี Jade Green จะต้องเลือกใช้รุ่น 16GB + 256GB เพราะรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย รุ่น 8GB + 128GB สีดำ Moonstone Black ราคา 24,990 บาท และ รุ่น 16GB + 256GB สีเขียว Jade Green ราคา 27,990 บาท
หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ Refresh Rate 120Hz (ปรับตามการใช้งานอัตโนมัติ 60 / 90 / 120Hz) Touch Response สูง 720Hz ให้ภาพนุ่มนวลตา
ระบบรับสัญญาณรอบตัวเครื่อง 360° Antenna System Smart Link เสาอากาศ 15 ตัวรอบตัวเครื่อง หมดปัญหานิ้วมือบังเซ็นเซอร์แล้วทำให้สัญญาณดร็อป รองรับ 5G และรองรับ Wi-Fi 6 (รองรับ 5G SA เครือข่าย AIS 5G ครอบคลุมทั่วไทย)
ลำโพงคู่ Dual Speaker คุณภาพเสียงดี ระบบเสียงไกด์ให้เราได้ว่าเสียงศัตรู / เสียงปืนดังมาจากทางไหน
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos กำหนดรูปแบบสภาพแวดล้อมการฟังเสียงต่างๆ
การถ่ายภาพ
ด้านหลังตัวเครื่อง มีการจัดวางเลนส์กล้องที่สวยแปลกตาไปจากรุ่นอื่นๆ โดยมีกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมระบบกันสั่น และ A.I. ภาพสวยคมชัด
กล้องหลัก 50MP OIS ชิป Sony IMX766 เลนส์ Ultra-wide 8MP มุมกว้าง 119 องศา เลนส์ Macro ถ่ายภาพ 4 เซ็นติเมตร ถ่ายภาพกลางคืน Nightscape พร้อม A.I. ให้ภาพคมชัดในที่แสงน้อย
ถ่ายวิดิโอสูงสุด 4K/60fps ถ่ายวีดีโอ Slow Motion 960 fps (720P) ถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน (Dual View Video)
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
จากที่ลองถ่ายภาพ รู้สึกว่าจัดการแสงได้ดี ภาพออกในโทนสีธรรมชาติ แต่รุ่นนี้ไม่ได้เป็นกล้อง Hasselblad การถ่ายภาพวิวถือว่าทำได้ดี จัดการแสงได้สวย เป็นธรรมชาติ
เวลามองภาพถ่ายให้มองสีเขียว ดูการจัดการแสง การแสดงผลสีเขียว ทำให้รู้สึกสบายตา
การถ่ายภาพอาหาร อันนี้อยู่ที่คนชอบเลย ภาพออกโทนธรรมชาติ ไม่ได้แต่งเติมจนสีสันสดใสผิดไปจากของจริง
การถ่ายภาพบุคคล เบลอฉากหลังได้ดี การตัดขอบเส้นผม ทำได้ดี
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า 16 MP ชิป Sony IMX 615
การถ่ายภาพเซลฟี่ ทำได้ดี จัดการการเบลอฉากหลังได้ดี ตัดขอบเส้นผมได้เนียนดี แทบไม่มีเพี้ยนเลย ถ้าแสงน้อยก็มี Super HDR ช่วยได้
การถ่ายภาพกลางคืน ได้ฟีเจอร์ Nightscape 2.0 ช่วยให้ถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยได้สว่าง เหมือนมองด้วยตาเปล่า คือสายตาเรามองในที่มืดยังไง กล้องทำได้แบบนั้นเลย แต่ก็มีบางจุดที่ยังพบการสะท้อนของแสงกระทบเลนส์อยู่บ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่เปลี่ยนมุมถ่าย ก็ได้ภาพสวยๆ แล้ว
ภาพนี้สังเกตเห็นว่าจะมีการฟุ้งของแสงดวงไฟ แต่โดยรวมทำได้ดี
บางครั้งยังพบการสะท้อนแสง (Flare) เข้าเลนส์กล้องแบบในภาพนี้ แต่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เปลี่ยนมุมถ่าย อารมณ์ก็เปลี่ยน
ส่วนการถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนทำได้ดี ดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ว่อก แต่ก็แอบมีแสงสะท้อนเข้าเลนส์นิดหน่อย แต่ถ้าปรับมุมถ่ายก็จบ
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ความจุ 4,800 mAh รองรับการชาร์จไว 150W บนเทคโนโลยี SUPERVOOC ชาร์จเร็วที่สุด ในกล่องมาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จไว 160W SUPERVOOC ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ภายในระยะเวลา 19 นาที รองรับ Dual Charge Pump + 6C ชาร์จได้สูงสุด 20V / 7.5A
มีระบบจัดการพลังงาน ระบบ Smart Rapid Charge ชาร์จไวอัจฉริยะ มี Power Saving Mode เซฟชีวิตแบตตอนแบตใกล้หมดแล้วหาที่ชาร์จไม่ได้
และหากใช้งานในระยะยาวไม่ต้องกังวลเลย เพราะมีระบบถนอมแบตเตอรี่ BHE-Battery Health Engine ขยายวงจรอายุแบตเตอรี่ จากปกติ 800 ครั้ง เป็น 1,600 ครั้ง ทำให้ใช้งานได้หลายปีโดยที่แบตไม่เสื่อม
ตัวเครื่องรองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอและสแกนใบหน้า ซึ่งจากการใช้งานพบว่าสแกนนิ้วได้รวดเร็วมากๆ
นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ อย่างเช่น การเรียกเมนูคำสั่งด่วน Quick Launch คือการเอานิ้วสแกนบนหน้าจอแล้วกดค้างไว้เพื่อเรียกใช้งานแอปด่วน และการแบ่งหน้าจอ Split Screen ใช้ 2 แอปพร้อมกันในหน้าจอเดียว (รองรับทั้งแนวตั้งและแนวนอน)
รองรับ 5G และ Wi-Fi Calling (เครือข่ายต้องรองรับ)
ถ้าหน้าจอใหญ่เกินไป หรือไม่สะดวกใช้มือเดียว แนะนำให้เปิด One-Hand Mode ใช้งานได้สะดวก
ส่วนใครที่กังวลว่า การใช้งานในระยะยาวเป็นยังไง OnePlus 10T 5G ได้รับการอัพเดต Android สำคัญ 2 ปี และอัปเดตความปลอดภัย 3 ปี
โปรโมชั่น
จองช่วง Pre-order / First-sale และงาน OnePlus 10T 5G Pop-Up Event ที่สยาม
AIS
Pre-order : 2 – 8 กันยายน 2565 (AIS Online store)
First-sale : 9 กันยายน 2565 เป็นต้นไป
โปรโมชั่นเมื่อสั่งซื้อพร้อมแพ็คเกจรายเดือน Hot Deal 5G Max Speed Exclusive เฉพาะช่องทาง AIS ในราคาเริ่มต้นเพียง 16,490 บาท เท่านั้น
ลูกค้า AIS ที่ทำการ Pre-order ผ่าน AIS Online Store นำใบเสร็จไปแลกของขวัญที่งาน OnePlus 10T 5G Pop-up Event ในวันที่ 10 กันยายน 2565 พร้อมรับของสมนาคุณ มูลค่ารวม 8,390 บาท
(OnePlus 10T 5G Glacier Mat Case Grey EU มูลค่า 1,390 บาท + OnePlus 10T 5G E-VIP Card มูลค่า 7,000 บาท) ระยะเวลาให้ของแถม ตั้งแต่ 2 กันยายน – 18 กันยายน 2565
Shopee Exclusive
Pre-order : 2 – 8 กันยายน 2565
First-sale : 9 – 23 กันยายน 2565
ลูกค้า Shopee ที่ทำการ Pre-order ผ่าน OnePlus Official Store บน Shopee นำหมายเลขคำสั่งซื้อไปแลกของขวัญที่งาน OnePlus 10T 5G Pop-up Event ในวันที่ 10 กันยายน 2565
พร้อมรับของสมนาคุณ มูลค่ารวม 8,390 บาท (OnePlus 10T 5G Glacier Mat Case Grey EU มูลค่า 1,390 บาท + OnePlus 10T 5G E-VIP Card มูลค่า 7,000 บาท) ระยะเวลาให้ของแถมตั้งแต่ 2 กันยายน – 18 กันยายน 2565
#iaumreview #OnePlus10T5G #EvolveBeyondSpeed #FlagshipKiller