OnePlus Nord เป็นมือถือ Lite Flagship for New Gen สมาร์ตโฟนซีรีส์ใหม่ของ OnePlus โดยเปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้น 14,990 บาท กับวัสดุดี ดูพรีเมี่ยม สเปคดี
OnePlus Nord (อ่านว่า วันพลัส หนอด) มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์สวย เน้นถ่ายภาพ แต่ยังคงความลงตัวของประสบการณ์การใช้งาน และคุณภาพในระดับเรือธง ซึ่งเปิดราคามาให้เป็นเจ้าของได้ง่าย ภายใต้ความเป็น Lite Flagship มือถือเรือธงที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน
OnePlus Nord คืออะไร
ความหมายของ Nord เป็นภาษาจากทางฝั่งยุโรป แปลว่าทิศเหนือ แต่ในความหมายของ OnePlus คือ เข็มทิศ หรือทิศทางที่เราจะเดินทางต่อไปได้ ในการก้าวเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น
OnePlus Nord เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงสเปคและศักยภาพของ ทั้งดีไซน์การออกแบบ และประสบการณ์การใช้งานเร็วและลื่นไหลที่เทียบเท่าได้กับระดับสมาร์ตโฟนเรือธง รองรับกิจกรรมหนัก ๆ อย่างการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง รวมไปถึงการถ่ายภาพ และการถ่ายวีดีโอ แน่นอนที่สุดว่า จะมาในราคาที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น
OnePlus Nord วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่น
รุ่น RAM 8GB / ROM 128GB
สี Blue Marble และ Gray Onyx
ราคา 14,990 บาท
รุ่น RAM 12GB / ROM 256GB
สี Blue Marble
ราคา 17,990 บาท
การออกแบบตัวเครื่อง
Flagship Design
เป็นมือถือราคาหมื่นกลางที่มีดีไซน์สวย วัสดุดี โดยมีสี Blue Marble (สีฟ้าหินอ่อน) และสี Gray Onyx แต่บอกตามตรงเลยว่าการออกแบบใกล้เคียงกับ OnePlus 8 มากๆ ไม่รู้สึกว่าเป็นราคาระดับกลางๆ เพราะรู้สึกพรีเมี่ยม มีราคา ตัวเครื่องออกแบบมาให้จับถนัดมือ มีกล้องหน้าคู่บนหน้าจอแบบ Fluid Display ขนาด 6.44 นิ้ว รองรับค่า Refresh rate 90 Hz เรื่องจอของ OnePlus นี่หายห่วงจริงๆ สวยคมมากๆ
สเปค หน้าจอ Dual Punch Hole Display แบบ Fluid AMOLED Display ขนาด 6.44 นิ้ว Full HD+ รองรับ HDR 10+, resolution 1080×2400, pixels 408 ppi ขนาด 20:9
มีค่า Refresh rate 90Hz การตอบสนองลื่นไหล ติดนิ้ว ภาพสวยสมูท ไม่กระตุก ไม่หน่วงเลย สามารถปรับระดับความสว่างได้สุงสุดถึง 2,048 ระดับ เพื่อความสบายในการมองหน้าจอ แถมมีโหมดมืด Night Mode ด้วย แต่โหมดมืดนี้จะไม่ใช้สีดำ เป็นการหรี่แสงหน้าจอแบบถนอมสายตาแทน (จิ้มมือถือก่อนนอน สบายตา ไม่แสบตา)
ด้านหลัง แม้จะดูด้วยตา รู้สึกเงาๆ งับๆ แต่จริงๆ แล้ว วัสดุเป็นแบบด้าน ป้องกันลายนิ้วมือ โครงพลาสติก แต่วัสดุฝาหลังเป็นกระจก Matte AG Glass ด้านข้างตัวเครื่อง ออกแบบให้มีความบาง จับถนัดมือ ต่างจากเมื่อก่อนที่เคยจับมือถือ OnePlus แล้วรู้สึกว่าทำไมใหญ่จัง แต่รุ่นนี้พอดีมือมากๆ
แถบเลื่อนด้านข้าง เรียกว่า Alert Slider ใช้ปรับโปรไฟล์ เปิด ปิดเสียงริงโทน คือ Silent, Vibrate และ Ring ถัดจากปุ่ม Power ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 183 กรัม
การชาร์จแบตเตอรี่
ความจุแบตเตอรี่ 4,115 mAh และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Warp Charge 30T สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 70% ภายใน 30 นาที มาพร้อมอแดปเตอร์ชาร์จไฟ รองรับการจ่ายไฟ 5V 2.0A 10W และ 5V 2.0A Max 30W และสายชาร์จสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus
มาพร้อมพอร์ตชาร์จเป็นแบบ USB Type-C ไม่มีช่องเสียบหูฟัง และมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม แบบ MicroSIM
Flagship Camera
กล้องหลังนี่แทบจะยกชุดกล้องบน OnePlus 8 มาใส่เลย โดยมีกล้องหลัง 4 ตัว เลนส์หลัก 48 MP ใช้ชิป IMX586 เลนส์ Ultra-Wide 8MP มุมมอง 119 องศา f2.25 เลนส์มาโคร 2MP ระยะ 4 เซ็นติเมตร อีกอันเป็น Depth Sensor ใช้ถ่าย Portait หน้าชัด หลังเบลอ ถ่ายวีดีโอสูงสุด 4K @30fps เป็น 4K Cine แบบเต็มสัดส่วนจอมือถือเลย
การปรับแต่งการถ่ายภาพ มี UltraShot HDR ให้เราเปิดได้ กำหนดอัตราส่วนการถ่ายภาพ กดปุ่มชัตเตอร์ค้าง ให้สั่งบันทึกวีดีโอ หรือกดถ่ายรัวๆ (Burst) โดยเลือกความละเอียดวีดีโอได้ตั้งแต่ 1080p จนถึง 4K
ตัวอย่างภาพถ่าย
อุ้มมีตัวอย่างภาพถ่ายมาให้ชมกันด้วยค่า ซึ่งอุ้มชอบตรงที่ถ่ายมุมกว้าง ได้ทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง ตอนกลางคืนก็ถ่ายมุมกว้างได้ การตัดขอบฉากหลังเบลอทำได้ดี
กล้องหลัง ถ่ายได้ 3 มุมมองคือ 1x / มุมกว้าง 0.6x / ซูม 2x
โดยเทียบมุมภาพ 1x และมุมกว้าง
ภาพบน 1.0x
ภาพล่าง Wide 0.6x
ภาพบน 1.0x ภาพล่าง 0.6x Wide กล้องมือถือมุมกว้างสมัยนี้ ภาพไม่บิดเบี้ยว ไม่โค้งแล้ว
การตัดขอบ เบลอฉากหลังทำได้ดี สังเกตจากเส้นผม แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับวัตถุ สีของฉากหลังด้วย
ถ่ายวีดีโอ Super Stable ทดสอบกันสั่นนิ่งๆ
โดยโหมดวีดีโอกล้องหลัง ถ่ายมุม 1x และ 0.6x Wide ได้ด้วย แต่ถ้าเลือกเปิดโหมด Super Stable จะไม่มีให้เลือกมุมกล้อง
กล้องหลังกันสั่นนิ่งดี รู้สึกเลยว่า มือถือราคานี้ ได้กล้องแบบนี้ ทำได้ดีมากๆ
ภาพ Night Mode
จริงๆ แล้วมืดมาก แต่ถ่ายออกมาจริงๆ สวย ไม่สว่างจนเกินไป ภาพคมชัด ยังมองเห็นได้ เป็น Nightscape ได้ทั้งเลนส์หลักและ Ultra-Wide
ภาพถ่ายตอนกลางคืน สามารถใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายได้ด้วย ให้ภาพที่มีมุมมองแปลกตา
ส่วนการถ่ายภาพมุมปกติ 1x ทำได้ดี เก็บรายละเอียดแสงได้ดี
การถ่ายภาพกลางคืน 0.6x มุม Wide
การถ่ายภาพกลางคืน 1.0x มุมปกติการถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืน ทำได้ดี จัดการแสงได้ดี แต่ทั้งนี้ ตัวแบบ ถ้ารู้ทิศทางของแสง ก็จะได้ภาพที่สวยขึ้น
ถ่าย Macro ระยะใกล้สูงสุด 4 เซ็นติเมตร
กล้องหน้า
เป็นครั้งแรกของ OnePlus ที่ใส่กล้องหน้าคู่ 32 MP ถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 4K 60fps (วีดีโอกล้องหน้า ถ่าย 4K เฟรมเรตได้มากกว่ากล้องหลัง)
โดยกล้องหน้า สามารถปิด ถมดำ ไม่ให้มีจอแหว่งได้ แต่ปกติ ถ้าเราดูวีดีโอ แม้ถ่างจอ Zoom to Fill ก็จะไม่มีกล้องหน้ามาบดบังอยู่แล้ว จะมีผลก็ตอนเล่นเกม ที่มีจอแหว่งตรงตำแหน่งกล้องหน้า พอถมดำแล้วจอตอนเล่นเกมก็ไม่แหว่ง
กล้องหน้า มีกล้องหน้าเลนส์คู่ 32MP Sony IMX616 และมีเลนส์ Ultra-Wide 8MP 105 องศา ทำให้ถ่ายเซลฟี่ ด้วยกล้องหน้าได้ทั้งมุมปกติ 1x และถ่ายมุมกว้าง 0.6x ได้ด้วย
สังเกตการตัดขอบ มีเพี้ยนนิดนึงตรงข้อศอกและเส้นผม อย่างที่บอกคือ ขึ้นอยู่กับฉากหลังและเสื้อผ้าที่เราใส่ด้วย
นอกจากนี้ยังมี AI Super Clear Algorithm ที่อุ้มชอบมากๆ
ปกติเวลาถ่ายเซลฟี่ คนอยู่ด้านหน้า ภาพชัด แต่คนอยู่ด้านหลัง เบลอ ซึ่ง AI นี้จะช่วยวิเคราะห์ให้ใบหน้าทุกคนคมชัดทั้งภาพ ไม่เบลอ แม้คนอยู่ด้านหลังสุดก็ตาม
ส่วนวีดีโอกันสั่นกล้องหน้าก็ดีมากๆ ถ่ายวีดีโอ สูงสุด 4K 60fps มี OIS กันสั่นด้วย ถ่ายแล้วเอาไปทำ vlog ได้เลย
นอกจากนี้ กล้องหน้ายังรองรับ Nightscape Selfie ถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนสว่างคมชัด
บทสรุปของอุ้ม เรื่องกล้อง คือการเอากล้อง Flagship มาใส่ ทำออกมาได้ดี AI ฉลาด คุ้มมากๆ กับราคานี้ค่า
Flagship Experience
เรื่องการใช้งานเครื่อง ไม่ต้องกังวลเลย ใช้งานได้ลื่นไหล Qualcomm Snapdragon 765G บนระบบปฏิบัติการ OxygenOS หน่วยความจำภายในสูงสุด RAM 12GB ROM 256GB ส่วนรุ่นเริ่มต้นคือ RAM 8GB ROM 128GB
การเล่นเกม การดูภาพสวยสมจริง ประหยัดพลังงาน มี Game Mode ระบายความร้อนได้ดี ส่วนการอัปเดต ไม่มีแพแน่นอน อัปเดต Android ได้ 2 เวอร์ชั่น ส่วน OxygenOS รองรับการอัปเดตได้ 3 รอบ โดยเริ่มต้นให้ Android 10 หลังจากนั้นอัพเป็น Android 11 ได้
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ
Game Space เป็นการรวมเอาเกมต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องให้เหมาะกับการเล่นเกมมากที่สุด
Game Mode ปรับเป็น Fnatic Mode ได้ โดยจะปิดการแจ้งเตือน ปิดการรัน Backgroud เพื่อเร่งประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมให้ดีที่สุด หยุดการเชื่อมต่อซิม 2 คือทำทุกอย่างไม่ให้รบกวนการเล่นเกมเลย และให้ Priority ในการเล่นเกมเป็นอันดับแรก
Zen Mode โหมดพักสายตา หรือโหมดปั่นงาน ถ้าเราเปิดโหมดนี้ จะเข้าสู่ความเงียบสงบ ไร้การรบกวน ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ให้เรามีสมาธิทำงานได้เต็มที่ ปั่นงานเสร็จค่อยว่ากัน เริ่มต้น 20 นาที – 60 นาที
การแสดงผลหน้าจอ กำหนดการแสดงผลสีสัน มีโหมด Reading ให้ใช้อ่านบทความ ข่าวต่างๆ ได้
โดย Chromatic Effect จะเป็นการปรับจอให้เป็นสีเหลือง ลดแสงสีฟ้าลง ทำให้อ่านสบายตา หรือ Mono คือเปลี่ยนเป็นจอขาวดำ แต่ไม่เหมือนกับ Dark Mode คนละแบบกัน ส่วนการดูรูปใน Gallery โหมดนี้ไม่ได้ปรับขาวดำซะทีเดียว ยังดูรูปได้อยู่ แต่สีเพี้ยน หากเจอหน้าจอแปลกๆ แนะนำให้ตรวจสอบการตั้งค่าตรงนี้ด้วย
ปุ่ม Power Button กด 2 ครั้งเพื่อเข้ากล้องด่วน ตอนที่ปิดหน้าจออยู่ หรือกดค้างเข้า Google Assistant ได้
การปลดล็อคหน้าจอของ OnePlus Nord ทำได้ทั้งการสแกนนิ้วบนหน้าจอ ซึ่งรวดเร็วมากๆ และการสแกนใบหน้า ซึ่งก็ทำได้รวดเร็วเช่นกัน
นอกจากนี้ยังสามารถกำหนด เลือก Animation Effect ได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับความชอบเราเลย
Parallel Apps
ใช้ Facebook LINE IG 2 บัญชีในเครื่องเดียวกัน โดยไม่ต้อง ล็อคเอ้าท์ ล็อคอินใหม่ ให้เสี่ยงพลาดล็อคอินผิดบัญชี
Quick Launch
เรียกคำสั่งด่วน โดยใช้นิ้วทาบเพื่อสแกนนิ้วปลดล็อคหน้าจอตามปกติ แต่ไม่ต้องเอามือออก กดค้างไว้ แล้วเลื่อนขึ้น (เร็วๆ) เพื่อเรียกคำสั่งด่วน เช่น New Note, Voice Search
ถ้าให้อุ้มนิยามความเป็น Lite Flagship คือเป็นมือถือรุ่นเรือธง สเปค ฟีเจอร์ เรือธง คือได้ประสบการณ์แบบเรือธงแบบราคาเอื้อมถึงนั่นเอง วัสดุดี กล้องดี กว่าที่คาดไว้เยอะเลย
นอกจากนี้ เรื่องการรับประกัน และศูนย์บริการ ทาง OnePlus ได้ประกาศความร่วมมือกับ OPPO ในการให้บริการหลังการขาย หรือศูนย์บริการ After Service ให้ผู้ใช้งาน OnePlus เข้าศูนย์ OPPO ได้ โดย OnePlus Service Center ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า MBK Center ชั้น 5 Zone B