ถ้าอยากได้มือถือ 5G ถ่ายวีดีโอดีที่สุด อุ้มแนะนำ OPPO Reno4 Pro 5G มือถือ 5G ถ่ายวีดีโอดีที่สุด รองรับ Ultra Steady Video 3.0 และ Ultra Night Wide-Angle Video ที่ทำให้ถ่ายภาพวีดีโอไม่สั่นไหว และถ่ายวีดีโอกลางคืนแบบมุมกว้างได้อย่างสว่างคมชัด ส่วนดีไซน์เป็นมือถือ 5G ที่บาง เบา รองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 36 นาที ในขณะที่ OPPO Reno4 Z 5G ก็เป็นมือถือ 5G ระดับกลาง ที่รองรับทั้งโหมด SA และ NSA มาพร้อมจอสวย ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ การวางกล้องที่แหวกแนว

จุดเด่นของ OPPO Reno4 Z 5G

มือถือ 5G ระดับกลาง ที่คุ้มที่สุด มาพร้อม RAM 8GB ROM 128GB

รองรับ 5G แบบ Dual Mode คือใช้งานได้ทั้งแบบ SA และ NSA ทั้ง 2 โหมดในเครื่องเดียว ซึ่งไม่ใช่ทุกเครื่องที่รองรับการใช้งานแบบนี้ ข้อดีคือพกไปต่างประเทศก็ใช้งาน 5G ได้ทั่วโลกแบบแรงๆ

หน้าจอลื่นๆ สมูท กับ 120Hz Silky Display ปัดนิ้วไถจอก็ลื่น แสดงผลต่างๆ ก็ลื่น ดูสมูท

ดีไซน์การออกแบบ ชอบการวางกล้องมาก กล้องหลังมี 4 เลนส์ สวย แหวกแนว ไม่เหมือนใคร บนตัวเครื่อง 2.5D เพรียวบาง ไล่เฉดสี รองรับการปลดล็อคด้วยนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง ที่สะดวกมากๆ ยิ่งใครถนัดมือขวา ใช้นิ้วโป้งขวานี่คล่องเลย

กล้องหน้าเป็น Dual Lens หรือกล้องหน้าคู่ 16MP + 2MP แบบเจาะรูบนหน้าจอ ถ่ายภาพบุคคลสวย แอบบอกว่า เซลฟี่โบเก้ด้วยฮาร์ดแวร์เลยนะ ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ ดังนั้นสวยแน่นอน เรามีตัวอย่างภาพถ่ายให้ดูเพียบ

อีกข้อดีคือ รุ่นนี้ยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. คนที่มีหูฟังส่วนตัว สบายเลย และยิ่งถ้าใครที่ชอบถ่ายวีดีโอสามารถหาไมค์แบบ 3.5 ม.ม. มาใช้ได้เช่นกัน

จุดเด่นของ OPPO Reno4 Pro 5G

มือถือ ระดับสองหมื่นกลาง ใช้ 5G ได้ ถ่ายวีดีโอดีที่สุด

มือถือถ่ายวีดีโอดีที่สุด ใช้ 5G ได้ ทำให้การส่งวีดีโอไฟล์ใหญ่ๆ ผ่าน 5G ทำได้อย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง 3G 4G 5G ใช้งานได้ทั้งโหมด SA และ NSA เครือข่ายไหนรองรับโหมดไหนก็ใช้งานได้เลย ใช้ได้ทั่วโลก

สเปคแรง Qualcomm Snapdragon 765G จัดเต็ม RAM 12GB ROM 256GB

Ultra Night-Wide Video ถ่ายวีดีโอมุมกว้างตอนกลางคืนได้ดีมากๆ แสงน้อยก็ไม่ต้องกังวล

ชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จแบตได้ 60% ในเวลา 15 นาที ถ้าชาร์จเต็ม 100% ใช้เวลา 36 นาที พร้อมระบบประหยัดพลังงาน Super Power Saving Mode

หน้าจอ 90Hz 3D Curved Screen สามารถดูวีดีโอ เล่นเกม ส่วนความไวหน้าจอ 180Hz แตะปุ๊บ ตอบสนองปั๊บ

ดีไซน์การออกแบบสวย Ultra Slim สุดบาง 8.1 มิลลิเมตร จับถนัดมือ น้ำหนักเบา

กล้องดีมาก Triple LDAF Camera กล้องหลักความละเอียด 48MP พร้อมรองรับเซ็นเซอร์ LDAF โฟกัสได้แม่นยำด้วย Laser Focus

 เจาะลึก OPPO RENO4 PRO 5G

ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 765G มีเสาอากาศรอบทิศทาง รับสัญญาณ 360 องศา เสาอากาศอัจฉริยะ 2.0 ปรับจูนสัญญาณให้แรงตามสภาพแวดล้อม และจูนสัญญาณให้เข้ากับคลื่นความถี่หลักได้เหมาะสม เป็นมือถือ 5G ถ่ายวีดีโอดีที่สุด เหตุผลก็เพราะว่า หากมือถือถ่ายวีดีโอดีๆ ไฟล์วีดีโอขนาดใหญ่ ก็ต้องพึ่งเครือข่าย 5G ในการส่งไฟล์ใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับตัวกล้อง มีการอัปเกรด Ultra Steady Video 3.0 และ Ultra Night Wide-Angle Video ที่รองรับการถ่ายวีดีโอตอนกลางคืนแบบมุมกว้าง ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องก็บาง ดูพรีเมี่ยม พร้อมรองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 36 นาที ถ้าตื่นแล้วลืมชาร์จแบตมือถือ วิ่งไปเข้าห้องน้ำ แต่งตัว ออกมาหยิบมือถือออกไปข้างนอกได้ทั้งวัน โดยไม่ง้อพาวเวอร์แบงค์

ปกติเวลาเราถ่ายวีดีโอมุมกว้างตอนกลางคืน พอกดถ่ายจะมี noise เยอะ ภาพมืดลง ดังนั้นการมีโหมด Ultra Night เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพมุมกว้างนี่ดีมากๆ

เทียบความสว่าง ระหว่างคลิปแรก กับคลิปที่ 2 สว่างขึ้นอย่างชัดเจนเลย

บรรยากาศจริงมืดมาก มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแสงเลย แต่พอถ่ายออกมาแล้วเกินคาดมากๆ ถ่ายดาวได้ด้วย

กล้องจัดการแสงได้ดีเหมือนกับเรามองด้วยตาเปล่าเลย ได้ภาพสว่าง ชอบตรงที่ไม่ดึงภาพสว่างจนเว่อร์มากนัก

การถ่ายวีดีโอกลางคืน Ultra Night Wide-Angle Video มี 2 ตัวช่วยคือ Ultra Night Wide-Angle Video Lens + Ultra Night Video Algorithm หมายถึงไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ แต่เลนส์ ถ่ายกลางคืนแบบมุมกว้างได้เลย แถมยังป้องกันการสั่นไหวด้วย Ultra Steady Video 3.0 อย่างที่เรารู้กันว่าถ้าแสงน้อย ยิ่งมืด ภาพอาจสั่นไหว ก็เสริมการป้องกันกันสั่นไหวของวีดีโอให้ด้วย ส่วนการถ่ายภาพย้อนแสง รองรับ Live HDR และถ้าใครชอบถ่ายวีดีโอ ตัดต่อ ก็ทำบนมือถือได้เลย

ระบบเสียงสเตอริโอ Dolby Atmos มีลำโพงบนและล่าง 0.45 มิลลิเมตร และ 0.4 มิลลิเมตรตามลำดับ ขยายเสียงลำโพงไม่แตก เสียงเบสก็โดดเด่น ทำให้การรับชมได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น

ColorOS 7.2 ใช้งานมือเดียวได้สะดวก แม้จอใหญ่ ลดขนาดไอคอนทำให้เอื้อมนิ้วไปกดได้ง่าย โดยเฉพาะคนถนัดมือขวา พร้อม Gravity Wallpaper ที่ปรับทิศทางตามแรงโน้มถ่วงได้ และ AI App Preloading ที่เปิดแอปให้ล่วงหน้า แอปไหนใช้บ่อยก็จะเข้าได้เร็ว

ดีไซน์

Reno Glow เทคนิคการเคลือบความมันวาวบนตัวเครื่องแบบใหม่ ใช้การตกกระทบของแสงที่สวยงามแปลกตา ป้องกันลายนิ้วมือ

มีสี Galactic Blue ไล่เฉดสีฟ้าและสีน้ำเงิน และ Space Black มี OPPO Monogram เป็นลวดลาย OP ทำให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ

หน้าจอโค้ง 3 มิติ (3D Curve) ขนาด 6.5 นิ้ว Refresh Rate 90Hz แสดงผลลื่นไหล อัตราความไวต่อการสัมผัสหน้าจอ 180Hz ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ รองรับ HDR 10 ค่า Contrast 5,000,000:1 ความสว่าง 500 nits, 800 nits, 1100 nits ในที่แสงน้อย สามารถปิดโหมด Flicker-Free ลดการกระพริบของหน้าจอได้ พร้อมโหมดถนอมสายตา

โหมด Eye Comfort สบายตา เทียบปิดและเปิด ทำให้มองจอนานๆ ได้ไม่ปวดตา อันนี้แล้วแต่คนชอบจริงๆ

หน้าจอแสดง EDGE Lighting ได้ แสดงเป็นไฟแจ้งเตือนโทรเข้าได้ ปรับแต่งได้ตามความชอบ และมีเอ็ฟเฟ็กซ์ สแกนนิ้ว, ชาร์จแบต, ปลดล็อคหน้าจอ

ตัวเครื่องบางเพียง 7.6 มิลลิเมตร ขอบจอด้านข้างบางมาก แต่ด้านล่างจะหนาไปนิดนึง น้ำหนัก 172 กรัม การวางกล้องดูสวย พรีเมี่ยม ดีไซน์ทันสมัย ถือว่าเป็นมือถือ 5G ที่บางที่สุด ส่วนการระบายความร้อน มีแผ่นระบายความร้อนทำให้ลดความร้อนสะสมในตัวเครื่องลง

การออกแบบตัวเครื่อง ถือได้ว่าบางมากๆ ถือเป็นมือถือ 5G ที่บางเฉียบสุดๆเลย

ด้านบน โล่งๆ มีไมค์
ด้านล่างมีพอร์ตชาร์จ USB Type-C ลำโพง ไมค์ ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม.
ด้านข้าว สังเกตว่ากล้องไม่ได้นูนมาก ตัวเครื่องบางมาก

ชาร์จไว

Super Power Saving Mode เข้ามาช่วยจัดการพลังงาน เพิ่มอายุการใช้งานให้แบตใช้งานได้นานขึ้นสำหรับการใช้งานแอปพิลเคชั่น 5G รองรับ 65W SuperVOOC Charge 2.0 ชาร์จไว แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh จากที่ใช้งาน แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน อุ้มเอาไปถ่ายรูป เล่นเกม ใช้เต็มวันก็ยังเหลือแบตให้กลับถึงบ้านได้สบายๆ

ในโหมดประหยัดพลังงงาน สามารถใช้งาน ได้ 60 นาที แม้แบตจะเหลือแค่ 5% แบตเหลือน้อยก็ยังพอส่ง LINE, WhatsApp ได้ เปิด GPS ก็ยังได้

การจัดการพลังงาน จัดการ CPU ช่วยให้ประหยัดพลังงาน เลือกได้สูงสุด 6 แอป โดยมีตั้งต้นคือ Phone, Message และ Clock เป็นการจัดการแอปให้ใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม

ถ้าชาร์จแบตแค่พอใช้ 60% กว่าๆ หยิบชาร์จแล้วเอาออกไปใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลเลย

ประสิทธิภาพในการเล่นเกม

ชอบตรงที่ตัวเครื่องเบา ถือนานๆ ไม่เมื่อย ชิปเช็ต Qualcomm Snapdragon 765G เอามาเล่นเกมได้ดี fps อยู่ที่ 60 รุ่นนี้มาพร้อม RAM 12GB ไม่ต้องกังวลเลย ใช้งานได้ลื่นๆ

การวางกล้องหลัง 3 ตัวเรียงกัน มีไฟแฟลช ออกแบบได้สวยในสไตล์ Reno

การมี 3 กล้อง ช่วยให้การถ่ายภาพสวยงาม คมชัด พร้อม LDAF เป็นการจับโฟกัสโดยใช้เลเซอร์ จับวัตถุอัตโนมัติ จากการทดลองใช้ จับโฟกัสได้เก่งมากๆ

กล้องหลัก 48MP เซ็นเซอร์ IMX586 รองรับโหมดถ่ายภาพมุมกว้าง 1x 2x 5x อัตราส่วนภาพ 4:3 16:9 1:1 Full Screen รองรับโหมดถ่ายภาพมุมกว้างตอนกลางคืน Ultra Night ด้วยเซ็นเซอร์ IMX708 มุมกว้าง FOV 120 องศา และเลนส์เทเลโฟโต้ 13MP

การซูม สามารถถ่ายได้แบบ 1x 2x 5x 10x ซึ่งเรานำภาพมุมต่างๆ มาใช้งานได้

การถ่ายย้อนแสง ทำได้ดี ดึงฟ้าออกมาได้สวย

กล้องมี Laser Focus จับวัตถุอัตโนมัติ HDR อัตโนมัติ เข้าใกล้ก็เปิด Macro Lens ให้อัตโนมัติ

กล้องจับโฟกัสได้เร็ว และทันทีที่พบวัตถุ ยื่นเข้าใกล้ก็ปรับเป็นโหมด Macro ให้เลย อย่างเช่นการถ่ายผีเสื้อ จับโฟกัสได้ไวมาก ประทับใจมาก

การถ่ายสีเขียว การดึงสีทำได้สวยเป็นธรรมชาติ

ภาพถ่าย 48MP เก็บรายละเอียดได้ดีมาก ขนาดไฟล์ใหญ่อยู่ที่ 7MB กว่าๆ

โหมดถ่ายภาพอื่นๆ Text Scanner, Sticker, Google Lens, Movie ถ่ายวีดีโอมุมกว้าง มุมปกติ และ Macro, Pro, Pano, Extra HD ถ่ายภาพบนความละเอียด 6000 x 8000 pixles, Slo-mo, Time-Lapse

โหมดถ่ายวีดีโอ มีกันสั่น สามารถกดเปิดกันสั่นพิเศษได้เลย

ถ่ายวีดีโอ Ultra Night Wide-angle Video และ Ultra Night Video ดังนั้นการถ่ายวีดีโอตอนกลางคืน ไม่ต้องกังวลเลยถ้าแสงน้อยก็เอาอยู่

และยังป้องกันการสั่นไหวของวีดีโอด้วย Ultra Steady Video 3.0 กันสั่นในโหมดถ่ายวีดีโอมุมกว้างได้ด้วย ซึ่งดีมากๆ และยิ่งใช้กับโหมด Hyperlapse ทำให้ถ่ายภาพได้นิ่ง โดยมีทั้ง OIS และ EIS ช่วยป้องกันภาพสั่นไหวขณะถ่ายวีดีโอ โดยมีกันสั่นวีดีโอทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง (ดูได้จากวีดีโอรีวิว) โดยกล้องจะเรียนรู้จากการใช้งานของเราแล้วปรับให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของเรา

เลนส์ปกติ

เลนส์มุมกว้าง

Live HDR ถ่ายวีดีโอย้อนแสง ไม่ใช่แค่การถ่ายภาพย้อนแสง ตอนนี้การถ่ายวีดีโอย้อนแสง ทำได้แบบปลดล็อคข้อจำกัดของการถ่ายวีดีโอทุกสถานการณ์ เช่น ตอนดวงอาทิตย์ขึ้น และดวงอาทิตย์ตก ทำให้ฉากหลังสว่าง และหน้าเราก็สว่าง ไม่มืดดำ โดยเข้าไปที่โหมดวีดีโอ เลือก Live HDR

โหมดถ่ายภาพนิ่ง

  • รองรับการถ่ายภาพความละเอียด 4K, 1080p, 720p บนเฟรมเรต 30fps และ 60fps
  • ถ่ายวีดีโอ Slo-mo ความละเอียด 1080p 720p
  • ใส่ลายน้ำรุ่นตัวเครื่องขณะถ่ายวีดีโอได้ด้วย
  • การถ่ายวีดีโอ ถ่ายด้วยโหมด 1x 2x 5x มีโหมดกันสั่นวีดีโอ Ultra Stready, โหมดกลางคืน Ultra Night, Bokeh, Live HDR
  • โหมดกลางคืน ถ่ายมุมกว้าง 1x 2x 5x
  • โหมด Cinematic หรือโหมดถ่ายภาพยนตร์ เวลาเราดูหนัง จะมีมุมมองและความรู้สึกแบบเดียวกับการถ่ายหนัง คือปกติวีดีโอเราจะถ่ายกันที่ 16:9 และอันนี้ถ้าเราถ่ายมุมมอง 21:9 ก็จะได้จอแบบโรงภาพยนตร์ แต่ดูบนมือถือทั่วไปก็จะตัดขอบบนกับล่าง โดยเข้าไปที่โหมดวีดีโอ เลือกเพิ่มเติม แล้วเลือกโหมดถ่ายวีดีโอนี้

  • Soloop ตัดต่อวีดีโอได้ง่ายมากๆ อันนี้เป็นแอปตัดต่อวีดีโอที่ให้มาพร้อมเครื่อง OPPO เลย ลองเล่นดูแล้วคุณจะชอบ โดยมี Movie Filter ที่ใส่ฟิลเตอร์ให้วีดีโอได้ Smart Editing ใครตัดต่อไม่เก่ง ทำให้แบบเอาซีนเด็ด ช็อตเด็ด หรือช่วงพีคมาตัดให้เราเลย One-Tap Beat Mixing ระบุท่วงทำนองจังหวะเสียงเพลงให้เหมาะกับช่วงซีนนั้นๆ

กล้องหน้าถ่าย Selfie Beauty ได้สวย

มาพร้อม AI Beauty ให้ใบหน้าสวยดูไม่หลอกตา สามารถปรับให้ใบหน้าเล็กลง ตาโตขึ้นได้ พร้อม AI Portrait ถ่ายภาพเซลฟี่ยังไงหน้าก็ไม่มืด เพราะมี Face Repair ใช้การโฟกัสกล้องหน้าและ telephoto กล้องหลัง

ถ่ายวีดีโอกล้องหน้ามีกันสั่นด้วย แต่จะถูกครอปออก ทำให้มุมแคบลง

Front Steady Video กล้องหน้ามีกันสั่นวีดีโอ อันนี้ดีมากๆ เพราะก่อนหน้านี้ บางรุ่นมาพร้อมกันสั่นวีดีโอกล้องหลัง แต่กล้องหน้าที่เราเดินถือถ่าย Vlog นั้นไม่มี แถมยังถ่ายวีดีโอหน้าชัดหลังเบลอได้อีกด้วย โดยโหมดกันสั่นจะถ่ายบนความละเอียด 720p @30fps / 1080p @30fps (สูงสุด)

OPPO Reno4 Z 5G

มือถือ 5G ราคาหมื่นต้น ถูกที่สุดถ้าอยากจะได้มือถือ 5G จาก OPPO รองรับ Dual Mode ทั้ง 5G SA และ NSA

สำหรับการใช้งาน 5G เมื่อมีเสาอากาศอัจฉริยะ ก็ทำให้ใช้งาน 5G ได้ลื่นๆ ออกแบบเสาอากาศเป็นรูปแบบกระจาย รองรับ 2G 3G 4G ทั้งโหมด SA และ NSA

รุ่นนี้ไม่ใช่จอโค้ง เป็นจอตรง เป็นจอ 120Hz คือ Refresh Rate สูงกว่ารุ่นพี่ความละเอียด 2400 x 1080 pixels 400 PPI ละเอียดกว่าสายตามนุษย์มองเห็นได้ จอใหญ่ 6.57 นิ้ว กระจก Gorilla Glass 3 อัตราส่วนหน้าจอ 90.5% จอถนอมสายตา กรองแสงสีฟ้าได้มากกว่า 58% ตัวเครื่องดีไซน์สวย ออกแบบกล้องสวย น่าใช้ กล้องหน้าคู่บนหน้าจอ โดดเด่นกว่าใคร ข้อดีคือมองเห็นกล้องหน้าได้ง่าย ตอนถ่ายเซลฟี่

มีโหมด Eye Comfort ทำให้มองสบายตา ในภาพ เปรียบเทียบระหว่าง ปิดและเปิด Eye Comfort สังเกตว่าหน้าจอจะเหลืองๆ หน่อย อันนี้เป็นเรื่องปกติ ถ้าใครเจอหน้าจอเหลือง ลองตรวจสอบการตั้งค่าตรงนี้ดูได้เลย

ดีไซน์

แค่แวบแรกที่เห็นการวางกล้องก็ชอบแล้ว กล้อง 4 ตัว วางล้อมรอบไฟแฟลชตรงกลาง ฉีกไปจากการออกแบบกล้องมือถือทั่วไป

ชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB Type-C และถ้าใครยังชอบหูฟัง 3.5 ม.ม. ก็สามารถเสียบหูฟังหรือไมค์ใช้ถ่ายวีดีโอได้เลย
กล้องไม่ได้นูนมากนัก ตัวเครื่องบาง มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วด้านข้าง แต่เหมาะกับคนถนัดมือขวาใช้นิ้วโป้งปลดล็อคหน้าจอ
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่ม ลดเสียง ถาดใส่ซิม
ด้านบนเรียบๆ เป็นไมค์ตัดเสียงรบกวน

ตัวเครื่องบาง 8.1 มิลลิเมตร อาจจะไม่ได้บางเท่ารุ่นพี่ แต่ก็ออกแบบได้สวย แบบ 2.5D แบบไล่เฉดสี สะท้อนแสงแล้วสวย มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง

มาพร้อม RAM 8GB ROM 128GB รันบน Color OS 7.1 ใช้งานง่าย ลื่น

OPPO Relax โหมดผ่อนคลาย จับมือถือมาทั้งวัน จ้องหน้าจอทั้งวัน ก็พักสายตา และผ่อนคลายกับดนตรีบรรเลง

Dark Mode ช่วยประหยัดพลังงาน และการปรับความสว่างหน้าจอ ลดอาการปวดตาในทุกสภาพแสง

รุ่นนี้ ในการใช้งานรุ่นนี้ รู้สึกว่าตอบโจทย์การใช้งานได้ดี การเล่น RoV ทำออกมาได้ดี แต่ค่า fps จะอยู่ที่ 30fps  แต่การเล่นเกม เมื่อเราได้จอ 120Hz จอมี Refresh Rate สูง ทำให้รู้สึกสนุก มันมาก

มาพร้อมแบตเตอรี่ 4000mAh รองรับ 18W Fast Charge พร้อมใช้ตัวเองเป็นพาวเวอร์แบงค์ ชาร์จมือถือให้เครื่องอื่นได้ด้วย แบตเตอรี่ใช้งานได้เต็มวัน

กล้องหน้าคู่ 16MP + 2MP ถ่ายระยะชัดลึก Depth ได้ สร้างโบเก้ด้วยฮาร์ดแวร์ ทำให้เซลฟี่ได้สวยโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น เบลอหลังไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ แต่ใช้ฮาร์ดแวร์จัดการเลย พร้อม Face Beautification ให้ใบหน้าสว่างสวยสดใส ตามธรรมชาติ ไม่ขาวเว่อร์ โทนสีธรรมชาติ แยกเพศได้ ปรับโครงหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ และปรับแต่งใบหน้าสามมิติ เรียกว่าครบเลยถ้าจะถ่ายเซลฟี่ นอกจากนี้ กล้องหน้ายังมี Night Mode อันนี้ไม่ใช่แค่เอาแสงไฟหน้าจอมาทำให้สว่าง แต่เซลฟี่ได้เป็นธรรมชาติดี

การมีกล้องหน้า 2 ตัว ทำให้ถ่ายภาพเซลฟี่ได้มีมิติมากยิ่งขึ้น ช่วยเรื่องการจัดการความลึกของภาพได้สวย ลองสังเกตการเบลอฉากหลัง

กล้องหลัง OPPO Reno4 Z 5G

โหมดถ่ายภาพ มีให้เลือกครบ ทั้งถ่าย Portrait ถ่ายกลางคืน

กล้องหลัง เป็นกล้อง 4 ตัว รองรับการถ่ายภาพโหมด 48MP ด้วยเซ็นเซอร์ OV48B, ถ่ายภาพกลางคืนได้สวย เก็บครบทุกรายละเอียด, Wide-Angle 8MP มุมกว้าง 119 องศา แก้ไขความโค้ง ภาพบิดเบี้ยวได้ โดยมุมมองจะเป็น 109 องศา, เลนส์ Vintage Portrait Monochrome 2MP และเลนส์ B&W Portrait Monochrome 2MP เป็นฟิลเตอร์ ลำดับที่ OP06 (ใช้เลนส์ Vintage) และ OP07 (ใช้เลนส์ Black & White) ได้แรงบันดาลใจจากการถ่ายภาพวินเทจ พอได้สีซีดจางเลยได้อารมณ์ภาพน่าจดจำ

ภาพปกติและภาพมุมกว้าง

การเก็บรายละเอียด การจัดการแสงทำได้ดี ได้ภาพสว่าง สวย

ภาพถ่ายจากเลนส์ Vintage Portrait Monochrome

ภาพถ่ายจากเลนส์ B&W Portrait Monochrome 2MP

ส่วนการถ่ายภาพกลางคืน มี Ultra Dark Mode หากความสว่างต่ำกว่า 0 -1 lux แทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ทำให้ได้ภาพที่สว่าง คมชัด และถ้าแสงน้อยใช้ Pixel Binning ทำให้ความไวต่อแสงกว้างยิ่งขึ้น ได้ภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น

รองรับการถ่ายภาพ มุมกว้าง 1x 2x 5x 48MP อัตราส่วนภาพ 4:3 16:9 1:1 Full Screen

ใช้เซ็นเซอร์สแกนนิ้วเป็นชัตเตอร์กดถ่ายรูปได้

ถ่ายวีดีโอ

มาพร้อมกันสั่นวีดีโอ Ultra Steady Video ทำงานบนกันสั่นแบบ EIS ที่ใช้บนมือถือเรือธง ลดการสั่นของวีดีโอ พร้อมรองรับ Video Bokeh, Video Beautification และ Cinematic Styles กับเอ็ฟเฟ็กต์และฟิลเตอร์ในการถ่ายวีดีโอแบบภาพยนตร์​ และมีแอป Soloop ที่รองรับการตัดต่อวีดีโอ เราแค่ถ่าย แล้วโยนเข้า Soloop จัดการให้เสร็จเลย อันนี้เหมาะกับใช้กับ Tiktok และ IG Story สุดๆ

กล้องหลัง รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K 30fps / 1080p 120fps แบบ Slo-motion / 720p เฟรมเรตไม่ตก รองรับมุมกว้าง 1x 2x 5x มีโหมด Ultra Steady ป้องกันภาพวีดีโอสั่นไหว ทำวีดีโอโบเก้ หน้าชัด หลังละลายได้ด้วย และถ่าย Slo-mo ที่ความละเอียด 1080p / 720p

นอกจากนี้ยังมีโหมด Pro, Sticker, Google Lens, Pano, Time-Lapse, Slo-mo ถ่าย Night Mode : มุมกว้าง 1x 2x 5x 10x รองรับ Ultra Dark Mode มีโหมด Tripod วางมือถือบนขาตั้งกล้อง แต่ฟีเจอร์กล้องรุ่นพี่จะเยอะกว่า

ตัวอย่างภาพถ่าย

ดูการตัดขอบ การเบลอหลัง ทำได้สวย เรามาถึงยุคที่มือถือใช้ฮาร์ดแวร์มาช่วยในการจัดการการเบลอภาพ ที่ทำได้สวยกว่าใช้ซอฟต์แวร์

ฟีเจอร์อื่นๆ 

App Cloner ใช้ Facebook LINE 2 บัญชีในเครื่องเดียวกันได้ ทำให้เราไม่ต้องสลับบัญชีบ่อยๆ เสี่ยงพลาดโพสต์หรือตอบผิดบัญชี

แบ่งหน้าจอ Split Screen ใช้ 2 แอปในหน้าจอเดียวกัน พร้อมกันได้เลย โดยลากนิ้วเรียกเปิด 2 แอปพร้อมกันได้

Game Space ให้เล่นเกมได้ไหลลื่น ปรับประสิทธิภาพให้เล่นเกมได้ดีที่สุด

Smart Sidebar แถบด้านข้าง เรียกแอปได้อย่างรวดเร็ว

Kid Space โหมดสำหรับเด็ก ผู้ปกครองจำกัดการเล่นให้เด็กเล่นมือถือเฉพาะแอปที่กำหนด ไม่ต้องกลัวว่าเด็กๆ เล่นเกมแล้จะซื้อของตัดบัตรเครดิต จำกัดระยะเวลาการใช้มือถือ

ถ้าอ่านข้อความแล้ว ตัวเล็กเกินไป ก็ถ่างขยายให้อ่านง่ายได้เลย

รองรับ USB OTG เสียบ USB Flash Drive แบบ Type-C ได้ หรือไม่ก็ใช้ตัวแปลง ทำให้เอารูป วีดีโอโยนเข้า Flash Drive ได้เลย โดยมากดเปิดตรงนี้ ถ้าไม่ได้ใช้อะไรภายในช่วงเวลา 10 นาที ก็จะต้องมาเปิดใหม่

ทั้ง 2 รุ่น ออกมาคนละกลุ่มราคา OPPO Reno4 Pro 5G ราคา 24,990 บาท และ OPPO Reno4 Z 5G ราคา 12,990 บาท ซึ่งถือว่าเป็นมือถือ 5G ที่ถูกมากๆ ยิ่งผูกกับโปรโมชั่นซื้อพร้อมซิมมือถือยิ่งถูกมาก ทั้งสองรุ่นราคาต่างกันเยอะ อยู่ที่เราชอบอะไร โดยทั้ง 2 รุ่น ดู Netflix รองรับ Widevide DRM L1 ทั้งคู่ ดูได้แบบคมชัด

OPPO Reno4 Z 5G สแกนนิ้วด้านข้างบนปุ่ม Power ส่วน OPPO Reno4 Pro 5G สแกนนิ้วบนหน้าจอ ตัวเล็ก เหมาะกับคนอยากเริ่มใช้ 5G ในราคาไม่แพง มีกล้องหน้าคู่ มีลูกเล่นที่น่าสนใจดี กล้อง Vintage และ B&W เจ๋งดี ส่วนใครอยากจัดเต็ม เน้นวีดีโอไปตัวใหญ่ OPPO Reno4 Pro 5G มีกันสั่นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ถ่ายวีดีโอในที่แสงน้อย ใช้เลนส์มุมกว้างได้ รองรับ 5G มีซิม AIS, True 5G ใส่ซิมแล้วใช้งานได้เลย

Comments

comments