เรียกความฮือฮา ตั้งแต่ก่อนเปิดตัว สำหรับ OPPO Reno5 Series 5G กับสโลแกน “Picture Life Together” โดยมีจำหน่าย 2 รุ่นคือ OPPO Reno5 ราคา 10,990 บาท และ OPPO Reno5 5G ราคา 13,990 บาท
OPPO Reno5 Series 5G เกิดมาสำหรับถ่ายวิดีโอ Portrait โดยเฉพาะเลย มาพร้อมฟีเจอร์ Dual-view Video เหมาะกับ Vlogger ใช้ถ่ายวีดีโอ ทำคอนเทนต์ Vlog ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ไม่ต้องพลิกกล้องไปมา และ ฟีเจอร์ AI Mixed Portrait นำ 2 วิดีโอมาซ้อนเข้าด้วยกัน (มีเฉพาะรุ่น Reno5)
จุดเด่นของตระกูล Reno คือ ดีไซน์ตัวเครื่องสวย บาง พกพาสะดวก กล้องดี วีดีโอเยี่ยม และการออกแบบการวางกล้องที่สวย สีสันตัวเครื่องสวยจนไม่อยากใส่เคสเลย
OPPO Reno5 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน Fantasy Silver หนัก 171 กรัม และมีความบางน้อยกว่า 7.8 ม.ม. และสีดำ Starry Black หนัก 171 กรัม และมีความบางน้อยกว่า 7.7 ม.ม.
ส่วน OPPO Reno5 5G มี 2 สี ได้แก่ สีเงิน Galactic Silver หนัก 180 กรัม และมีความบางเพียง 7.9 ม.ม. และสีดำ Starry Black หนัก 172 กรัม และมีความบางเพียง 7.9 ม.ม.
แต่ทั้งนี้ ด้วยน้ำหนักที่ต่างกัน ก็เพราะวัสดุที่ใช้ออกแบบฝาหลัง โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Diamond Spectrum Process ทำให้สี Galactic Silver บนฝาหลังของ OPPO Reno5 5G ถูกออกแบบด้วยเอฟเฟกต์ Reno Glow เกิดเป็นเฉดสีใหม่นับพันสีบนฝาหลังของตัวเครื่อง หากมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกัน จะสามารถเห็นสีได้อย่างชัดเจนทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเขียว สีเหลือง สีฟ้า สีม่วง และ สีส้ม และหากส่องดูใกล้ๆ ด้วยกล้องจุลทัศน์ จะเห็นผลึกปิระมิดสะท้อนแสงออกมา เปลี่ยนได้ 1,000 สี ทำให้เรารู้สึกไม่เบื่อเลย แถมไม่ติดลายนิ้วมืออีกด้วย
ตัวเครื่องบาง มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. ซึ่งเป็นเรื่องดีถ้าใครยังใช้หูฟังแบบมีสาย แล้วไม่ต้องใช้ตัวแปลง
บอกเลยว่า มือถือราคาหมื่นต้นของปี 2021 นี้ ใช้งานได้แบบไหลลื่น โดย OPPO Reno5 ใช้ชิป Snapdragon 720G ส่วน OPPO Reno5 5G รองรับการเชื่อมต่อ 5G ใช้ชิป Snapdragon 765G 5G โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อม RAM 8GB และ ROM 128GB ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นระดับกลางที่ แรมเยอะ หน่วยความจำเยอะ เพียงพอกับการใช้งาน Social เล่นเกม และทำคอนเทนต์ ถ่ายวีดีโอ ตัดต่อวีดีโอบนมือถือได้สบายๆ
บนหน้าจอ มีกล้องหน้าแบบเจาะรู มุมซ้ายของหน้าจอ
หน้าจอ 90Hz รองรับ Netflix Widevine DRM L1 คือดู Netflix แบบ HD ได้
ความน่าสนใจคือ Always On Display แบบใหม่ ที่ทำออกมาได้แปลกตา น่าสนใจขึ้น
OPPO Reno5 ใช้เทคโนโลยีการชาร์จ 50W Flash Charging โดย 31 นาที ชาร์จแบตได้ 80% ถ้าชาร์จเต็ม 100% ได้ในเวลา 48 นาที
OPPO Reno5 5G ใช้เทคโนโลยีการชาร์จ 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จแบตขนาด 4,300mAh เต็มในเวลา 35 นาที
การถ่ายวีดีโอ
OPPO Reno5 5G รองรับการถ่ายวีดีโอ
กล้องหลัง
- 4K ปรับเฟรมเรตไม่ได้
- 1080p @30fps 60fps
- 720p @30fps 60fps
- ถ่ายมุมกว้าง, 1x 2x 5x
- มีระบบกันสั่น
- Slo-motion Video 720p 1080p
กล้องหน้า ถ่ายวีดีโอ 720p 1080p และ Slo-motion Video 720p
ถ่ายภาพนิ่ง มุมกว้าง 1x 2x 5x อัตราส่วน 4:3 1:1 16:9 และ เต็มหน้าจอ
อย่างที่บอกไปว่า OPPO Reno5 Series เกิดมาสำหรับถ่ายวิดีโอ Portrait โดยเฉพาะเลย ดังนั้น เราจะเน้นเรื่องวีดีโอ แนะนำให้กดดูวีดีโอไปพร้อมๆ กับเราเลย
AI Mixed Portrait (มีเฉพาะบน OPPO Reno5) โดยนำ Double exposure effect มาใช้ในการถ่ายวีดีโอ เป็นครั้งแรกบนมือถือที่มีฟีเจอร์นี้
วิธีการคือ ถ่ายวีดีโอ จากนั้น ถ่ายอีกวีดีโอ เพื่อซ้อนวีดีโอกัน สามารถถ่ายได้ 15 วินาที จากนั้นกดหยุด ทำได้ 2 แบบคือ Blend เอาวีดีโอมาซ้อนกัน เช่น ดอกไม้ ซ้อนกับคน คล้ายกับ Double Exposure หรือ Silhouette คือถ่ายเห็น Background ที่เราถ่าย ในตัวคน ดูตัวอย่างได้เลย
Dual-view Video: (รองรับทั้ง 2 รุ่น) บันทึกทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกันได้เลย โดยแบ่งครึ่งจอ (Split) หรือเอาหน้าเราเป็นช่องเล็กๆ ทั้งแบบวงกลม และแบบสี่เหลี่ยม โดยไม่ต้องเอามาตัดต่ออีกรอบเลย ทำได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เผื่อใครเอาไปทำ Shorts บน YouTube หรือ Tiktok ก็ได้
AI Highlight Video
ถ่ายวีดีโอย้อนแสง ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มากๆ เพราะบางครั้งเราอยากได้ฉากหลังสวยๆ แต่มันย้อนแสง ถ้าเป็นปกติก็ต้องหลบมุมที่ย้อนแสง แต่ AI Highlight Video พอเปิดปุ๊บ ภาพฉากหลังสว่างขึ้นมาเลย
AI Color Portrait
แยกสีคนกับฉากหลัง ทำให้คนมีสีสันแต่ฉากหลังเป็นขาวดำ หรือจะถ่าย Monochrome ก็ทำได้เช่นกัน เพิ่มความแปลกใหม่ให้วีดีโอไม่เหมือนใคร
กันสั่นวีดีโอ กล้องหลัง ทำได้ดี ส่วนกล้องหน้า มุมแคปไปนิดนึง เสียดายที่ไม่มีเลนส์มุมกว้างให้เราใช้งานกัน
AI Beautification
ปกติในภาพนิ่ง จะมีโหมดใบหน้าสวย แต่ตอนนี้ในโหมดวีดีโอ สามารถปรับใบหน้าสวยได้แล้ว
ส่วนตอนกลางคืน โหมด Ultra Night Video ทำให้ได้ภาพสว่าง แม้จะมืดมากๆ ก็ตาม
Soloop
แอปผู้ช่วยตัดต่อวีดีโอบนมือถือ OPPO เท่านั้น ซึ่งรอบนี้ปรับปรุงให้มีเมนูกล้องในส่วนของ More (Camera → More → SOLOOP Templates) มี Template ให้เลือกได้เลย (เฉพาะบน OPPO Reno5) หรือถ้าถ่ายวีดีโอด้วยแอปกล้องของมือถือก็เข้าแอป Soloop มาใช้งานได้เลย แอปคิดให้จบเลย
การถ่ายภาพนิ่ง
บอกได้เลยว่า ถ่ายได้ดีกว่าเดิม โดยสเปคกล้องมีดังนี้
OPPO Reno5
กล้องหลัง กล้องหลัก 64MP กล้อง Ultra-Wide 8MP กล้อง Macro 2MP และกล้อง Mono 2MP
กล้องหน้า 44MP
OPPO Reno5 5G
กล้องหลัง กล้องหลัก 64MP กล้อง Ultra-Wide 8MP กล้อง Macro 2MP และกล้อง Mono 2MP
กล้องหน้า 32MP
Image Clear Engine ทำให้ทั้ง 2 รุ่น ถ่ายภาพ Portrait ได้ดีขึ้น จับภาพได้เร็วขึ้น คมชัดมากขึ้น เกลี่ยฉากหลังมีมิติมากขึ้น และสวยงามขึ้น โดยทำได้ดีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย
AI Scene Enhancement เวลาเราถ่ายอาหาร ต้นไม้ กล้องจะตรวจจับแสง วัตถุ และปรับแต่งสีสันให้สวยงามโดยที่ไม่ต้องแต่งรูปเพิ่มเลย ข้อดีคืออาหารไม่ออกโทนเหลืองจนเกินไป
การถ่ายภาพตอนกลางคืน
Ultra Dark Mode ถ่ายในแสงที่มืดเลย แต่ได้ภาพที่สว่างเหมือนสายตาเราเห็น โดยเลือกโหมด Night ถือกล้องนิ่ง แล้วกดถ่าย นิ่งไว้ชั่วอึดใจ ก็ได้ภาพสว่างแล้ว ดูในวีดีโอได้เลย
กล้องหน้าก็เติม Fill Light ได้ ทำให้ได้ภาพที่สว่างขึ้น
กล้องจะ Auto Fill Light เติมแสงให้เราเมื่อแสงน้อย
Night Flair Portrait
ถ่ายภาพตอนกลางคืน แล้วได้ไฟฉากหลังแบบโบเก้ ซึ่งทำได้ดีในมือถือระดับราคาไม่เกิน 15,000 บาท
Night Mode ถ่ายตอนกลางคืน ได้ภาพสว่างกว่าตอนแรกมากๆ เก็บรายละเอียดได้ดี ถือกล้องนิ่งๆ
Night Mode ถ่ายมุมกว้าง ก็ทำได้ดี
ถ่ายภาพนิ่ง Ultra-Clear 108MP
ทำได้ทั้ง 2 รุ่นเลย โดยเข้าไปที่ More > Extra HD โดยความละเอียดคือ 9024 x 12032 pixels ขนาดไฟล์ ประมาณ 27 – 30 MB
ภาพนี้ลอง crop จากภาพเต็มด้านบนดู ยังเห็นความคมชัดอยู่
ลอง crop เข้าไปอีก ใกล้ๆ ก็ยังเห็นรายละเอียดชัดเจน
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ
โหมดลัดพิเศษ ใช้เรียกคำสั่งด่วน แคปหน้าจอได้ง่ายและรวดเร็วมากๆ ไม่ต้องใช้ 2 มือกดปุ่มแคปจอแล้ว หรือมีประโยชน์มากตอนกินข้าวกับเพื่อนแล้วจะหารกันก็เรียกเครื่องคิดเลขได้เร็ว
System Cloner ทำให้มี 2 ล็อคอินเข้าเครื่อง คล้ายๆ กับ Windows ที่มี 2 ล็อกอิน ข้อดีคือ เอาไว้ให้ลูก หลาน เล่นได้ หรือแม้แต่เพื่อนขอเล่น โดยไม่ยุ่งกับข้อมูลบนเครื่องเรา โดยพอล็อคอินก็จะเป็นอีก 1 user เลย
แต่ถ้าจะให้ลูกเล่นจริงๆ จังๆ มีโหมด Kids Space เข้าได้เฉพาะสิ่งที่เหมาะกับเด็กๆ
แสดงไฟแจ้งเตือนบนขอบจอ ตอนมีคนโทรเข้า EDGE Lighting
รองรับการสแกนนิ้ว สแกนใบหน้า
โหมดขับรถ มี 2 โหมดคือ โหมดขับรถยนต์ และโหมดขี่รถจักรยานยนต์
App Cloner ใช้ 2 บัญชีในเครื่องเดียวกัน เช่น Facebook, Messenger, LINE เป็นต้น
นอกจากนี้ยังใช้ 3 นิ้ว รูดลงบนหน้าจอเพื่อแยกหน้าจอ Split Screen เปิด 2 แอปพร้อมกันได้อีกด้วย
รองรับ USB OTG ทั้ง 2 รุ่น เอา USB Type-C Flash Drive มาเสียบได้ เพื่อโอนข้อมูลลง Flash Drive เช่น ก้อปรูปให้เพื่อน แบบความละเอียดเต็มๆ หรือต่อเม้าส์ คีย์บอร์ดได้
เลือกรุ่นไหนดี
จุดแตกต่างหลักๆ ของทั้ง 2 รุ่นคือ การรองรับ 5G ส่วนสเปคนั้นใกล้เคียงกัน ถ้าอยากใช้ 5G ไป OPPO Reno5 5G แต่ถ้าอยากจะถ่ายภาพด้วย AI Mixed Portrait ต้องใช้ OPPO Reno5 เท่านั้น (ในรุ่น 5G ไม่มี) แต่รู้สึกว่า ถ้าอยากจัดเต็มเรื่องวีดีโอ ต้องไป OPPO Reno5 เพราะมี Soloop ที่ built-in มาให้ในเมนูกล้องเลย เรื่องดีไซน์นี่แล้วแต่คนชอบ อยากให้ลองไปจับเครื่องจริงที่ช้อปก่อนซื้อ
OPPO Reno5 ราคาเพียง 10,990 บาท
OPPO Reno5 5G ราคาเพียง 13,990 บาท
ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ