vivo V23 5G ที่สุดของประสบการณ์การเซลฟี่ ด้วยกล้องหน้า 50MP AF Dual Front Camera กับสโลแกน “คมชัดทุกโมเมนต์ที่เป็นคุณ” ดีไซน์ตัวเครื่องขอบเหลี่ยม ดูเรียบหรู และเทคโนโลยีฝาหลังกระจกเปลี่ยนสีได้ รุ่นแรกในไทย (เฉพาะสี Sunshine Gold) โดยเปิดตัวด้วยราคา 17,999 บาท

จุดเด่น ใช้ชิป Mediatek Dimensity 920 รองรับ 5G แบบ dual mode และ VoNR รองรับการเชื่อมต่อ WiFi6 ทำให้รับส่งข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เลือกปรับได้ว่าจะใช้งาน 5G แบบ NSA หรือ SA

พร้อมกับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 90Hz และโมดูลระบายความร้อนแบบ unibody อะลูมิเนียมอัลลอยใหม่ที่ออกแบบระบบระบายความร้อนได้ดีขึ้น

ที่สุดของมือถือถ่ายเซลฟี่ดีที่สุด

ชนะเลิศด้วยกล้องหน้า 2 เลนส์ ความละเอียด 50MP อีกเลนส์เป็นเลนส์มุมกว้าง Super-Wide Angle 105 องศา

กล้องหน้าเก็บทุกรายละเอียด อย่างเป็นธรรมชาติ HD Natural Portrait Ultra clear Selfie

กล้องหน้า Ultra Clear 50MP ให้คุณถ่ายเซลฟี่ได้คมชัด เก็บทุกรายละเอียดได้ครบถ้วน โดยมี ISOCELL 3.0 (เทคโนโลยี pixel isolation) ที่ช่วยปรับแสงและสีของภาพถ่ายให้คมชัด สมจริง หน้าไม่ว่อก ไม่ลอย คมชัด และสวยงามเหมือนดวงตาเราเห็น

AI HD Portrait

vivo เป็นผู้คิดค้น นำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ในการถ่ายภาพเซลฟี่ ทำให้ได้ถ่ายสวย เนียน เป็นธรรมชาติ หากมองรายละเอียดใบหน้าส่วนใหญ่ เช่น คิ้ว สามารถปรับแต่งหรือสร้างใหม่เพื่อให้ได้ภาพพอร์ตเทรตที่ชัดเจนสมบูรณ์แบบ ผิว สามารถปรับให้เนียนละเอียด เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวลเลย ถ่ายออกมาสวยแน่นอน กล้องดีมีชัยไปกว่าแอป

มีตัวเลือกปรับการโฟกัสดวงตาได้ด้วย ชอบความใส่ใจความละเอียดดี

Natural Portrait

ฟีเจอร์ใหม่นี้ ทำให้ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี AI กับการเซลฟี่ สมัยนี้ AI เก่งจริงๆ

Stylish Portrait Party Portrait

ในงานปาร์ตี้ แสงน้อย แต่ได้สปอตไลท์แบบ Dual-Tone ทำให้แสงสว่างในการถ่ายภาพ สว่างมากขึ้นในพริบตา (คือไฟแฟลชไม่แรงแยงตา แต่มาแบบซอฟต์ๆ เหมือนไฟสตูดิโอ) ทำให้การถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืนเป็นเรื่องง่าย ตัวแบบก็ไม่แสบตา เพราะอย่าลืมว่าตอนเซลฟี่ ไฟมันใกล้ใบหน้าและดวงตาเรามากๆ

Multi-Style Portrait

กล้องหน้า มาพร้อมกับโหมดภาพถ่ายบุคคลหลากหลายสไตล์ ซึ่งนำฟิลเตอร์ต่างๆรวมเข้าด้วยกัน ครีเอทไปอีก ถ่ายสนุกมาก

Night Portrait Dual-Tone Spotlight

ใหม่ล่าสุด กับฟังก์ชั่นกล้องหน้าพร้อมแสงแฟลช เสมือนไฟสตูดิโอ Dual-Tone Spotlight ตอนถ่ายกล้องหน้าจะมีแสงแฟลช แบบซอฟต์ๆ ปรับสภาพผิวให้ดูเปล่งปลั่ง จากภาพสีโทนเย็น ไปสู่ภาพโทนสีอบอุ่น พร้อมภาพที่ได้อมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ แต่บอกเลยว่าแสงไม่ได้แยงตา แสบตา แบบไฟแฟลชสมัยก่อน

ภาพบน ไม่ได้เปิด Dual-Tone Spotlight

ภาพล่าง เปิด Dual-Tone Spotlight ได้ภาพสวย เนียนตา

Super Wide-Angle Night Selfie 105 องศา

ถ่ายภาพเซลฟี่ตอนกลางคืน ด้วยเลนส์ที่กว้างถึง 105 องศา พร้อมโหมด Super Wide-Angle รับรองได้ภาพกลางคืนสวยแน่นอน เหมือนตาเราเห็นเลย ไม่ได้สว่างเว่อร์จนดูหลอกตา

Super Wide-Angle ตอนกลางวันก็ได้ภาพสวย เก็บได้ครบแม้จะถ่าย 2 คน 3 คน ก็เอาอยู่

กล้องหน้าถ่ายวีดีโอ 4K

ปกติมือถือทั่วไป ถ่ายวิดีโอเซลฟี่ Full HD แต่กล้องหน้า 50 ล้านพิกเซลของ V23 5G ทำให้ถ่ายวิดีโอกล้องหน้า 4K 30fps ได้ โดยรองรับการถ่ายวีดีโอกล้องหน้า 720p ที่ 30fps / 60fps 1080p ที่ 30fps / 60fps และ 4K ที่ 30fps / 60fps

HDR Selfie Video

โหดไปอีก สาย Vlog ต้องปลื้ม กล้องหน้าวิดีโอ มาพร้อมโหมด HDR โดยใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีไดนามิกขั้นสูง ทำให้สามารถถ่ายวิดีโอแบบหลายเฟรม ข้อดีคือ ทำให้ใบหน้าและพื้นหลังชัดเจนเมื่อถ่ายวิดีโอย้อนแสง ใครถ่าย vlog แล้วหน้ามืด ไม่ต้องกลัวแล้ว

และอีกความน่าสนใจคือ กล้องหน้าสามารถเปิดไฟแฟลชตอนถ่ายวีดีโอได้ด้วย ได้ภาพสว่างตอนถ่ายวีดีโอกลางคืน หน้าไม่มืด

เจ้าแม่กล้องหลัง Rear Camera Master

กล้องหลัง 3 ตัว 64MP Triple Camera

กล้องหลังหลัก 64MP เก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ กล้อง ultra wide-angle 8MP 120 องศา และกล้อง macro 2MP

กล้องหลังทำได้ดีมากในมือถือรุ่นกลางของ vivo มาพร้อมโทนสีจากรุ่นท็อป X Series มาให้เราได้ใช้กันแบบจัดเต็ม

vivo V23 5G vivo V23 5G

ภาพนี้จริงๆ หน้ามืด แต่ AI เก่ง ปรับให้หน้าสว่าง หลังสว่าง ได้ภาพสวย ยอมรับเลยว่า AI เก่งจริงๆ

Bokeh Flare Portrait

ถ่ายภาพ portrait ละลายหลัง เสมือนเลนส์ระดับมืออาชีพ ด้วยกล้องคู่ พร้อมปรับแต่งแสงพื้นหลัง ทำให้ได้ความแปลกใหม่ของภาพถ่ายบนมือถือที่ไม่เหมือนใคร

เม็ดโบเก้สวย ภาพถ่ายก็สว่าง แต่ไม่ได้สว่างจ้าจนเกินไป ตรงกับที่สายตาเรามองเห็นตอนกลางคืนเลย
นอกจากนี้มีโหมดอื่นๆ ให้ถ่าย ทั้งโหมด 64MP ส่วนการถ่าย Macro กดเลือกได้จากโหมด Photo ได้เลย

ดีไซน์ตัวเครื่อง

จุดเด่นแรกที่เห็นด้วยตาก็คือ ดีไซน์ตัวเครื่อง ขอบเหลี่ยม และฝาหลังกระจกเปลี่ยนสีได้ โดยมีสี Sunshine Gold และ Stardust Black ซึ่งสีที่ได้ทดสอบคือ สี Sunshine Gold มีขอบสีทองรอบตัวเครื่อง โดยฝาหลัง Color Charging Glass จะเห็นเฉพาะสีนี้ ส่วนสี Stardust Black ก็คลาสสิกไม่แพ้กัน สีดำที่มีดีเทลความระยิบระยับ ขอบตัวเครื่องขอบ Aluminum แบบเรียบ ดูเท่ แข็งแกร่ง และหรู จับถนัดมือ ข้อดีของมือถือขอบเหลี่ยม คือจับถนัดมือ เพราะมีเหลี่ยมให้จับถือได้อย่างมั่นคง ไม่ลื่นมือ

Nice & Fun Color-Changing Glass

ฝาหลังของตัวเครื่อง ผลิตจากเทคโนโลยีโฟโตโครมิก สามารถแสดงสีได้หลายสีภายใต้แหล่งกำเนิดแสงอัลตราไวโอเลต หรือ UV เช่น แสงแดด ทำให้เมื่อเปลี่ยนมุมการจับถือ ก็จะเห็นสีสันของตัวเครื่องที่แตกต่างกันออกไป

วัสดุตัวเครื่องพื้นผิวกระจก Satin AG (มีในรุ่น Sunshine Gold เท่านั้น)

พื้นผิวกระจก Satin AG ให้สัมผัสที่เรียบหรู แต่สัมผัสในมือให้ความรู้สึกนุ่มดุจใยไหม พร้อมทั้งเทคโนโลยีป้องกันรอยนิ้วมือ และเมื่อเอียงโทรศัพท์เพียงเล็กน้อยก็จะปรากฏความเปล่งประกายภายใต้แสงแดด เรียกได้ว่าตื่นเต้นทุกครั้งที่เอียงตัวเครื่อง และไม่อยากใส่เคสเลย

ด้วยนวัตกรรมดีไซน์ และการผลิตรูปแบบใหม่ การใช้อลูมิเนียมสำหรับการบินเป็นวัสดุเฟรมขอบกลางตัวเครื่อง ขอบตัวเครื่องตกแต่งมุมแบบตัว C พร้อมการเคลือบสารอย่างดีเยี่ยม ให้พื้นผิวดูแวววาว มีระดับ จับถนัดกระชับมือ
ดีไซน์หรูหรา คุณภาพสีระดับพรีเมียม

บอกเลยว่าด้วยราคาเปิดตัว 17,999 บาท แต่สเปคนี่ใช้งานได้แบบสบายๆ ทั้งการเซลฟี่ผ่านกล้อง 50MP AF Dual Camera คือเป็นกล้องหน้าคู่ แล้วถ้าแสงน้อยก็มี Dual-Tone Spotlight ให้ใช้ขณะเซลฟี่ตอนกลางคืนอีกด้วย และด้วยความที่ตัวเครื่องมาพร้อม Color Changing Glass ทำให้ไม่อยากใส่เคสเลย ได้เห็นสีสันที่เปลี่ยนได้ตลอดเวลา

Extended RAM 2.0

Extended RAM 2.0 (12GB + 4GB) RAM ขนาด 12GB พร้อม Extended RAM 2.0 ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่น โดยจะดึงพื้นที่ของหน่วยความจำภายใน (ROM) เป็นจำนวน 4GB เพิ่มพื้นที่ RAM หลักให้มากขึ้น ข้อดีคือ สลับการใช้งานระหว่าง 30 แอปพลิเคชัน จาก RAM 12 GB ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และใช้งานได้โดยไม่สะดุดตลอดทั้งวัน

แบตเตอรี่ พร้อม 44W FlashCharge

แบตเตอรี่ขนาด 4200mAh (TYP) พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จไว 44W อาศัยข้อดีของชิปเซ็ต 6nm + โหมดประหยัดพลังงานจาก Mediatek Dimensity 920 ทำให้ใช้งานได้ยาวๆ ได้ตลอดทั้งวัน

คอเกมต้องปลื้ม

ปังไม่ไหวแล้ว สำหรับคนเล่นเกม รีดความเร็วแรง กับชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 920 หน้าจอ 90Hz Refresh Rate พร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีกว่า ยอมรับเลยว่าเล่นเกมแล้วเครื่องไม่ร้อนเลย ทำได้ดีเกินคาดมากๆ

Funtouch OS 12

Fully New System Experiene Funtouch OS 12

vivo ได้พัฒนา Funtouch OS 12 บน Android อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล จากการใช้งาน Funtouch OS 12 ที่มาพร้อมวิดเจ็ตใหม่ ใช้งานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น แสดงแอปพลิเคชันที่เราใช้เป็นประจำ โดยที่เราไม่ต้องกดเปิดแอปเลย

สเปค

  • ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12
  • หน้าจอ 6.44 นิ้ว 2400×1080 (FHD+) AMOLED
  • กล้องหลัง 64MP AF + 8MP FF (Wide-Angle) + 2MP (Macro)
  • กล้องหน้า 50MP AF + 8MP FF (Wide-Angle)
  • RAM 12 GB + ROM 256 GB พร้อม Extended RAM 2.0 จำนวน 4GB
  • ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 920
  • ขนาดตัวเครื่อง
    157.20×72.42×7.39 ม.ม. Stardust Black
    157.20×72.42×7.55 ม.ม. Sunshine Gold
  • น้ำหนัก สี Stardust Black 179 กรัม สี Sunshine Gold 181 กรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ 4200mAh (TYP) Fast Charging ชาร์จไว 44W (11V/4A)

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

หน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว 2400×1080 (FHD+) AMOLED มีติ่งบนหน้าจอคือกล้องและไฟแฟลชคู่

ปรับหน้าจอ ธีมมืด และโหมดป้องกันดวงตาได้ สังเกตว่าหน้าจอมีความสว่างที่ต่างกัน

มีโหมด e-Sport สำหรับการเล่นเกมที่ไม่ถูกรบกวนจากการแจ้งเตือน การโทร ที่ขัดจังหวะการเล่นเกม

Ultra Game Mode และการคุยแช็ตขณะเล่นเกม โดยไม่ต้องออกจากเกม

รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ และสแกนใบหน้า

สิ่งที่ชอบบน vivo V23 5G คือ ดีไซน์ตัวเครื่องสวย ชอบการออกแบบตัวเครื่องที่เหลี่ยม ไม่เหมือนใคร กล้องหน้าดีมาก กลางคืนมี Dual-Tone Spotlight Selfie ที่ลองใช้แล้วไม่แสบตา ได้ภาพสว่าง เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การสาดแฟลชเข้าใบหน้าให้เคืองตา เล่นเกมดี บอกเลยว่า ถ้างบ 17,999 บาท ได้กล้องหน้าดีขนาดนี้ กล้องหลังก็สวย สาย Vlog สายเล่นเกมต้องชอบแน่นอน และที่สำคัญคือดีไซน์ฝาหลังเปลี่ยนสีได้รุ่นแรกของโลก ที่ใครเห็นก็อยากเป็นเจ้าของแบบไม่ต้องง้อเคส

#vivoV235G #คมชัดทุกโมเมนต์ที่เป็นคุณ

Comments

comments