Vivo X50 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องมืออาชีพระดับโปร และเป็นรุ่นแรกของโลก ที่มีระบบป้องกันการสั่นไหวของกล้องแบบ Gimbal ที่ทำให้การถ่ายวีดีโอนิ่งกว่าการใช้ซอฟต์แวร์กล้องแบบที่มือถือทั่วไปใช้ 3 เท่าเลยทีเดียว ทำให้การถ่ายภาพ วีดีโอนิ่ง ไม่สั่นไหวให้คนดูปวดหัว ถ่ายสนุกมากยิ่งขึ้น
Vivo X50 Pro 5G มือถือเรือธงจาก Vivo ที่รองรับการซูม การถ่ายภาพกลางคืน ถ่ายภาพบุคคล เรียกได้ว่าจัดเต็มเรื่องกล้องมาให้ ด้วยสโลแกน 5G Professional Photography ทั้งภาพนิ่ง วีดีโอ กับจุดเด่น Gimbal Stabilization และ Extreme Night Vision ที่ให้การถ่ายภาพกลางคืนสว่างชัดเจน รวมไปถึงการซูม 60x พร้อมดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม
สเปค
ใช้ชิป Snapdragon 765G RAM 8GB ROM 256GB ความจุนี้เหมาะสมและเพียงพอกับการลงแอป ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ 4K 60fps ได้สบายๆ
การเชื่อมต่อไร้สาย รองรับ Wi-Fi คลื่น 2.4GHz + 5GHz Wi-Fi MIMO รองรับการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi Personal Hotspot ได้ทั้งคลื่น 2.4GHz และ 5GHz รองรับ Bluetooth 5.1 พร้อมระบบเสียง Hi-Fi อันนี้เอามาเชื่อมต่อกับหูฟัง Vivo TWS Neo ได้สมบูรณ์แบบมากๆ ส่วนการรองรับ 5G นั้นรองรับคลื่น n41 / n78
ดีไซน์ตัวเครื่อง
ออกแบบตัวเครื่อง สี Alpha Grey สีเวทย์มนต์แห่งความฝัน เรียบหรูในระดับ X-Class ตัวเครื่องดีไซน์สี่เหลี่ยมโค้งมนจับถนัดมือ การจับถือตัวเครื่องถ้าไม่ใส่เคส ก็ลื่นๆ อยู่ แต่เรื่องรอยนิ้วมือเดี๋ยวนี้มือถือป้องกันรอยนิ้วมือได้ดีแล้ว
ด้านบนของตัวเครื่องมีสกรีนคำว่า 5G Professional Photography แบบสะท้อนแสงเป็นสีรุ้งสวยงาม
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม – ลดเสียง ปุ่ม Power On-Off
ตัวเครื่องบาง 8.04 ม.ม. (8 มิล) หนัก 181.5 กรัม จับถนัดมือ วัสดุเป็นกระจก
ด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์จชาร์จ USB Type-C ลำโพง – ไมค์สนทนา และช่องใส่ซิม (รองรับ 2 ซิม) แต่ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. มาให้ เพราะ vivo แนะนำให้ใช้ร่วมกับหูฟังไร้สาย Vivo TWS Neo นั่นเอง
บนหน้าจอมีเลนส์กล้องขนาดเล็ก เพียง 3.96 มิลลิเมตร หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.56 นิ้ว Refresh Rate 90Hz ความละเอียด 2376×1080 FHD+ ทัชหน้าจอลื่นแบบ Capacitive Multi-Touch จอโค้ง 3D
กำหนด Refresh Rate 60Hz และ 90Hz ได้ ตั้งเอ็ฟเฟ็กต์คนโทรเข้าได้ ตั้งภาพเคลื่อนไหวหน้าจอสว่าง – หน้าจอดับได้
รุ่นนี้รองรับการสแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งสามารถเลือกเอ็ฟเฟ็กต์ได้เอง
แบตเตอรี่ 4315mAh ชาร์จเร็ว 33W vivo FlashCharge 2.0 ชาร์จเต็มภายใน 57 นาที รันบน Funtouch OS 10.5 (บนพื้นฐาน Android 10)
จากที่ได้ใช้งาน อุ้มคิดว่า Vivo X50 Pro 5G จัดการพลังงานแบตเตอรี่ได้ดีมากๆ ไม่ว่าจะใช้เล่นเกม ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอเยอะก็ตาม
กล้อง
กล้องหลัง ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 48MP + กล้องถ่ายภาพบุคคล 13MP + กล้อง Super Wide 8MP 120 องศา (ถ้าปรับแก้ภาพเบี้ยวก็จะเหลือ 108 องศา) + กล้อง 8MP และมีกล้อง Macro
การถ่ายวีดีโอ สามารถปรับ Frame Rate ได้ 30fps และ 60fps กล้องหลังถ่ายได้สูงสุด 4K มีเมคอัพสำหรับผู้ชาย ที่ถ่ายหน้าผู้ชายไม่หวานแบบผู้หญิง ไม่ฟรุ้งฟริ้งจนเกินแมน
มาพร้อม โมดูล Gimbal กันสั่นวีดีโอขนาดเล็กที่ย่อส่วนจากไม้กันสั่นของจริง ทำงานได้เหมือนไม้กันสั่น Gimbal ก้านใหญ่ แบบมืออาชีพเลยทีเดียว หลักการคือเคลื่อนไหวไปทิศทางตรงกันข้ามที่ภาพสั่นไหวเพื่อการป้องกันการสั่นไหวได้เสถียรยิ่งขึ้น
การปรับเทียบไมโครกิมบอล และกันสั่น
เช่นเดียวกับการใช้ไม้กันสั่นปกติ คือต้องมีการปรับเทียบ ตั้งศูนย์กิมบอลก่อนใช้งานครั้งแรก
พอเข้าโหมดกล้อง สามารถกดถ่ายได้เลย โดยไม่ต้องเปิดโหลดกันสั่น (เพราะเป็นฮาร์ดแวร์ ไม่ใช่ซอฟต์แวร์) แต่หากต้องการความนิ่งมากขึ้น กดเปิดกันสั่นพิเศษได้เช่นกัน จะถ่ายได้นิ่งกว่าเดิม
โดยมี Gimbal Radar แสดงลูกบอลเคลื่อนไหวทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของแกน Gimbal และ vivo เองก็พัฒนาการลดความเบลอของภาพที่เกิดจากการเคลื่อนไหว พร้อมการโฟกัสติดตามต่อเนื่อง ทำให้ถ่ายวีดีโอคมชัดและนิ่งมากๆ
ในโหมดกันสั่น กิมบอล เปิดโหมดวีดีโอ เข้าไปที่ การตั้งค่า มุมขวาบน เลือก “การปรับเทียบกิมบอล” เพื่อตั้งศูนย์ถ่วง Stabilization จากนั้นรอให้ระบบปรับเทียบเสร็จสมบูรณ์ ก็เหมือนกับการตั้งค่า Gimball ไม้กันสั่นทั่วไปที่จะต้องตั้งค่าก่อนใช้งานครั้งแรก
“โฟกัสตา” อันนี้น่าสนใจ คือการโฟกัสที่ดวงตาเรา เลือกตาซ้าย หรือตาขวา ก็ได้ โฟกัสร่างกายอัตโนมัติ และโฟกัสวัตถุอัตโนมัติ
ฟีเจอร์กล้อง รองรับการจับความเคลื่อนไหวอัตโนมัติ และติดตามโฟกัสขณะบันทึก ปรับ “ตัวกันสั่น” ซูม 1-1.9 เท่า จะมีวงกลมขึ้นบนหน้าจอ ให้เราถือโทรศัพท์ให้นิ่ง พยายามให้ลูกบอลอยู่ตรงกลางขณะถ่ายรูป – วีดีโอ
Motion AF Tracking
อันนี้ถ้าเราถ่ายวีดีโอแล้วอยากจะโฟกัสติดตามวัตถุอัตโนมัติ คุ้นๆ ไหมคะว่าเหมือนฟีเจอร์ที่เราใช้ไม้กันสั่นเลย เพื่อนๆ สามารถเลือกวัตถุใด ๆ ในภาพเพื่อโฟกัส จะติดตามวัตถุนั้นอัตโนมัติ และยังป้องกันการสั่นไหวของภาพได้ดีอีกด้วย
โหมดติดตามวัตถุอัตโนมัติ
เวลาถ่ายวีดีโอกล้องหลัง แนะนำให้ตั้งค่ากล้อง เลือก 4K, 1080p, 720p ก่อน เลือก Frame Rate 30fps หรือ 60fps ถ้าอยากจะให้กล้องโฟกัสติดตามเราตลอด ต้องเลือกโหมด 30fps เพราะโหมด 60fps ไม่รองรับ
การถ่ายภาพ พยายามถือโทรศัพท์ให้นิ่ง วงกลมอยู่ตรงกลาง ถ่ายง่าย แต่แม้จะมีกันสั่น ถ้ามือเรานิ่งด้วยก็ยิ่งทำให้ภาพสมูทมากยิ่งขึ้น
โหมดการถ่ายภาพ เลือกให้ใช้การแตะหน้าจอ ส่งเสียง cheese หรือใช้ฝ่ามือสั่งถ่ายภาพได้ ใส่ลายนิ้ว เวลา และโลโก้บนภาพได้ รวมไปถึงการแสดง ฮิสโตแกรม และการถ่ายภาพ 12MP RAW + JPEG
การถ่ายภาพกลางคืน AI Super Night Mode เลือกโทนสีกลางคืนได้ตามต้องการ
กล้องหลัง 48MP f1.6 ทำงานร่วมกับกิมบอล ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ดีมากๆ คมชัด ไม่สั่นไหว ยิ่งมืด ก็ปรับให้ภาพสว่างมากยิ่งขึ้น เลือกโทนของสีภาพได้ โดยเฉพาะตอนกลางคืน ยิ่งทำให้ได้ภาพสวยๆ ตอนกลางคืน
ด้านหลังมีเลนส์พิเศษ Periscope Telephoto ความละเอียด 8MP รองรับการซูม 60 เท่า โดยเป็น 5x Optical Zoom ซูมไกลภาพไม่แตก และ 60x Hyper Zoom เวลาเราซูมไกลๆ รู้สึกไหมว่ามือเราไม่นิ่ง พอมีกิมบอล แล้วซูมไกลๆ ภาพก็ยังนิ่ง
Super Moon ซูมเห็นดวงจันทร์
สายซูมดวงจันทร์ต้องชอบแน่ๆ โดยมี AI ช่วยวิเคราะห์ ทำให้ภาพคมชัด ซูมไกลภาพก็ยังคมชัด ไม่สั่นไหว ตอนถ่ายเข้าโหมด Super Moon แนะนำให้กดเลือกที่ 10 เท่าก่อน จากนั้น 30 เท่า และ 60 เท่า
Astro Mode โหมดส่องดาว
นอกจากดวงจันทร์แล้ว ยังมีโหมดส่องดาว โดยกดไปที่ “เพิ่มเติม” แล้วกดไปที่ “ดาวเต็มท้องฟ้า” (Astro Mode) โหมดนี้แนะนำให้ใช้ขาตั้งกล้อง โดย AI จะคิดให้เราว่าตรงนี้มีกลุ่มดาวอะไรบ้าง ภาพนี้ตั้งบนขาตั้งกล้อง ใช้เวลาถ่ายประมาณ 2 นาที ก็จะได้ภาพสวยๆ แบบนี้ (เวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่า) อุ้มคิดว่าถ่ายสวยกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ
Pro Sport Mode
โหมดนี้ตามชื่อคือใช้ถ่ายกีฬา เช่น นักแบต เทนนิส แต่อุ้มเอามาใช้ถ่ายแมว ซึ่งเคลื่อนไหว ไวซะเหลือเกิน ก็จะได้ภาพประทับใจในบางโมเมนต์
ถ่าย Portait
หน้าชัด – หลังเบลอ ทำได้ดีทั้งกลางวันและกลางคืน ใช้เลนส์ Portrait 13MP 50ม.ม. Prime Lens มาให้ เป็นระยะกล้องปกติที่ถ่ายคนได้สวยงาม
โบเก้ ทำได้ละเอียดดี แต่ภาพนี้สังเกตการเบลอเพี้ยน เพราะฉากหลังเป็นช่องใส จึงทำให้การเบลอมีผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ตัวคนเบลอได้ดี ไม่เพี้ยนเลย แต่หลายภาพก็เบลอสวยแบบโปร
ถ้าตอนกลางคืนอยากถ่ายโบเก้ไฟ ไฟด้านหลังเบลอเป็นดวงๆ ก็ทำออกมาได้สวย โดยปรับเลือกสไตล์ได้เลย นอกนั้นกล้องคิดให้จบเลยเลือก ภาพคน เลือก สไตล์ มีแสงต่างๆ ที่เหมาะกับช่วงเวลานั้นๆ โดยมีตัวอย่างภาพให้ดูเลย แถมเลือก ความงาม ใบหน้า แก้ม มีการแนะนำท่าทางให้เราเป็นตัวอย่างด้วย
กล้องหน้า ความละเอียด 32MP พร้อม Selfie lighting
อุ้มลองให้หลายคนเอาไปถ่ายเซลฟี่ ได้ภาพที่สวยมาก เนียน ไม่หลอกตา ยิ่งใครชอบใช้แอป ulike น่าจะชอบ คือถ่ายแล้วผิวยังเป็นสีผิวที่เป็นธรรมชาติอยู่
ส่วนการตัดขอบเส้นผม เสื้อผ้า ในบางจุดอาจมีเพี้ยนไปบ้าง ขึ้นอยู่กับ สภาพแสง และฉากหลังด้วย แต่เรื่องการเซลฟี่ ไม่ต้องแต่งหน้า ก็ถ่ายได้สวยมากจริงๆ สิ่งที่อุ้มชอบคือการมีท่าทางให้นางแบบทำท่าตามได้เลย อันนี้ดีมาก โดยการถ่ายภาพยังดูเหมือนตัวจริง ไม่ใช่หลอกตา ไม่ถึงกับ เจอกันแล้วจำไม่ได้เลย
ส่วนการถ่ายวีดีโอกล้องหน้า รองรับสูงสุด 1080p ดูตัวอย่างวีดีโอได้ในคลิป
ประสิทธิภาพ
อุ้มทดสอบเล่นเกมหลายเกม รู้สึกว่าจับได้ถนัดมือ เล่นเกมได้ลื่นมากๆ ปรับค่า PUBG ปรับกราฟิก HDR HD ได้ และปรับเฟรมเรต Ultra ได้ ปรับความละเอียดภาพในเกมได้ จอลื่นมากๆ จัดการเรื่องความร้อนได้ดี ปกติรุ่นอื่นถ้าใช้ถ่ายภาพนานๆ แล้วจะเจอ Over Heat แต่รุ่นนี้รักษาเรื่องความร้อนได้ดี
การใช้งาน รุ่นนี้รองรับ Dark Mode เลือกโหมดมืดได้ รองรับ Wi-Fi 2.4GHz และ 5GHz มีโหมดสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ โหมดถนอมสายตา จับภาพหน้าจอแบบยาวได้โดยไม่ต้องง้อแอปอื่น มีโหมดห้ามรบกวน รองรับ NFC พร้อมฟีเจอร์เร่งความเร็วเครื่อง
Ultra Game Mode
มีโหมด e-Sport ด้วย บล็อคการแจ้งเตือนต่างๆ ให้รบกวนการเล่นเกมให้น้อยที่สุด คำนึงถึงเรื่องเฟรมเรตดีที่สุด เพื่อการเล่นเกมที่ดีที่สุด โหมดบอท บางเกมถ้าจอดับเกมก็หยุด กำหนดให้เล่นขณะจอดับได้ด้วย ปิดการแจ้งเตือนการโทรได้ ป้องกันพลาดแตะโดนจอได้ด้วย เรียกว่า ฟังทุกเสียงของนักเล่นเกมมาปรับปรุงให้ใช้งานได้จริงเลย
นอกจากนี้มี Multi-Turbo เร่งเทอร์โบให้เครื่องแบบฉลาดๆ ทั้งการเล่นเกม การใช้งานเครือข่าย และการใช้งาน
แอปต่างๆ
Picture in Picture ในเกม (PiP)
ถ้าเราเล่นเกมอยู่แล้วมีแช็ตเข้ามา อย่าง Messenger, SMS และแอปแช็ตอื่นๆ ไม่ต้องออกจากเกม หรือสลับหน้าต่าง แต่กดพิมพ์ตอบแช็ตได้เลย
การแยกหน้าจอข้อความ ตอนที่เราใช้แอป สามารถแช็ตคุยไปด้วยได้เลย โดยไม่ที่รบกวนแอปที่ใช้อยู่ปัจจุบัน
นอกจากนี้มีฟีเจอร์อื่นๆ อย่างเช่น การแชร์ Hotspot คลื่น 2.4GHz และ 5GHz รองรับ USB OTG เอาแฟลชไดร์ฟ หรือเม้าส์ คีย์บอร์ด มาเสียบได้ (ใช้อแดปเตอร์ที่รองรับ) การโทรวีดีโอใบหน้าสวย การใช้งานมือเดียว มีแผงตัวเลขมาให้กดง่ายๆ และมีโหมดถนอมสายตา
ชิปเสียง Hi-Fi
ถ้าใช้กับหูฟังในกล่อง เข้าไปที่ “setting” > “เสียงและการสั่น” กดไปที่ “Hi-Fi”
หากใช้งานร่วมกับ หูฟังไร้สาย Vivo TWS Neo จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทุกฟังก์ชั่น เพราะรองรับเทคโนโลยี APTX_ADAPTIVE เสียงคุณภาพสูง พร้อมใช้การสัมผัส เอฟเฟ็กต์เสียงหูฟังได้เต็มรูปแบบ
อีกฟีเจอร์เด่นคือ คือ ชิปเสียง Hi-FiAK4377A Precision 32-bit ขับเสียง 125dB Maximum Dynamic Range มีค่า Response Rate 384kHz รองรับ -107dB THD+Noise หากใช้งานร่วมกับหูฟังไร้สาย TWS Neo จะใช้งานได้สมบูรณ์แบบที่สุด เพราะตัวเครื่อง Vivo X50Pro 5G รองรับคุณสมบัติ aptX มาตราฐาน CD Audio การใช้งานร่วมกับหูฟัง TWS Neo ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สรุป
อุ้มชอบมากๆ ใช้งานเป็นเครื่องหลักได้เลย ในกลุ่มราคาใกล้เคียงกัน ทำได้ในระดับ Hi-End ได้เลย แม้ตัวชิปเช็ตไม่ใช่ตัวท็อป แต่ก็ใช้งานได้ดี สาวๆ ต้องชอบกล้องหน้าแน่ๆ ตัวกล้องมีกิมบอลแบบฮาร์ดแวร์ในตัว แบบที่เราใช้ไม้กันสั่น การถ่ายวีดีโอ กันสั่นวีดีโอนิ่งมากๆ ดีมากๆ และถ่ายภาพนิ่งตอนที่ซูมไกลๆ ได้คมชัดไม่สั่นไหว ถ่ายภาพกลางคืนทำได้ดีมากๆ มีโหมดถ่ายดาว Astro Mode โหมดถ่ายดวงจันทร์ เรื่องการซูม ทำได้ดี ไม่สั่นไหว คือกิมบอลเข้ามาช่วยเรื่องการซูมไกลๆ ได้ดีมาก ติดแค่เรื่องสีของตัวเครื่อง อาจจะไม่ได้มีเลือกนัก