ช่วงนี้อาจจะกลับมาเจอกันบ่อยสักหน่อยนะคะ เพราะว่ากระแส iPad2 กำลังร้อนแรงมาก
ได้ข่าวราคาที่เข้าเมืองไทยหลายๆเจ้าที่ MBK เริ่มต้นกันที่ 30000 เลยทีเดียว
เห็นแล้วอยากจะหิ้วกลับไปบ้าง ฮ่าๆๆ ~~~
มาเข้าเรื่องกันบ้างดีกว่าค่ะ หลังจากที่ได้อ่านรีวิวจากหลายๆสำนักเกี่ยวกับ iPad2
จนเกือบจะอดใจไม่ได้ ก็เลยหันกับมานั่งมองน้อง iPad ว่ายังเหลืออะไรที่ยังไม่ได้รีวิวอยู่บ้าง
ตอนนี้ก็คงไม่พ้น เจ้า Case+Bluetooth Keyboard สุดฮิตในต่างประเทศที่ชื่อว่า
“Zaggmate” ตัวนี้แหละค่ะ จริงๆแล้วจะมี 2 รุ่นนะคะ คือแบบมี keyboard กับไม่มี
เรามาเริ่มด้วยการดู Spec จากทางเว็บ Zaggmate กันก่อนดีกว่าค่ะ
Size and Weight
Height: 9.75 inches (248 mm)
Width: 7.625 inches (194 mm)
Depth: .4 inches (10.2 mm)
Depth w/keyboard: .54 inches (13.7 mm)
Weight: 7 ounces (.2 kg)
Weight w/keyboard: 12.8 ounces (.37 kg)
In the box
ZAGGmate iPad Case
MicroUSB cable for charging
Quickstart guide
Four rubber feet (optional)
Battery
ZAGGmate iPad Case with keyboard uses a 510 mAh rechargeable lithium polymer battery that will last several weeks of normal use without charging.
น้ำหนักโอเค หน้าตาดี ทำให้เคสตัวนี้ น่าสนใจขึ้นมาทันที
จะเป็นยังไงบ้าง ไปลองดูในคลิปวิดีโอเลยดีกว่า
[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=Vl5sg6258jM]
ต่อไปก็จะเอาเจ้า iPad ใส่ Zaggmate แล้วไปวางเทียบกับ iPhone4 / Macbook Pro 13.3″
ลองเทียบปุ่ม Keyboard ดูนะคะ ขนาดไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ว่า Zaggmate จะชิดกันกว่าเยอะเลย
สามารถวางในลักษณะนี้ เพื่อใช้เล่นเกมส์ได้ค่ะ
หลังจากที่ทดสอบใช้งานมาสักพัก ก็คงต้องบอกว่าเป็นเคสที่คุ้มค่า
แล้วก็เหมาะแก่การนำไปเรียน หรือว่าทำงานเป็นอย่างยิ่ง
เพราะว่า ทำงานได้หลายๆอย่าง และมันทำให้ iPad สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นค่ะ
สำหรับในตอนนี้ทาง website Zaggmate ก็ออกมาให้ pre-order
สำหรับรุ่น iPad2 กันแล้วนะคะ ด้วยราคาเท่าเดิมคือ $99
วันนี้ก็ขอจบการรีวิว ไปคันกับ iPad2 นอนกอด iPad1 ต่อก่อนนะคะ